ภูมิธรรมจี้รบ.เยียวยา‘ปู’ ปชป.ย้ำจีทูเจี๊ยะยังไม่จบ


เพิ่มเพื่อน    

 “ราเมศ” ย้ำคดีจำนำข้าวยังไม่จบ ชี้ถ้า “ยิ่งลักษณ์” มั่นใจไม่ผิดจริงก็กลับมารื้อฟื้นคดีอาญาด้วย “สหายอ้วน” ซัดรัฐบาลต้องเร่งเยียวยา “นารีปู” ยอมรับความผิดพลาด อย่าดันทุรังอุทธรณ์

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีศาลปกครองพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่าเป็นดุลพินิจของตุลาการที่ทุกคนต้องน้อมรับ แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ยังต้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต้องรอฟังกันต่อไป
     “สิ่งหนึ่งที่กระทรวงการคลังต้องเพิ่มเติมชี้ประเด็นเพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดได้เห็น คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ อันเป็นที่มาของความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน คือรู้อยู่แล้วว่าไม่มีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริง ต้องชี้ประเด็นให้ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้รับทราบข้อมูลการซื้อขายแบบจีทูจีหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นต่อไปฝ่ายการเมืองคิดจะทำอะไรก็ได้ กรณีนี้ถึงย้ำว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ในชั้นอุทธรณ์ต้องติดตามกันต่อไป และถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดว่าไม่มีความผิด ก็กลับมาสู้คดีได้ในคดีอาญา หากคิดว่ามีพยานหลักฐานใหม่ก็กลับมาขอรื้อฟื้นคดีดู” นายราเมศกล่าว
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ศาลปกครองกลางวินิจฉัย อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นมลทินจำนำข้าว ไม่ได้เป็นอย่างที่โฆษณา” มีเนื้อหาว่า ศาลปกครองกลางคืนความยุติธรรมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งศาลชี้ว่า คำสั่งที่เอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง อดีตนายกฯ ไม่ต้องรับผิดในคดีรับจำนำข้าว คำสั่งกระทรวงการคลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นธรรมแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายในโครงการ อีกทั้งโครงการเป็นโครงการที่ได้ดำเนินการตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ได้ดำเนินการภายในกรอบวงเงินที่ขอไว้อย่างถูกต้อง อีกทั้งถือเป็นการดำเนินการในฐานะผู้กำหนดนโยบาย ที่ได้รับการสนับสนุนผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชน
“เห็นได้ชัดเจนว่า การพยายามเอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์เรื่องดังกล่าว เป็นการกระทำที่พยายามใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเข้ามายึดอำนาจในปี 2557 โดยมุ่งหวังทำลายรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การดำเนินการเอาผิดและยึดอายัดทรัพย์สินนั้น เป็นการกระทำที่เร่งรัด เร่งรีบ ถึงขนาดใช้มาตรา 44 ออกมาคุ้มครองเจ้าหน้าที่โดยเหตุที่ฝ่ายราชการประจำ ซึ่งไม่เคยมีแนวทางแนวปฏิบัติให้กระทำเช่นนี้มาก่อน กรณีนี้จึงถือเป็นการกระทำที่มิชอบของผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง เป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ และขาดสำนึกทางจริยธรรม”
นายภูมิธรรมโพสต์อีกว่า ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบควรต้องทำสิ่งผิดพลาดที่ผ่านมาแล้วให้ถูกต้อง เพราะความยุติธรรมในบ้านเมืองเราถูกตั้งคำถามเรื่องสองมาตรฐานที่ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการกระทำต่อผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงต้องคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว ดีกว่าพยายามจะดันทุรังและคิดหาเหตุผลแก้เกี้ยวไม่รู้จบ เพื่อพยายามอธิบายการกระทำที่ผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา คิดผิดคิดใหม่ได้ สง่างามกว่าการดันทุรัง หาแง่มุมทางกฎหมายมาอธิบายเพื่อปกป้องการกระทำที่บิดเบือนหลักการที่ถูกต้อง หยุดบิดเบือนกฎหมายเพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่เคยกระทำ ประเทศเราเสียหายด้วยการกระทำเช่นนี้มามากพอแล้ว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"