10 เม.ย.64 - นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษุณโลก  อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อตั้งพรรคเมือง ได้แสดงความคิดเห็นทางการการเมือง บนเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ขอจงรวมพลังจัดขบวนทัพ ฝ่ายประชาธิปไตย สู้ให้ชนะฝ่ายเผด็จการทรราช ก่อนที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา อนาคตของชาติ จะตาย

1. ฝ่ายเผด็จการ ทรราช

1.ต้องยอมรับความจริงก่อนว่า นี่มันคือสงคราม 2 ระบอบ ระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ 

มันคือสงครามชิงเมือง ชิงอำนาจรัฐ ชิงการปกครอง ชิงผลประโยชน์ของชาติว่าจะอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ฝ่ายเผด็จการ ที่ได้ต่อสู้กันมาเกือบ 100 ปี ผ่านมาหลายชั่วคน ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 

การต่อสู้ที่ผ่านมา มีการชุมนุมประท้วง ขับไล่เผด็จการทรราชหลายครั้ง มีคนเจ็บ มีคนตาย มีคนถูกอุ้มหาย มีคนถูกจับกุม คุมขัง มีคนถูกยึดทรัพย์สิน มีคนต้องหลบลี้หนีภัยสงครามไปอยู่ต่างประเทศจริง เช่น ครูครอง จันดาวงศ์  ถูกยิงทิ้ง ,มี ส ส มีรัฐมนตรีฝ่ายประชาธิปไตยเช่นนายเรียง ไชยกาน ถูกอุ้มฆ่า,มีเหล่าวีรชนเดือนตุลา 2516,2519 ถูกยิงทิ้ง,เหล่าวีรชน พฤษภา 2535 ถูกฆ่า,เหล่าวีรชน เมษา-พฤษภา 2553 ถูกยิงที่หัว เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นที่พม่าขณะนี้ นับร้อยศพ , มีนักสู้ฝ่ายประชาธิปไตย อีกนับร้อย นับพัน ที่ต้องหนีภัยสงครามการเมืองไปต่างประเทศ เช่น รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์  ,ดอกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร  ,นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ,นายสุรชัย แซ่ด่าน ,นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายสุนัย จุลพงศธร เป็นต้น และมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ที่กำลังต่อสู้กับเผด็จการทรราชอยู่ในเวลานี้ เช่น ทนายอานนท์ น้องรุ้ง น้องไมค์ น้องมายด์ น้องเพนกวิน เป็นต้น 

พวกเขาเหล่านี้คืออนาคตของชาติ สู้ด้วยอุดมการณ์ เพื่อสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคภราดรภาพ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า แต่กลับถูกไล่ล่า ถูกจับกุม คุมขัง ถูกกลั่นแกล้งไม่ให้ประกันตัว อย่างไม่ยุติธรรม หนึ่งในนั้น น้องเพนกวินได้ อดอาหารประท้วงศาล และกระบวนการยุติธรรม ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายเผด็จการทรราช ประกาศลาตาย ทั้งที่เขายังไม่ควรตาย 

2. ต้องยอมรับความจริงว่า องคาพยพของฝ่ายเผด็จการ มีพร้อมสรรพ ทั้งนายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ รวมถึงมวลชนที่สนับสนุนฝ่ายเผด็จการอยู่จำนวนหลายล้านคน 

ตลอดเวลา 7 ปีที่คณะเผด็จการทรราชชุดนี้ ครองเมือง พวกเขาได้ใช้เงินภาษีประชาชนไปกว่า 20 ล้านล้านบาท  มีผู้เชี่ยวชาญปนะเมินว่าจะมีเงินเก็บส่วนต่างจากค่าคอมมิชชั่น และเงินที่ได้จากการคอรัปชั่นโดยเฉพาะบริษัทพลังงานเกือบทุกแห่ง ต้องส่งส่วยผ่าน บิ๊ก ป. และ จากหวย บ่อน ซ่อง ธุรกิจสีดำ สีเทา สะสมทุนไว้ซื้อเสียง รวมกันไว้ ที่บิ๊ก ป.  พี่ใหญ่  และบิ๊ก ป.  พี่รอง ไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท หลังหักส่งผู้มากบารมีที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาล แล้ว

สถานะ ทางการเงิน ทุน ที่จะใช้ซื้อเสียง ซื้อคนที่ขายเสียง หรือมวลชนจัดตั้ง ซื้อ ส ส. ซื้อตำแหน่ง จึงเหลือเฟือ ลิ่วล้อบริวารของเผด็จการทรราช ที่มีตำแหน่งเป็นเสนาบดี จึงเสพสุข ใช้จ่ายเงิน เป็นเศษกระดาษ เช่นที่ปรากฏเป็นข่าว บรรดารัฐมนตรี ส ส. ฝ่ายรัฐบาลใช้เงินเที่ยว สถานที่ขายบริการทางเพศ สถานเริงรมย์ ที่ทองหล่อ อย่างมือเติบ หรูหรา ฟุ่มเฟือย คืนละนับล้านบาท บนความทุกข์ยาก ลำบาก แร้นแค้นอย่างแสนสาหัสของคนไทยส่วนใหญ่

3. ฝ่ายเผด็จการ ได้ทำการรัฐประหารมา 13 ครั้ง ตั้งแต่สมัย พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ,จอมพลผิน ชุณหวัน,จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์,จอมพลถนอม กิตติขจร , พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ,พลเอกสนธิ บุญรัตตกลิน และหลังสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับคณะ คสช. เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 และสืบทอดอำนาจเผด็จการมาถึงปัจจุบัน

เหตุการณ์ และความจริงทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับ สั่งการ และควบคุมของจอมเผด็จการและเครือข่าย เป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืนให้ระบอบเผด็จการ ที่จะครองเมือง ครองอำนาจ  ปกครองประเทศ   กดขี่    ข่มเหง   ริดรอน สิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน ให้เป็นทาส ไพร่ รับใช้เผด็จการตลอดไป

ในทางกลับกัน จอมเผด็จการ และลิ่วล้อบริวาร ได้ใช้ทุกกลไกของระบบราชการ ใช้ทุกองคาพยพ ในเครือข่าย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ศาสนา วัฒนธรรม ที่มีอยู่ เช่นใช้ปืนปล้นอำนาจ ผ่านทหารโดยการทำการรัฐประหาร ใช้ศาลยุบพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย ทำลายอำนาจของประชาชน ทำลายระบอบประชาธิปไตย ให้อ่อนแอ วางกับดัก หลุมพราง สร้างอุปสรรค ขวากหนาม ในการพัฒนาประชาธิปไตย ที่เรียกว่า นิติสงคราม 

เผด็จการใช้ทฤษฎี และแนวคิด ทำให้คนไทย โง่ จน เจ็บ ลุ่มหลง งมงาย ทำให้คนไทยยากจน แล้วเอาเงินมาแจก จะได้สยบยอม เป็นสาวก เป็นทาส เป็นฐานคะแนน ให้พรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ จะได้ใช้เป็นข้ออ้าง ว่าได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน คนไทยจะได้ไม่ต่อต้าน ไม่ลุกขึ้นมาสู้ หรือ ท้าทายอำนาจของฝ่ายเผด็จการ 

โดยมี กอ.รมน. กองทัพ สันติบาล เครือข่ายภายใต้ มหาดไทย ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สร้างวัฒนธรรมเจ้า ขุน มูลนาย ที่สำคัญที่สุดผ่านโครงสร้างอำนาจรัฐรวมศูนย์ โดยมีรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเป็นแผนแม่บท

4. ระบอบเผด็จการมีวอร์รูม  มียุทธศาสตร์  มียุทธวิธี และมีแผนปฎิบัติการ ที่มีเอกภาพ เป็นระบบ  มีแบบแผน มีเครือข่าย มีโครงสร้างของระบบราชการ ทหาร ตำรวจ ศาล กระบวนการยุติธรรม มีพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการที่มีมวลชน ที่สยบยอม ที่เงินซื้อได้สนับสนุนอยู่หลายล้านคน ส่วนใหญ่จะเป็นมวลชน ที่เลือกพรรคร่วมรัฐบาล มวลชนเหล่านี้ ไม่สนใจประชาธิปไตย ไม่สนใจ สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคใดๆ 

ส่วนบน หรือ พวกอีลิทพวกนี้ ขอเพียงแค่เพียงได้รับยศ ตำแหน่ง หรือความมีอภิสิทธิชน ก็พร้อมสวามิภักดิ์ เป็นลิ่วล้อ บริวารของเผด็จการทรราช เช่นสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง พวกรัฐมนตรี พวกส ส. ฝ่ายรัฐบาล พวกนี้ไม่สนใจระบอบ ขอเพียงเพื่อให้ตนเอง และวงศ์ตระกูล มีเงิน มียศ มีตำแหน่ง และอยู่รอด ไม่สนใจว่าประเทศจะล้าหลัง คนส่วนใหญ่จะถูกกดขี่

ส่วนล่าง ที่เป็นมวลชนฝ่ายเผด็จการ  เป็นคนทั่วไป มีอยู่ทุกสาขา อาชีพ พวกนี้ยอมรับเศษเงินที่ฝ่ายเผด็จการให้ทานผ่านบัตรประชารัฐ  หรือนโยบายแจกเงินของรัฐบาล ส่วนที่คิดไม่ได้ก็พร้อมให้การสนับสนุน ขายเสียง ก้มกราบ หมอบคลาน เป็นสาวก ของรัฐบาลเผด็จการนี้ ยอมเป็นสาวกของพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ จนตาย 

ส่วนที่คิดได้ และยังมีศักดิ์ศรีอยู่ ยอมรับเงินเพราะเข้าใจว่ามันคือเงินภาษีของประชาชน แต่จะไม่สยบยอม ต่อรัฐบาลเผด็จการ และลุกขึ้นมาสู้ เพื่อสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตย รับเงิน แต่ไม่ยอมเป็นทาส ไพร่ ซึ่งถือว่าฉลาด และตื่นรู้แล้ว

2. ฝ่ายประชาธิปไตย

1. มวลชนมีมากกว่าฝ่ายเผด็จการ และเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคสมัยที่พรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของ ดอกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นยุคประชาธิปไตยเฟื่องฟู ที่สุด ประกอบกับ คนรุ่นใหม่ มีความรู้ มีการศึกษา รับรู้ความจริงผ่านโลกออนไลน์ โลกอินเตอร์เน็ต เป็นคนที่รัฐบาลเผด็จการ ไม่สามารถโกหก หลอกลวง ล้างสมอง ด้วยความเท็จ หรือ IO ที่เรียกว่าสงครามข้อมูลข่าวสารได้ 

เพราะสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ที่หลักการ เหตุผล ความจริง ความถูกต้อง และความเป็นธรรมเท่านั้น ที่คนฝ่ายประชาธิปไตย ยอมรับ

2. ฝ่ายประชาธิปไตยยังขาดแต่เพียง การจัดองค์กรนำในการต่อสู้ ที่จะเป็นศูนย์รวมของทุกองค์กร ทุกเครือข่าย ทุกภาคส่วนของมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยที่ยังกระจัดกระจายอยู่ในทุกส่วนของสังคมให้มีความเป็นหนึ่ง มาร่วมกันเพื่อกำหนด แนวทางการต่อสู้ ร่วมกันวางยุทธศาสตร์ กำหนดแผนปฎิบัติการกำหนดยุทธวิธี การต่อสู้ มีเป้าหมายชัดเจน มีเอกภาพในการต่อสู้ รุก รบ อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่หลายๆประเทศทำสำเร็จและสามารถโค่นล้มระบอบเผด็จการมาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน 

ฝ่ายประชาธิปไตยจึงควรเร่งทำ "สภาประชาชน" เพื่อเป็นองค์กรนำโดยเร็ว มาร่วมกันแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ไม่มีการชิงดีชิงเด่น ไม่มีการแย่งชิงการนำ มีการแบ่งภารกิจ แบ่งหน้าที่กันทำ ให้เป็นขบวนการที่เข้มแข็ง ไม่ยึดติดกับตัวบุคคล แต่ให้ยึดมั่นในหลักการ ของระบอบประชาธิปไตยเป็นหลัก

เวลาและการกระทำจะค่อยๆคัดกรอง นักสู้ที่แท้จริง นักสู้ที่มีอุดมการณ์ ทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ ในสถานการณ์ปฏิวัติประชาชน ที่ฝ่ายเผด็จการ กำลังเสื่อมทรุด ด้วยการทุจริต คอรัปชั่น ที่รุนแรง เกิดความทุกข์ยาก แร้นแค้น ต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้า

3. แนวรบในสภา 

รัฐสภาในปัจจุบัน ไม่ใช่รัฐสภาประชาธิปไตย แต่เป็น “รัฐสภาเผด็จการ“เพราะเกิดมาจากคณะรัฐประหาร ที่ปล้นอำนาจมา เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับ เผด็จการ คสช ปี 60 ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ เป็นรัฐธรรมนูญของเผด็จการ โดยเผด็จการ และ เพื่อเผด็จการ อย่างแท้จริง

รัฐสภาเผด็จการนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ หลอกลวงประชาชนชาวไทยและหลอกลวงสังคมโลกว่า ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่เนื้อหา สาระหลักเป็นเผด็จการฟาสซิสต์เต็มรูปแบบ

แนวรบในสภา จึงไม่อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลง จากเผด็จการซ่อนรูป ให้เป็นประชาธิปไตยได้เลย ฝ่ายค้านที่อยู่ต่อ กลายเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายเผด็จการที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการอยู่ในอำนาจต่อเท่านั้น

หาก พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความจริงใจ ต่อมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย ก็ควรพิจารณาถอนตัว ลาออกจากรัฐสภาเผด็จการ นี้เสีย หยุดเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายเผด็จการ รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ก็จะหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อ

4. สภาประชาชน ควรเกิดขึ้นทันที และพรรคร่วมฝ่ายค้านควรจะลาออกก่อนที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่กำลังถูกไล่ล่า ถูกจับกุม คุมขัง โดยเฉพาะข้อหา ตามมาตรา 112 จะบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย ซึ่งอาจจะสายเกินไป หากจะรอคอยความเมตตาจากจอมเผด็จการ ซึ่งมันไม่มี

5. นายกทักษิณ ชินวัตร นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเหล่านักสู้ ผู้รักประชาธิปไตย ที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง หนีเงื้อมมือมัจจุราช ไปอยู่ต่างประเทศ จากการไล่ล่า หมายเอาชีวิต ยึดอำนาจ ยึดทรัพย์สิน ของจอมเผด็จการ หากพวกท่านไม่ลุกขึ้นสู้กับมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย อย่างกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว  เสียสละยังใช้วิธีการสู้ไป กราบไป  ตอบโต้  วิพากษ์วิจารณ์ ต่อปากต่อคำ กับบริวารเผด็จการ โชว์หล่อ โชว์สวย ให้เป็นข่าว สร้างกระแสไปวันๆ โดยหวังจะได้รับความเมตตา ปราณี หรือการอภัยโทษ จากจอมเผด็จการ ท่านก็จะถูกหลอก ให้รอไปจนวันตาย ไม่มีวันที่จะได้ความรัก ความเมตตา จากจอมเผด็จการ ให้กลับแผ่นดินแม่ อย่างแน่นอน เพราะมันไม่เคยมี 

ขอให้พวกท่านตระหนักถึงความเหี้ยมโหด อำมหิต ของจอมเผด็จการ เช่นที่รัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ เคยได้รับมาก่อน ต้องหนีตายไปอยู่ฝรั่งเศส ที่ได้กลับมาตุภูมิเพียงเถ้ากระดูก

เพราะเวลานี้มันเป็นสถานการณ์ปฏิวัติ ไม่ใช่สถานการณ์เล่นลิเก แสดงสำนวน โวหาร ลีลาให้ดูเท่ห์ ดูดี หล่อ สวย ผ่านสื่อไปวันๆ

การต่อสู้ครั้งนี้ จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย ของระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ หากทุกท่าน ลุกขึ้นสู้อย่างกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ด้วยความเสียสละ มีเอกภาพ มียุทธศาตร์ มีแบบแผน มีระบบ ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ตื่นรู้ ตาสว่างทั่วแผ่นดินแล้ว ชัยชนะฝ่ายประชาธิปไตย รออยู่แค่เอื้อม

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง พัดผ่านแรงมากแล้ว

รัฐทหาร รัฐราชการ รัฐเผด็จการทรราช ไม่อาจต้านทานสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ มันกำลังจะพังทลายลงในไม่ช้า 

# ไม่ลุกขึ้นสู้ก็จะอยู่อย่างทาส  #เผด็จการจงพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ