โผล่ร้อง ตร. กล่าวโทษ “ตู่ จตุพร” ปราศรัยเวทีไล่ประยุทธ์ พาดพิง เข้าข่ายผิด ม.112 ขณะที่ “เพนกวิน” ย้ายคุกมาเรือนจำพิเศษ แพทย์เช็กอาการใกล้ชิด ส่วน “รุ้ง” เดินหน้าอดอาหารต่อ
    วันที่ 6 เม.ย. นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน (สภาผู้แทนราษฎร) เดินทางมาดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นกล่าวปราศรัย ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม จากการชุมนุมของกลุ่ม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ที่เรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มจัดกิจกรรมมาตั้งแต่วันที่ 4-5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ และให้ลงบันทึกประจำวัน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อ ผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม จะนำเข้าที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง
นายสนธิญากล่าวว่า ตนเองเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งวินิจฉัยและพิจารณา กรณีที่นายจตุพรปราศรัยในค่ำคืนวันที่ 4 เม.ย ว่ามีความผิด หรือมีการพาดพิงที่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งตนเองได้ติดตามการปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ โดยที่ผ่านมาตั้งแต่มีการชุมนุมประท้วง ตนเองเป็นคนแจ้งมาตรา 112 มาอย่างต่อเนื่อง
    นายสนธิญากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่เมื่อมีการกระทำที่รุนแรงมากขึ้น มาตรานี้จึงถูกนำมาใช้ ฉะนั้นไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเคยกล่าวถึงประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายมาตรานี้ ตนเองมองว่าคือเจตนาดีของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องการทำให้ประเทศไทยสงบเรียบร้อย แต่เมื่อเหตุการณ์หนักขึ้น จึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย เพราะกฎหมาย มาตรา 112 เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้ ซึ่งตนเองมองว่ากรณีการปราศรัยนั้นเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 แล้ว แต่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะพิจารณาต่อไปอย่างไร พร้อมกล่าววิงวอนว่า หากจะขับไล่ผู้ใดสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่อย่าจาบจ้วงสถาบันฯ อันเป็นสิ่งที่คนไทยไม่สามารถยอมรับได้
     ส่วนกรณีที่นายจตุพรระบุว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกลับหากมีผู้มาแจ้งความตัวเขานั้น นายสนธิญากล่าวว่า ตนเองมาวันนี้ไม่ได้มาแจ้งความ เพียงแต่มาร้องทุกข์กล่าวโทษ และหากตำรวจวินิจฉัยแล้วว่าการกระทำของนายจตุพรมีความผิด ตนเองก็พร้อมจะแจ้งความดำเนินคดี ทั้งเป็นพยานและเป็นผู้แจ้งความร่วมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิญาเคยสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ลงเลือกตั้งใน จ.สมุทรสาคร มากว่า 10 ปี กระทั่งย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 ลงสมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 1 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
      ทางด้านความคืบหน้าอาการแกนนำราษฎรที่อดอาหารประท้วงระหว่างถูกคุมขังนั้น นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงอาการของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ผู้อำนวยการสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าติดตามอาการของนายพริษฐ์ ก่อนส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามหมายศาล ซึ่งผู้ป่วยรู้สึกตัวดี มีสีหน้าสดชื่น แต่อ่อนเพลียเล็กน้อย ริมฝีปากชุ่มชื้นดี และยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร จึงยังให้สารน้ำทางหลอดเลือดตามแผนการรักษาอยู่ พร้อมให้ดื่มเกลือแร่ทดแทน
เบื้องต้นไม่มีอาการปวดแสบท้อง สัญญาณชีพโดยทั่วไปปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส อัตราเต้นของหัวใจ 64 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 18 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 103/76 มิลลิเมตรปรอท น้ำหนัก 99 กิโลกรัม อาการผื่นคันบริเวณหน้าอกและหลังดีขึ้น อาการภูมิแพ้ขึ้นตาดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีได้ส่งตัวนายพริษฐ์ขึ้นรถเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในเวลา 08.50 น. เพื่อส่งตัวไปฝากขังต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากหมดระยะเวลาการกักขังตามหมายศาลที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี
    ส่วน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง เจ้าหน้าที่พยาบาลประจำสถานพยาบาลทัณฑสถานหญิงกลางได้เข้าตรวจสุขภาพประจำวัน พบว่า น.ส.ปนัสยารู้สึกตัวดี สามารถพูดคุยรู้เรื่องและเข้าใจ มีปฏิสัมพันธ์ดี ช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ จากการตรวจร่างกายสัญญาณชีพปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.5 องศาเซลเซียส ความดันโลหิต 111/64 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 78 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 20 ครั้งต่อนาที ออกซิเจนในเลือด 98 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 107.1 กิโลกรัม สุขภาพร่างกายโดยทั่วไปปกติ ไม่มีอาการเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย ไม่กระหายน้ำ ผิวหนังและริมฝีปากชุ่มชื้นดี เปลือกตาไม่ซีด เล็บมือและฝ่ามือมีสีชมพู ไม่มีสัญญาณของภาวะ Dehydration หรือขาดน้ำ โดยเบื้องต้น หลังจากครบกำหนดการอดอาหารที่แจ้งไว้เมื่อวันที่ 5 เมษายน น.ส.ปนัสยาแจ้งว่าจะขออดอาหารต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนด.