สามัคคีประชาชน แจงยิบ 10 เหตุผล 'รวมสี' ไล่ประยุทธ์


เพิ่มเพื่อน    

6 เม.ย.64 - นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มสามัคคีประชาชน  เผยว่า ตนขอชี้แจง 10 ประเด็นที่เป็นคำถามและเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงมาร่วมกันจัดเวทีสามัคคีประชาชนเพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากอำนาจ

ประเด็นที่ 1 เหตุผลหลักคือหมดเวลา พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะผูกขาดอำนาจทางการเมืองแล้ว ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด เพราะเขาทำชาติบ้านเมืองเสียหายมากว่า 7 ปี จนวันนี้ประชาชนทนไม่ไหวแล้ว ประเทศไทยจะต้องไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก เราไม่ต้องการให้ไทยต้องกลายเป็นเหมือนพม่าที่เกิดสงครามกลางเมือง เพื่อผลประโยชน์ของนายพลอาวุโสไม่กี่คน ส่วนไล่พล.อ.ประยุทธ์แล้วใครจะมาก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

ประเด็นที่ 2 ยุทธศาสตร์สามัคคีประชาชนคือแต่ละกลุ่มไม่ขัดกัน ยุทธศาสตร์เดียวกันคือไล่รัฐบาลทรรัฐ ทุกฝ่ายสามารถแยกกันเดินรวมกันตีได้แล้วมาร่วมกันในท้ายที่สุด ในโอกาสนี้ต้องขอเชิญทุกองค์กร สมาคม นักธุรกิจ รวมถึงชนชั้นกลางต่างๆ ออกมาร่วมกันขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมกันให้มากที่สุด

ประเด็นที่ 3 เราเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 มาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว แต่รัฐบาลทรยศต่อนโยบายที่แถลงไว้ ต้องการคงอำนาจให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้จะได้สืบทอดอำนาจต่อไป หลายคนจึงประเมินว่าหากไล่ประยุทธ์ไปได้ แก้รัฐธรรมนูญก็คงง่ายขึ้น แต่จะไปได้ หรือจะแก้ได้ ก็ต้องทั้งบนถนน ห้องประชุม และรัฐสภา ทุกฝ่ายร่วมแรงขับเคลื่อนผลักดัน ภาคประชาชนรวมตัว ไม่ถูกแบ่งแยกแล้วปกครองเช่นในอดีต

ประเด็นที่ 4 เรื่องเยาวชนคนหนุ่มสาวที่ถูกจับกุมและไม่ได้ประกันตัวนั้น เป็นความเลวร้ายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่สร้างความขัดแย้งขึ้นและทำลายกระบวนการยุติธรรม เราเรียกร้องให้ปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง และนักโทษทางความคิดทั้งหมด ประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยจะต้องไม่มีนักโทษทางการเมือง และนักโทษทางความคิดอีกต่อไป ประเทศถึงจะปรองดองสามัคคีได้ พล.อ.ประยุทธ์บอกจะเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ตนเองดันเป็นคู่กรณีขัดแย้งกับประชาชนเสียเอง

ประเด็นที่ 5 ปัจจุบันรัฐบาลยังคงประกาศใช่ พรก.ฉุกเฉิน มาถึง 1 ปี 10 วันแล้ว และดูเหมือนจะต่ออำนาจพิเศษต่อไปไม่สิ้นสุด เพราะกฎหมายให้ใช้อำนาจได้โดยเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิด เป็นกฎหมายเผด็จการเช่นเดียวกับกฎอัยการศึก และพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ต้องถูกยกเลิกทั้ง 3 ฉบับ รัฐบาลขาดความชอบธรรมมาก เราต้องเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้อำนาจมิชอบโดยยกเลิกประกาศพรก.ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด

ประเด็นที่ 6 รัฐบาล 3 ป.ได้สร้างทุนนิยมประชารัฐและเศรษฐกิจผูกขาดขึ้นมาจนประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำสูงสุด รายได้เจ้าสัวอันดับ 1 ของประเทศไทยก้าวกระโดดจากทรัพย์สิน 4-5 แสนล้านกลายเป็น 9 แสนล้านภายในเวลา 5 ปี โครงสร้างและระบบเศรษฐกิจต้องมีอะไรผิดปกติที่รัฐเอื้ออำนวยหรือมีการคอร์รัปชันทางเศรษฐกิจให้เจ้าสัวร่ำรวยขึ้น แต่คนจนกลับจนลงๆ ทุกวันนี้ทรัพย์สินมหาเศรษฐี 20 คนรวมกันมากกว่า 3.6 ล้านล้านบาท แต่คนจนที่มีรายได้น้อยกว่าเส้นความยากจน 2,667 บาท/คน/เดือน มีจำนวนมากกว่า 5 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวของกลุ่มประชากร 40% ล่างสุดของประเทศไทย หรือมากกว่า 25 ล้านคน มีรายได้ต่ำสุดเพียง 3,408 บาท/คน/เดือนเท่านั้น

ประเด็นที่ 7 วิกฤตโควิดระบาดทำให้เศรษฐกิจฐานล่างล้มไม่เป็นท่า คนทำงานรับจ้าง ทำงานบริการ ทำงานภาคกลางคืน นักดนตรี สถานประกอบการ ร้านอาหารต่างๆ ไปไม่รอด หลายคนอยู่ในเมืองไม่ไหวถ้ามีที่นาก็กลับบ้านไปเป็นเกษตรกรที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นหลังพิงสุดท้าย แต่ไม่มีนโยบายที่จะรองรับการแก้ปัญหาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เขาเลย นอกจากนโยบายประชานิยม แจกเงิน 7,000 บาทสองเดือน หลังจากนั้นปล่อยให้อดตาย

ประเด็นที่ 8 ระบอบประยุทธ์สร้างโครงสร้างอำนาจรวมศูนย์ เกิดระบบส่วยและเศรษฐกิจสีเทาจำนวนมาก ไม่มีการปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกองทัพ และการปฏิรูปด้านต่างๆ 11 ด้านไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ประเด็นที่ 9 เราจึงต้องร่วมกันเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ให้ช่วยกันรับผิดชอบชาติบ้านเมือง ปลดล็อครัฐธรรมนูญ ปลดล็อกประเทศไทย ลอยแพนาวาพล.อ.ประยุทธ์ และพวกโดยเร็ว

ประเด็นที่ 10 ขอเรียกร้องไปยัง ส.ว. ทั้ง 250 คน หยุดยอมตกเป็นทาสเผด็จการ 3 ป. ก่อนประชาชนจะก่นด่าวงศ์ตระกูลไปทั่วแผ่นดิน ที่ยอมเป็นฐานสร้างอำนาจฉ้อฉลจนประเทศเสียหายขัดแย้งรุนแรง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"