ศาลไม่ให้ประกันตัว 'หลงจู๊สมชาย' เข้าเรือนจำ หวั่นหลบหนียุ่งเหยิงพยาน


เพิ่มเพื่อน    

27 มี.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องฝากขังหลงจู๊สมชาย อายุ 55 ปี เจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่ในภาคตะวันออก ผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่น มีเนื้อหาสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2563 นายพนัส อิ่มหนำ และนายนิพนธ์ ปานทอง ได้ใช้อาวุธปืนสั้นยิงนายประทุม สอาดนัก อายุ 47 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้างถึงแก่ความตาย บริเวณหลังรร.เมืองพัทยา 8 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายถาวร สาระกูล และนายสุพรรณ ใหม่งาม เป็นคนติดต่อและจ้างวานใช้ เนื่องจากโกรธแค้นผู้ตายที่นำข้อมูลบ่อนพนันของนายสมชาย ผู้ต้องหาไปเปิดเผย จนบ่อนพนันต้องปิดตัว ทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก จากการสืบสวนทราบว่า นายสมชาย ผู้ต้องหา เป็นผู้จ้างวานใช้ให้ฆ่านายประทุม ผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขออนุมัติหมายค้นที่ 311/2564 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2564 และหมายจับที่ 479/2564 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2564 ของศาลอาญา ติดตามจับกุมนายสมชาย ได้เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2564 ที่บ้านพักใน ต.เนินพระ  อ.เมือง จ.ระยอง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยตลอด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องสอบพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจประวัติอาชญากรผู้ต้องหาและอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าว จึงขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. - 7 เม.ย.นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่ในภาคตะวันออก มีเครือข่ายฟอกเงินจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความสงบสุขและสังคม ทั้งยังใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้

นอกจากนี้ ยังมีคำร้องฝากขังอีกหลายสำนวนเกี่ยวกับหลงจู๊สมชายกับพวก ในความผิดฐานจัดให้มีการเล่นพนัน และร่วมกันฟอกเงินอีกด้วย โดยต่อมาตัวหลงจู๊สมชายและนายธนา บุตรชาย กับผู้ต้องหาบางคนไม่ได้ยื่นประกันตัว แต่มี น.ส.นภัสสร ปรุโปร่ง ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายวราวุธ วรวุฒิปรีชาเวชช์ ผู้ต้องหาที่ 2 ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 389/2564 ความผิดฟอกเงิน น.ส.ริตา ศิริม่วง ผู้ต้องหาที่ 5 และ น.ส.อนัญญา กุนเทียน ผู้ต้องหาที่ 6 ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 392/2564 ความผิดฟอกเงิน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ขอประกันตัวในชั้นฝากขังนี้

ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดี ประกอบคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่า การกระทำความผิดเป็นเครือข่ายขบวนการ กระทบต่อศีลธรรมและความสงบสุขของสังคมส่วนรวม คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีถือเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ในชั้นฝากขังนี้ต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"