ปรับตัวรับวิถีใหม่ รดนํ้าขอพรผู้ใหญ่


เพิ่มเพื่อน    

 

คนไทยปรับตัวรับสงกรานต์วิถีใหม่ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 "ชาวบ้านยุโป" จ.ยะลา จัดกิจกรรมร่วมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุสืบสานวัฒนธรรม "ขอนแก่น" งดสาดน้ำแค่ขอพรผู้ใหญ่ "โพล" เผย ปชช.ส่วนใหญ่ขออยู่กับครอบครัว เข้าวัดไหว้พระทำบุญ
    เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายปรีชา สมบูรณ์แก้ว กำนันตำบลยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ประจำปี 2564 ร่วมกับชาวบ้านชุมชนบ้านป้าย-ตกหนน ม.1 ต.ยุโป โดยยึดตามแนวทางสงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรม ที่เน้นเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี งดเว้นการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากและมีการสัมผัสกันใกล้ชิด
    นายสุนทร บุญมาศ ประธานชุมชนบ้านป้าย-ตกหนน ต.ยุโป กล่าวว่า กิจกรรมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุบ้านป้าย-ตกหนน ต.ยุโป ในครั้งนี้ ได้เชิญผู้สูงอายุในหมู่บ้านจำนวน 24 คน มาให้ลูกหลานได้ร่วมกันรดน้ำขอพร ซึ่งชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี แต่เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้งดจัด เนื่องจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19
    "ปีนี้แม้ว่าสถานการณ์การระบาดยังมีอยู่ แต่ทางรัฐบาลได้ผ่อนคลายให้จัดได้ ทางชาวบ้านจึงได้ร่วมกันจัดขึ้นภายใต้การปฏิบัติตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีการจัดแบบเล็กๆ ของคนในชุมชน และให้คนที่มาร่วมเฉพาะคนในชุมชนเท่านั้น" นายสุนทรกล่าว
    ประธานชุมชนบ้านป้าย-ตกหนน ต.ยุโป กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ชุมชนต้องการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีของวันสงกรานต์ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการสร้างความรักความสามัคคี ความร่วมมือ ความร่วมใจของคนในชุมชน ซึ่งญาติพี่น้องได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบมาซื้อของชำร่วยแจกแก่ผู้สูงอายุด้วยกำลังของคนในชุมชนเอง
    จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านแฟมิลี่บอย ตั้งอยู่ที่ตลาดบางลำพู เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเลือกซื้อเสื้อลายดอกที่เป็นที่นิยมสำหรับการสวมใส่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเงียบเหงา จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมาก จากการสอบถามเจ้าของร้านขายเสื้อลายดอกต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สงกรานต์ปีก่อนว่าเงียบเหงาแล้ว แต่สงกรานต์ปีนี้หนักกว่า ประชาชนมาจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยจนน่าใจหาย โชคดีที่ตัดสินใจไม่สั่งเสื้อมาเพิ่ม เพราะยังเหลือเสื้อลายดอกที่ค้างสต๊อกจากสงกรานต์ปีที่แล้วจำนวนมาก ถึงขนาดนั้นก็ยังขายไม่ได้ แต่ก็ต้องเปิดขายแม้คนจะน้อยเพื่อขอทุนคืน
    น.ส.ศกุลนภัทร พลสุวรรณ ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางเข้ามาในตัวเมืองขอนแก่นเพื่อมาซื้อเสื้อลายดอกและเสื้อคอกระเช้าไปเป็นของขวัญให้ผู้เฒ่าผู้แก่ ซึ่งทำแบบนี้ทุกปี ราคาก็ไม่ต่างจากปีก่อนๆ โดยเสื้อคอกระเช้าราคาตัวละ 60 บาท ส่วนเสื้อลายดอกราคาอยู่ที่ 120-150 บาท
    "ปีนี้รัฐบาลขอความร่วมมือให้งดเล่นน้ำ ตนเองและครอบครัวก็จะไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ โดยได้แบ่งวันกันมารดน้ำเพื่อไม่ให้มีการรวมตัว ลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังผู้สูงอายุ"
    ส่วนนางเพ็ญ รามมนตรี ชาว อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม กล่าวว่า เดินทางมาซื้อเสื้อลายดอก 10 กว่าตัวเพื่อไปแจกญาติๆ และเพื่อนฝูงได้สวมใส่กันเหมือนเช่นทุกๆ ปี ต่างกันตรงที่ทุกปีจะได้เล่นสาดน้ำ แต่ปีนี้ต้องงด เพราะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเป็นประเพณีที่ทำกันมายาวนาน ในวันสงกรานต์ก็คงได้เพียงรดน้ำแบบเบาๆ กับคนสนิท เพราะตัวเองก็ระมัดระวังตัวเช่นกัน และหวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะหมดไปจากบ้านเราโดยเร็ว
    ขณะที่กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “กิจกรรมคนไทยในวันสงกรานต์ 2564” เก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,219 คน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 74.1 ให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์ เป็นวันครอบครัว วันรวมญาติ รองลงมาร้อยละ 60.0 เป็นวันอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมไทย และร้อยละ 49.2 เป็นวันระลึกถึงผู้สูงอายุ คนเฒ่าคนแก่
    เมื่อถามว่าเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ให้ความสำคัญต่อการเล่นน้ำ สาดน้ำอย่างไร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 ไม่เล่นน้ำ สาดน้ำ โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 58.4 ไม่เล่นน้ำ สาดน้ำ แต่ถูกสาดได้ ไม่โกรธ และร้อยละ 5.1 ไม่เล่นน้ำ สาดน้ำ และไม่ชอบให้ถูกสาด รู้สึกโกรธไม่พอใจ ขณะที่ร้อยละ 36.5 เล่นน้ำ สาดน้ำ โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 27.9 เล่นน้ำ สาดน้ำบ้างเป็นบางครั้ง และร้อยละ 8.6 เล่นน้ำ สาดน้ำเป็นประจำ
    ส่วนมาตรการสงกรานต์ของ ศบค.ที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้มงวดเฝ้าระวังอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.5 อยากให้เฝ้าระวังมาตรการงดกิจกรรมกลุ่ม งานปาร์ตี้ รองลงมาร้อยละ 63.1 อยากให้เฝ้าระวังมาตรการงดเล่นปาร์ตี้โฟม และร้อยละ 61.1 มาตรการงดสัมผัส ประแป้ง    
    สำหรับกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.8 จะอยู่รวมญาติ เลี้ยงฉลองในครอบครัว รองลงมาร้อยละ 52.3 จะเข้าวัด ไหว้พระทำบุญ และร้อยละ 46.3 จะสรงน้ำพระ ขณะที่ร้อยละ 14.0 ไม่มีกิจกรรมที่จะทำอะไรในช่วงวันสงกรานต์
       สุดท้ายเมื่อถามถึงความกังวลต่อมาตรการเดินทางข้ามจังหวัดได้ทุกพื้นที่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27.6 กังวลอุบัติเหตุบนท้องถนน รองลงมาร้อยละ 26.8 กังวลการลอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง การเมาแล้วขับ และร้อยละ 19.8 กังวลความหย่อนยานไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย.          


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"