
"บิ๊กป้อม" ไม่ห้ามม็อบไล่นายกฯ 4 เม.ย. แต่อย่าทำผิด กม. เชื่อไม่มีอะไรรุนแรง "เสื้อแดงภาคเหนือ" บอกเข็ดแล้วประกาศไม่ร่วมงานกับจตุพร "ตำรวจ" จัดกำลังพร้อมรับมือการชุมนุม "คณะก้าวหน้า" นัด 6 เม.ย.เดินหน้าแคมเปญขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ "สหายคนเดือนตุลา" เปิดตัว OctDem แถลงจี้ให้ประกันตัวแกนนำถูกจับ ม.112 "โตโต้" เศร้ารอดคุกไม่กี่ ชม. หลังศาลให้ประกันตัวโดน ตร.อายัดตัวอีก
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 2 เม.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมระดมประชาชนมาร่วมขับไล่นายกรัฐมนตรีวันที่ 4 เม.ย.ว่า แล้วจะให้ตนทำอย่างไร อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน จะชุมนุมกันอย่างไรก็ว่าไป
ถามว่าเป็นห่วงจะเป็นจุดเริ่มต้นความรุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่หรอกๆ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการรายงานว่าจะมีความรุนแรงแต่อย่างใด
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยพูดคุยกับนายจตุพรมาตลอดถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งนายจตุพรเคยพูดตอนออกจากเรือนจำว่าถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลืออะไร อยู่ในคุกเหมือนการอยู่ในนรกของคนเป็น ตนจึงต่อสายให้ได้คุยกับผู้ใหญ่ให้ทราบถึงความเดือดร้อนและการสนับสนุนช่วยเหลือ และที่ผ่านมาเตือนตลอดว่าหมดเวลาเป็นแกนนำเสื้อแดง เพราะในที่สุดเราก็ถูกทอดทิ้ง
"อย่ามาบอกว่าออกมาจากเรือนจำจะจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน แต่พอถึงเวลาอาจถูกใครชักจูงหรือให้งบประมาณ ซึ่งผมก็ไม่ทราบ แต่เมื่อจงรักภักดีต่อสถาบัน จะมาเคลื่อนไหวโดยอ้างพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างนี้ไม่ได้" นายเสกสกลกล่าว
ส่วนนายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ ได้เชิญอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง 8 จังหวัดภาคเหนือมาร่วมประชุม เพื่อวางนโยบายนำข้อมูลข่าวสารอันถูกต้องไปเผยแพร่กระจายให้กับอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแต่ละจังหวัดของภาคเหนือได้รับทราบ
นายสมชัยกล่าวว่า เราจะขอเดินในนามภาคประชาชน จะไม่ไปเป็นเครื่องมือให้กับใคร โดยเฉพาะการชุมนุมขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่นายจตุพรจะเรียกคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ทางกลุ่มคนเสื้อแดงและอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือจะไม่ไปร่วมกิจกรรมอย่างเด็ดขาด
"พวกเราเข็ดแล้วกับพฤติกรรมของนายจตุพร ที่จะมาหลอกลวงพวกเราออกไปเรียกร้องประชาธิปไตยกับวลีเดิมๆ ที่ว่าขับไล่รัฐบาลเผด็จการ สุดท้ายแกนนำสู้แล้วรวย ส่วนมวลชนสู้แล้วตายบ้างก็ถูกดำเนินคดี” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งให้ผู้บังคับการพื้นที่เตรียมกำลังและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ทุกมิติ ขณะนี้ในพื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่ห้ามมีการชุมนุมหรือมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.รบ.โรคติดต่อ ผู้เชิญชวนและผู้ชุมนุมจะมีความผิดตามกฎหมายทั้งหมด
วันเดียวกัน เพจคณะก้าวหน้าเผยแพร่กำหนดการแถลงข่าวเปิดแคมเปญ “ขอคนละชื่อ รื้อระบอบประยุทธ์” ชวนประชาชนลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางสู่ประชาธิปไตย ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ เวลา 15.00 น. ที่ห้องอเนกประสงค์ 1 หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดย Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นความร่วมมือของคณะก้าวหน้า กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า พรรคก้าวไกล และ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เปิดตัวแคมเปญเพื่อล่ารายชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 รายมาตราใน 4 ประเด็นหลัก คือ 1.ล้มวุฒิสภาเดินหน้าสภาเดี่ยว 2.โละศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ปฏิรูปที่มาอำนาจการตรวจสอบ 3.เลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป ปลดโซ่ตรวนอนาคตประเทศ และ 4.ล้างมรดกรัฐประหาร หยุดวงจรอุบาทว์ ขวางประชาธิปไตย
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ได้ส่งจดหมายถึงทางผู้จัดงาน ระบุไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดงานแคมเปญรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว โดยให้เหตุผลว่า “กิจกรรมมีแนวโน้มไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้” และเป็นการเมืองเกินไป
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "สนับสนุนข้อเรียกร้องให้สิทธิการประกันตัวกับผู้ถูกกล่าวหาคดีการเมือง และให้ได้รับสิทธิการพิจารณาคดีอย่างอิสระและเที่ยงธรรม ผมสนับสนุนอย่างจริงจังให้ประเทศยึดมั่นในหลักนิติธรรม มีกระบวนการยุติธรรมที่เปิดเผยโปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้ความเป็นธรรม แก่ทุกฝ่ายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่อิสระ ผู้ถูกกล่าวหาทุกคน ตราบใดที่ยังไม่ถูกตัดสินในคดีความจนเป็นข้อยุติ และคดีความยังไม่ถึงที่สุด ตามกระบวนการยุติธรรม ต้องถือว่าผู้ถูกกล่าวหานั้นเป็นผู้บริสุทธิ์และสมควรอย่างยิ่งจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ยุติธรรม เฉกเช่นผู้บริสุทธิ์"
ที่ลานสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดกิจกรรมเปิดตัวกลุ่ม OctDem หรือกลุ่มคนเดือนตุลาเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เพื่อเรียกร้องให้ศาลพิจารณาอนุญาตประกันตัวแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม
นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ และนายพนัส ทัศนียานนท์ ที่เคยร่วมอยู่ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 เป็นตัวแทนวางช่อดอกไม้บนปฏิมากรรมรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์
จากนั้น นายธเนศ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ่านแถลงการณ์ถึงศาลยุติธรรม ตอนหนึ่งระบุว่า ตามที่บรรดานักเรียน นิสิตนักศึกษา เยาวชน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยได้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ฝ่ายรัฐได้ใช้อำนาจปราบปรามจับกุมคุมขังพวกเขาไว้ในเรือนจำ ปรากฏว่าศาลยุติธรรมไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัวพวกเขา โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเห็นว่าระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยและนิติรัฐนิติธรรมนั้น การที่ศาลยุติธรรมจะพิจารณาพิพากษาอรรถคดีและทำคำสั่งใดๆ จะต้องเป็นไปโดยยุติธรรมและตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ยุติธรรม การไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้
ถามว่ากลุ่ม OctDem จะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มนักศึกษาด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า คงไม่ใช่การร่วมขบวนเคลื่อนไหว แต่เราเป็นผู้ถูกกระทำในอดีต มีประสบการณ์บทเรียนจากการปราบปราม เข่นฆ่า ใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม เราจะใช้ประสบการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ หากผู้มีอำนาจยังปราบปรามผู้ที่เห็นต่างแบบนี้ก็จะเกิดความสูญเสีย
"นี่ไม่ใช่การเข้าร่วมเป็นขบวนเคลื่อนไหวกับกลุ่มนักศึกษา เพราะเชื่อว่าเราไม่สามารถไปเพิ่มจำนวนคนได้ แต่จะรวบรวมประสบการณ์นำเสนอสังคมแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนจุดยืนของกลุ่ม ยอมรับว่ามีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่กลุ่มเรายังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ร่วมกัน" นายจาตุรนต์กล่าว
ซักว่าทางกลุ่มมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน นายจาตุรนต์กล่าวว่า ทางกลุ่มมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในเรื่องเกี่ยวกับหลักนิติธรรม ซึ่งเรื่องที่ต้องทำเฉพาะหน้าตอนนี้คือเรื่องของการประกันตัวผู้ต้องหา ไม่ว่าจะถูกข้อหาใดก็ตาม ถ้ายังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ต้องได้รับสิทธิ์ประกันตัว เราจึงไม่ได้ดูไปที่ข้อเรียกร้องและเนื้อหาของนักศึกษา เพราะเราพูดหลักใหญ่คือหลักนิติธรรม
จากนั้น ในเวลา 14.00 น. ทางกลุ่ม OctDem ได้เดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังศาลฎีกา เพื่อยื่นหนังสือต่อตัวแทนประธานศาลฎีกา แสดงเจตนารมณ์ของกลุ่มด้วย
ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อายุ 28 ปี แกนนำกลุ่ม Wevo ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ซ่องโจรฯ โดยหลังมีการไต่สวนคำร้อง 2 วันที่ผ่านมา ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายปิยรัฐ ผู้ต้องหามาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะที่ทนายความเดินทางมาฟังคำสั่งการปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากการสอบสวนแล้ว ขณะนี้มีความชัดเจนเพียงข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปฯ เพื่อก่อความวุ่นวาย ซึ่งมีอัตราโทษน้อย และจะต้องสอบสวนต่อไปว่า กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และซ่องโจรหรือไม่ จึงเห็นควรให้ปล่อยชั่วคราว โดยให้วางหลักทรัพย์จำนวน 45,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามพกพาอาวุธไปในการชุมนุม หรือนำอาวุธไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม หลังนายปิยรัฐได้ประกันตัวไม่กี่ชั่วโมง เวลา 17.30 น. เฟซบุ๊กเพจ We Volunteer ของกลุ่มการ์ดวีโว่ โพสต์ว่าโตโต้ ปิยรัฐ ได้ถูกอายัดตัวต่อ หลังได้รับการประกันตัว โดยมีรถตำรวจนำตัวออกไปจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายปิยรัฐไปยัง สน.ประชาชื่น.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |