'ส.ศิวรักษ์' ฉะพระผู้ใหญ่รังแก 'มหาไพรวัลย์' บอกพระดีมีน้อยแล้วอย่ายุให้สึก

4 พ.ย.2564 – เพจเฟซบุ๊ก Sulak Sivaraksa ของนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ โพสต์คลิปวิดีโอเรื่อง “พส.ไพรวัลย์ ควรสึกไหม” แสดงทัศนะต่อกรณีพระมหาไพรวัลย์ร้องไห้อยากสึกเพราะปัญหาการตั้งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง  

โดย ส.ศิวรักษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า มหาเถรสมาคม เป็นรูปแบบเต่าล้านปี ประยุกต์ในสังคมไทยไม่ได้เลย ที่เป็นกรรมการมหาเถรนั้น นึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ มองไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา โดยเฉพาะพระเล็กพระน้อยไม่ได้รับการเหลียวแลจากพระผู้ใหญ่ ลืมว่าตัวเองก็เคยเป็นพระเล็กพระน้อยมาก่อน พระส่วนใหญ่เวลานี้เป็นลูกคนจนแทบทั้งนั้น แต่ผมยังไม่เห็นพระจะออกมายืนหยัดช่วยคนยากคนจน อยากจะเข้าวังอย่างเดียว อยากจะถือพัดยศ อยากไปกับโลกาภิวัตน์ ทุนนิยม บริโภคนิยม ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลย การรังแกพระผู้น้อยเป็นความเลวร้าย อย่าว่าแต่เช่นนั้นเลย ชาวบ้านทั่วไปทำเช่นนั้น เขาก็ติฉินนินทาแล้ว พระควรระมัดระวังมากกว่านี้ สำรวมมากกว่านี้

พระมหาไพรวัลย์พยายามทำตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ปลุกมโนธรรมสำนึกว่า พระศาสนายังเป็นที่พึ่งได้ เพียงเท่านี้พระผู้ใหญ่ก็เล่นงานท่านแล้ว ถ้ายังเห็นตัวเองเป็นพระผู้ใหญ่อยู่ ควรดูแลพระผู้น้อย ถ้าผิดก็เรียกมาตักเตือน คุยกัน ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ผมอยากจะเตือนพระผู้ใหญ่ ที่เป็นสมเด็จก็ดี กรรมการมหาเถรฯก็ดี ควรใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน มีอารมณ์ขันและอุดหนุนพระผู้น้อย เพราะการพระศาสนาเวลานี้คลอนแคลนมากแล้ว พระเป็นอันมากเป็นอลัชชี เลวร้ายมาก พระผู้ใหญ่ควรให้กำลังใจดีกว่าเข่นฆ่า รังแก ทำลาย เพราะการให้สึกนั้น มันเท่ากับการประหารชีวิตเลย

ส่วนเรื่องที่มีคนให้สึกนั้น พวกนั้นไม่เข้าใจ ผมบอกแล้วว่า การบวชนั้นยาก สึกนั้นง่าย พระที่ดำรงคงสมณเพศอยู่ ดำรงตามพระธรรมวินัยมีน้อยแล้ว อย่าไปยุให้ท่านสึก หาทางอุดหนุนจุนเจือท่าน คนพูดนั้น พูดด้วยอารมณ์ ไม่เข้าใจพระศาสนาเลย

พระศาสนาในเมืองไทยตอนนี้คลอนแคลนมากแล้ว อย่าลืมว่าเวลานี้ เรามีพระสามแสนรูป เฉพาะในพรรษา สมัยนี้พรรษาหนึ่ง จะหาพระที่บวชเต็มพรรษาก็หาน้อยแล้ว เมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 พระก็สามแสนรูป ตอนนั้นประชากรแค่  6 ล้าน เวลานี้ประชากร 60 กว่าล้าน