กระแสปลุกทำไมจุดไม่ติด?


เพิ่มเพื่อน    

      ก็อย่างที่ว่า..........!

      ส่งกากนักศึกษา เล่นบท "อยากเลือกตั้ง" แหกกฎเพื่อให้ตำรวจจับ

      จับเพื่อ "สร้างเงื่อนไข"

      ให้พวก "ตัวการหลังฉาก" ยกเป็นความสมเหตุ-สมผลด้านสิทธิเสรีภาพ

      ออกฉาก "ฉะรัฐบาล" อย่างเท่ๆ

      ก็ต้องบอกว่า "สนามการเมือง" ว่าด้วยการเลือกตั้งในสังคมไทยวันนี้

      ต้องใช้สไตล์ "เถื่อน-ถ่อย" แบบสถุลจัดเต็ม ถึงจะดึงดูดความสนใจชาวบ้าน ให้หันมามองได้

      มองดี-ไม่ดี ช่างมัน............

      ขอให้มองไว้ก่อน ให้รู้ว่า "ใครเป็นเรา-เราเป็นใคร" แค่นั้นก็เหลือหลาย

      จากนั้น ค่อยใช้ความเป็นคนสังคมรู้จัก "ลงตะไบ" เอาทีหลัง!

      นี่...."การสร้างตัว" ของคนยุคไอที ที่โซเชียลมีเดียทุกคนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ไปถึงขั้นนั้นแล้ว

      เรื่องดีๆ จะสังเกตเห็นว่า "ไม่ดัง"

      แต่เรื่องอัปรีย์ ทำอัปรีย์ จะดังเปรี้ยง!

      เข้าทำนอง "ทำเลวได้โล่" ทุกวันนี้ จึงมีคนอยากทำเลว เพราะทำแล้ว ทั้งดัง ทั้งได้โล่

      เคยเห็นคนทำดี แล้วโทรทัศน์แย่งตัวไปออกรายการมั้ยล่ะ?

      ก็มีบ้างประปราย ต้องแบบหวยหาย แบบหัวร้อน แบบเมียนักร้องกะนักเลงหน้าเฟซ แบบนี้สื่อชอบ  แย่งตัวกันถึงขั้นเป็นข่าวซะเอง

      การเมืองว่าด้วยตลาดนักเลือกตั้งก็เป็นอย่างนั้น ใครขืนทำเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ดีประชาธิปไตยในศีล-ในธรรม

      โน่น...ไว้ถึง "ยุคพระศรีอาริย์" ค่อยมาพูดกัน

      วันนี้ ต้องสำรากใส่ สื่อถึงจะสนใจ

      และชาวบ้านก็ซี้ดซ้าด ชอบกันแต่แบบนี้ด้วยนะ!

      จึงไม่แปลก ที่สัตว์การเมืองประเภทนิยม "ของเน่า" เป็นอาหาร จะตามกลิ่น "ม็อบขยะ" มากันเป็นฝูง

      บอกว่ามาเยี่ยม.........

      เยี่ยมอาศัยบังหน้า แต่จริงๆ แล้วที่มา เจตนาจะมาด่ารัฐบาลให้สื่อเอาไปออกจอ "โฆษณาตัวเอง"

      เมื่อวาน จึงเห็นทั้ง "พระเอก-นางเอก" มาโหนพวกอยากเลือกตั้งบนโรงพักมากหน้าหลายตา

      การชุมนุมแล้วแหกกฎเพื่อให้ตำรวจจับเมื่อ ๒๒ พฤษภา ใครที่เคยศึกษาความเป็นมา-เป็นไป นำสู่เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ จะเห็น

      เห็นว่า วานซืน มันมาตาม "สูตรคนป่า" เปี๊ยบเลย!

      ชนวนนำสู่ ๑๔ ตุลา มีมากหลาย

      แต่จุดปะทุระเบิด อยู่ที่ นิสิต-นักศึกษา "กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ" ๑๒ คน

      มีอดีต ส.ส.นครพนม "ไขแสง สุกใส" ร่วมอีกคน รวมเป็น ๑๓ ออกมาเคลื่อนไหว

      "รัฐบาล" จอมพลถนอม-ประภาส ใช้ ม.๑๗ เหมือน ม.๔๔ วันนี้ ให้ตำรวจจับ

      เรียกว่า "จุดติด"

      ๑๔ ตุลา ระเบิดตูมเลย!

      ที่ว่าจุดติด ไม่ใช่นิสิต-นักศึกษาวันนั้น เจตนาสร้างเหตุ "เพื่อให้จับ" หวังสู่จุดวันมหาวิปโยค

      ต้องบอกว่า บรรยากาศ-สถานการณ์ บ้านเมือง ภายใต้อำนาจเผด็จการทหาร

      บวกแรงกระแทกสังคมจากภายนอก ผสมรอยแทรกด้วยระบอบ-ลัทธิเวลานั้น มันเป็น "เงื่อนไขถึงพร้อม"

      เป็นการถึงพร้อม.........

      ที่พร้อมด้วยประชาชนทั้งประเทศเห็นว่า ถึงเวลาบ้านเมืองต้องมีรัฐธรรมนูญ สู่การปกครองประชาธิปไตย แทนระบอบ "ถนอม-ประภาส" แล้ว

      จึงพูดได้ว่า การจับ ๑๓ นิสิต-นักศึกษา ครั้งนั้น คือจุดนำสู่การล่มสลายระบอบ "ถนอม-ประภาส" เมื่อ ๑๔ ตุลา

      ผมดูแล้ว แก๊งอยากเลือกตั้ง ที่จงใจพากันไปให้ถูกจับวานซืน ผู้วางแผน ก็เจตนาจะให้ "เข้าแผน"

      ก็เข้า...

      คือตำรวจจับเหมือนกัน ทีแรกก็ ๑๓ คน แต่จับเพิ่มทีหลัง เป็น ๑๕-๑๖ คนตอนนี้

      เข้าแค่แผน........

      แต่เงื่อนไข "บรรยากาศ-สถานการณ์" ทางสังคมบ้านเมือง มันไม่เข้า!

      สาเหตุหลักที่เลียนแบบแล้ว แต่ปลุกไม่ขึ้น เพราะ ครั้ง ๑๔ ตุลา

      -เงื่อนไขทางสังคมถึงพร้อม

      -"นิสิต-นักศึกษา" ปณิธานศรัทธา "บริสุทธิ์"

      -เงื่อนไขทางประชาชนถึงพร้อม

      แล้วดูวันนี้ แก๊งอยากเลือกตั้ง กำพืดสถุลมาจากไหน ด้วยเหตุผลอะไร ใครหนุนหลัง พฤติการณ์เป็นอย่างไร

      ที่สำคัญ สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้กับวันนั้น มันคนละเงื่อนไข

      วันนั้น รัฐบาลถนอม "ด้านการเมือง".....

      นอกจากยกบ้านเมืองให้ไอ้กันด้วยสโลแกน "รบนอกบ้านดีกว่ารบในบ้าน" จนไอ้กันขย่มเมืองแล้ว

      ด้านเศรษฐกิจสังคม แทบไม่ได้สร้าง "ทางอนาคต" ให้สังคมประเทศเลย 

      อ้อ...ก็มี

      สระบุรีเลี้ยวขวาที่เป็น "ถนนมิตรภาพ" ทุกวันนี้ กับสนามบินอู่ตะเภา นั่นแหละ

      เป็นทางอนาคตเส้นเดียว นอกเหนือ "ข้าวนอกนา-ฐานทัพ-คุกลับ" ที่รัฐบาลถนอม-ประภาส โดยไอ้กัน "ทิ้งไว้ให้"

      "ทิ้ง" ไว้ให้นะ...ขอย้ำ

      ไอ้กัน ไม่ได้มีเจตนา "สร้างไว้ให้" หรอก!

      ถนนมิตรภาพ จำต้องสร้าง เพราะไอ้กันต้องใช้เป็นทางสู่ฐานทัพหลายแห่งแถบอีสาน

      สนามบินอู่ตะเภา สร้างเพื่อให้ บี ๕๒ ขึ้น-ลง ขนระเบิดไปบอมบ์เวียดกง

      บางวันบินกลับมา ถูกเวียดกงยิงไฟไหม้ตูดแดงโร่เห็นบนท้องฟ้า ก่อนร่อนลง

      ถนนสายวังน้ำเขียวจากอู่ตะเภาไปทะลุปักธงชัยและฐานทัพโคราชทุกวันนี้

      สมัยนั้น สองข้างทาง รายเรียงด้วยค่ายทหาร กระสุนปืน ค.ดุ้นเบ้อเร่อ กองสุมเหมือนกองฟืน อะร้าอร่ามตามริมถนน

      ก็เพราะถนนนั้น ไอ้กันมันสร้าง เผื่อสำรองฉุกเฉิน เครื่องบินลงสนามไม่ทัน..........

      ก็ไถลไปตามถนนสายนี้ สองข้างทางเขาจึงไม่ให้มีเสาไฟฟ้าเลยซักต้น สมัยนั้น

      นี่ไม่ได้พูดตามตำรา หากแต่เห็นกะตา เพราะใช้ถนนเส้นนี้ตอนเป็นนักข่าว ไปทำข่าวประจำ

      ส่วนวันนี้ รัฐบาลประยุทธ์ "ด้านการเมือง".........

      แค่ทำให้บ้านเมืองไม่มีหมาบ้าออกมาไล่กัด-ไล่เห่า เผาบ้าน-เผาเมือง ตกใจเข้าห้าง เข้าร้านทอง ก็บุญโขแล้ว

      ยังไม่พูดถึงต้องแก้ปัญหา "รัฐบาลก่อนหน้า" ที่แดกทิ้งซากกันไว้ให้ล้าง-ให้เช็ด

      ด้านเศรษฐกิจและสังคม ไม่ต้องจาระไนซ้ำซาก........

      ที่ถากถางเส้นทาง EEC

      และในอีก ๕-๘ ปี กรุงเทพมหานครจะเปลี่ยนเป็น "มหานครแห่งอาเซียน"

      วันนี้ เหมือนต้นไม้เริ่มปลูก เห็นแค่ใบเลี้ยง ยังไม่รู้สึกว่า "ประชาชนจะได้อะไร" จากที่รัฐบาลประยุทธ์ลงหลักปักฐานไว้ให้

      ก็ด่ากันไปก่อนเป็นการผ่อนคลาย..........

      แต่ประชาชนอีกส่วน ที่คิดและมองตามด้วยวิสัยทัศน์ เขาเข้าใจ ว่านี่คือ "มรดก" ที่จะตกสู่ชั้นลูกหลานไทย

      ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ทำไว้ให้

      "คนรุ่นใหม่" ในอีก ๑๕-๒๐ ปี ข้างหน้า เมื่อเคว้งคว้างในทางตันอนาคต

      จะคิดกบฏแผ่นดิน ด้วยหมดศรัทธาด่าบรรพบุรุษว่าห่วยกันขนาดไหน?

      ขนาดวันนี้ แผ่นดินยังพอมีกินจากมรดกบรรพบุรุษสร้างเป็นทางอนาคตไว้ให้

      "คนรุ่นใหม่" บางส่วน ยังคิดอัปรีย์จัญไรอย่างที่เห็น แล้วถ้ารัฐบาล คสช.ไม่แผ้วถางทางอนาคตในวันนี้ทิ้งไว้ให้

      ถึงวันนั้น อย่างที่ว่า......

      "คนรุ่นใหม่" มันไม่สิ้นสำนึก ไปถึงขั้น จัดสรรที่ดินสนามหลวงขายหรือ?

      สรุป.....ที่พยายามปลุกกันตอนนี้-วันนี้ แต่ปลุกได้แค่พวกจมปลัก

      เพราะประชาชนส่วนใหญ่ "เข้าใจ" ในความจำเป็นต่อสถานการณ์

      และเห็น "สิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ทำ" จะเป็นอเนกคุณข้างหน้า

      จึงเกิด "เงื่อนไขประชาชน" นอกจากไม่สนการปลุกกระแสแก๊งอยากเลือกตั้งแล้ว

      ความรู้สึกชัง "ระบอบทักษิณ" เริ่มทวีคูณ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"