31มี.ค.64-เป็นที่ประจักษ์ดีว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีสัมพันธไมตรี และมิตรภาพอันดีสมอมากับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยพระองค์ทรงศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรม ภาษา และดนตรี อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งยังทรงเสด็จเยือนประเทศจีนครบทุกมณฑล จนได้รับพระสมัญญานามว่า ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน และทรงได้รับการถวายรัฐมิตราภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย 

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน 2564 ทางกระทรวงวัฒนธรรม  ร่วมกับ โครงการสุขสยาม ไอคอนสยาม และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จัดโครงการ “ด้วยรักและผูกพัน สายสัมพันธ์ จีน – ไทย ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ อีกทั้งสร้างการรับรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน แก่ผู้ที่สนใจ นักท่องเที่ยว เยาวชน 

 โดยภายในงานประกอบด้วย อาทิ การจัดแสดงหนังสือพระราชนิพนธ์ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ฉายภาพยนตร์ไทย-จีนให้ชมฟรี ร้านหนังสือวรรณกรรมไทย-จีน เวทีการแสดง ร้านอาหารไทยและจีน และร้านผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม รวมทั้งกิจกรรมสาธิตการประดิษฐ์งานศิลปะ ได้แก่ การทำพัด การวาดหน้ากากจีน การตัดกระดาษจีน   และการทำศิลปะภาพพิมพ์ งานมีขึ้นในระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2564 ณ เมืองสุขสยาม ชั้น G  ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ

 ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

 ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในวันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์ของพสกนิกรชาวไทยนานัปประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศที่โดดเด่น คือ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งในปี 2564 ยังเป็นปีครบรอบ 46 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย

 “เป็นที่รับรู้ดีว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกันมาอย่างยาวนาน จวบจนปัจจุบัน ที่จะเห็นว่าคนจีนที่เข้ามาอยู่ในไทยได้สร้างคุณประโยชน์ต่างๆมากมาย ดังนั้นในการจัดโครงการครั้งนี้นับว่าเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นไทย-จีน และสร้างการรับรู้ศิลปวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการแสดง วรรณกรรม อาหาร งานหัตถกรรมต่างๆ” ปลัด วธ. กล่าว

ด้าน นายกู้ หงซิน ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนตลอดระยะเวลา 46 ปี รัฐบาลของทั้งสองประเทศก็มีความเชื่อใจกันอย่างลึกซึ่ง รวมไปถึงความมือทางเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หรือวัฒนธรรม ที่มีการแลกเปลี่ยนกันเป็นอย่างดี แม้แต่ในยามวิกฤตก็มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นดั่งเพื่อนบ้าน มิตรสหายที่ดีต่อกันเสมอ อย่างในเหตุการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนทั้งสองประเทศได้ร่วมมือต่อสู้กับด้วยกัน ทุกการกระทำจึงแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพอันลึกซึ้ง อีกทั้ง กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ยังเป็นที่รักของประชาชนชาวจีน เพราะพระองค์ทรงมีความสามารถในการใช้ภาษาจีน เขียนพู่กันจีน และชื่นชอบวัฒนธรรมจีน เครื่องดนตรีจีน  สะท้อนให้เห็นว่าทรงอุทิศตนเพื่อสืบสานมิตรภาพอันดีให้ยาวนานและแน่นแฟ้นสืบต่อไป

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการสุขสยาม กล่าวว่า เนื่องจากเล็งเห็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สะท้อนความงดงามทางวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม ของทั้งสองประเทศที่เข้าใจความแตกต่างอย่างลงตัว กลายเป็นสื่อกลางหลอมรวมวิถีชีวิตของคนไทยและจีนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน หวังว่าในการจัดงานครั้งนี้จะนำไปสู่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานต่างๆ  และตระหนักถึงคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรม อนุกรักษ์ให้คงอยู่

อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน ด้วยรักและผูกพัน สายสัมพันธ์ จีน – ไทย ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน ในระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2564 ณ เมืองสุขสยาม ชั้น G  ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ 
 

กิจกรรมเพ้นท์หน้ากาก

การแสดงจีน

กิจกรรมวาดพัด

ร้านอาหารฮะเส็ง ร้านอร่อย 100 ปี

ที่จะร่วมกิจกรรมในงาน