14 เม.ย.64 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่านักการเมืองชื่อย่อ"ส"สังกัดกระทรวงยุติธรรม ส่งลูกน้องเรียน-สอบหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาเอกแทน จนถูกสั่งตัดสิทธิการเรียน ว่า กระทรวงยุติธรรมไม่เคยส่งใครไปเรียนในหลักสูตรดังกล่าว ตนได้ตรวจสอบแล้วหลังจากที่มีข่าวออกมา แต่หากว่ามีใครไปเรียนด้วยตัวเอง เราไม่ได้ขัดข้อง เปิดให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนกรณีที่มีบุคคลในสื่อระบุชื่อย่อ "ส" และมีบางสื่อใช้รูปเงาดำที่คล้ายกับตนนั้น ยืนยันว่าชื่อ "ส" ที่สื่ออ้างมาไม่ใช่ตนแน่นอน ตนไม่เคยเรียนปริญญาเอก และไม่ได้ติดต่อประสานกับบุคลากรของมหาวิทยาลัยดังกล่าว การที่สื่อบางสื่อนำรูปของตนไปขึ้นหน้าข่าว ทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยเป็นการทำงานที่ไม่ละเอียด ตนขอร้องให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆให้ชัดเจนก่อนที่จะนำมาเสนอ การนำเสนอข่าวทำได้และถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ขอให้ช่วยตรวจสอบให้ละเอียดชัดเจนก่อน เพราะวันนี้บ้านเมืองสับสนมากพอแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องที่มีข้าราชการการเมืองในกระทรวงไปเรียนนั้น ตนได้สอบถามแล้ว พบว่า มีนายสามารถ เจนชัยจิตย์วาณิชย์ ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม ที่ไปเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษนี้ และได้สอบถามนายสามารถถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายสามารถเล่าให้ฟังว่า หลักสูตรดังกล่าว มีการเก็บคะแนน 2 ทางคือ การเข้าฟังอาจารย์บรรยายและสอบควิกเทส และ การไปสอบโทเฟลและโทอิก โดยนายสามารถได้เลือกวิธีที่ 2 สอบโทเฟลและโทอิก ซึ่งการสอบโทเฟลและโทอิกไม่น่าจะสอบแทนกันได้ แต่ตนยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้

"เดี๋ยวทางนายสามารถ คงจะออกมาชี้แจงด้วยตนเอง ซึ่งจากการทำงานร่วมกับนายสามารถมา ดูพื้นฐานเป็นคนที่ภาษาอังกฤษดี เพราะจบปริญญาตรีวิศวกรรมและจบปริญญาโท ทำให้เรื่องการส่งคนไปสอบแทนก็น่าคิดอยู่ว่าการที่เอาข่าวออกมาในช่วงนี้ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบเกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะกำลังจะมีการประชุมพรรคในอีกไม่นานนี้"

เมื่อถามว่า จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ควรให้ทางมหาวิทยาลัยชี้แจงให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเรื่องการตัดสิทธิ์นักศึกษาเราสามารถตรวจสอบกับทางมหาวิทยาลัยได้ ว่านายสามารถยังเป็นนักศึกษาอยู่หรือไม่ และถูกตัดสิทธิ์จริงหรือไม่ หากถูกตัดสิทธิ์จริงเพราะทำอะไรผิด เราสามารถขอข้อมูลตรงนี้กับทางมหาวิทยาลัยได้