ไม่รู้ชะตากรรม! ซาไกพาลูกน้อย หนีจากรพ.ตรัง


เพิ่มเพื่อน    

  สองผัวเมียชนเผ่ามันนิ หรือซาไก แอบนำตัวลูกน้อยเพศหญิงคลอดก่อนกำหนด วัย 77 วัน ผู้ป่วยเด็กขั้นวิกฤติ ออกจากห้องไอซียู ปีนรั้วกำแพง รพ.หนีหายกว่า 12 วัน กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองปูพรมระดมกำลังค้นหาแต่ยังไร้วี่แวว ขณะที่ รพ.ศูนย์ตรังยังเงียบกริบ

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เมษายน นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมด้วย นายวิเชษฐ์ คงอินทร์ หรือกำนันเลาะห์ กำนัน ต.ปะเหลียน และกำลังฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกว่า 10 นาย รวมทั้งชาวชนเผ่ามันนิ หรือซาไกอีก 10 คน ได้ร่วมกันปฏิบัติการค้นหาติดตามตัว นายปู ศรีสันติราษฎร์ อายุ 31 ปี น.ส.บ๊วย ศรีสันติราษฎร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 14 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สองสามีภรรยา และลูกน้อยเพศหญิง วัยประมาณ 77 วัน โดยทั้งสองสามีภรรยาเป็นชาวชนเผ่ามันนิ หรือซาไก อาศัยอยู่ริมเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อระหว่าง จ.ตรังกับพัทลุง บริเวณบ้านเขาหัวสุม หมู่ 14 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน
    ซึ่งทั้งสองสามีภรรยาได้แอบนำเอาลูกน้อยเพศหญิง วัยประมาณ 77 วัน ซึ่งผู้เป็นแม่ตั้งท้องได้เพียงแค่ 6 เดือน ทำให้คลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักแรกเกิดอยู่ที่ 700 กรัม จนกระทั่งมีน้ำหนักขึ้นมาถึง 1,400 กรัม มีอาการผิดปกติทางร่างกาย ตัวซีด ตาเหลือง และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ต้องทำการรักษาอยู่ในตู้อบ ภายในห้องเอ็นไอซียู (NICU) หอผู้ป่วยวิกฤติทารกแรกเกิด ซึ่งเป็นห้องไอซียูสำหรับเด็กเล็ก โดยต้องมีทีมแพทย์พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และเตรียมที่จะนำตัวส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.)
    แต่ผู้เป็นพ่อและแม่ซึ่งเป็นชาวชนเผ่ามันนิ หรือซาไก ได้แอบนำเอาตัวลูกน้อยออกจากตู้อบเด็ก และนำออกจากห้องซีไอซียู ก่อนแอบหลบหนีออกจาก รพ.ศูนย์ตรัง โดยการปีนรั้วกำแพงเหล็กข้างโรงพยาบาลหลบหนีออกมา และเดินหนีไปทางสถานที่รับฝากรถของเอกชน ซึ่งอยู่ติดโรงพยาบาล ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงย่ำรุ่ง เวลา 04.09 น.วันที่ 26 มี.ค.64 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 12 วัน โดยยังไม่ทราบชะตากรรมของ 3 ชีวิต
    ปฏิบัติการค้นหาในครั้งนี้ได้เริ่มต้นภายในป่าสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ภายในพื้นที่ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง หลังจากคืนที่ผ่านมาวันที่ 5 เม.ย. เวลาประมาณ 22.30 น. มีพนักงานโรงพิมพ์แห่งหนึ่งได้พบเห็นชาวชนเผ่ามันนิ หรือซาไก เพศชาย-หญิง เดินอุ้มลูกน้อย และได้มอบเงินสดให้จำนวน 100 บาทไว้ใช้จ่าย ก่อนที่ทั้งสองจะเดินจากไป ใช้เวลาปูพรมค้นหากว่า 8 ชั่วโมงก็ยังไม่พบร่องรอยหรือเบาะแสแต่อย่างได
    นายบ่าวยง ศรีสันติราษฎร์ ซึ่งเป็นเครือญาติของทั้งสองสามีภรรยา และได้ร่วมในปฏิบัติการค้นหา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.บ๊วยไม่ได้ทราบว่ากำลังตั้งท้อง แต่มีอาการคันที่บริเวณฝ่าเท้า ก่อนจะนำตัวไป รพ.สต. ก่อนจะพบว่า น.ส.บ๊วยตั้งท้อง และได้นำตัวไปส่งยัง รพ.ปะเหลียน และทาง รพ.ปะเหลียนได้ทำการนำตัวส่งต่อมาที่ รพ.ศูนย์ตรัง จนกระทั่งคลอดออกมา และลูกที่เกิดออกมาต้องอยู่ใกล้หมอนานกว่า 77 วันแล้ว ตนก็ได้มาเยี่ยม และนำเงินมาให้หลายครั้งแล้ว โดยทาง น.ส.บ๊วยได้บ่นว่าอยากกลับบ้านอยู่ตลอด แต่สามีได้ห้ามเอาไว้ เพราะเป็นห่วงลูก จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าทั้งสองได้แอบนำลูกออกจากโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งทั้งสองไม่เคยมาโรงพยาบาลและเข้ามาในเมืองเลย คิดว่าทั้งสองไม่ทราบเส้นทางอย่างแน่นอน แต่จะเดินเข้าป่าอย่างเดียว เพราะทั้งสองหวาดกลัวคนแปลกหน้า ที่สำคัญคือเป็นห่วงลูกน้อย ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรให้ทราบ
    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สองสามีภรรยาแอบนำเอาลูกน้อยออกจากโรงพยาบาล ระยะเวลาผ่านมากว่า 5 วัน ทางโรงพยาบาลเพิ่งที่จะให้ทางฝ่ายปกครองตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด และในขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ ออกมาจากทาง รพ.ศูนย์ตรัง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"