กรมพระศรีสวางควัฒนฯ โปรดให้จัดหน่วยแพทย์พระราชทานตรวจสุขภาพชาวดอนเมือง

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ โปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดหน่วยแพทย์พระราชทานบริการตรวจสุขภาพประชาชนเขตดอนเมือง ในโอกาสครบ 13 ปี รพ.จุฬาภรณ์

29 ต.ค.2565 – ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยรองศาสตราจารย์ นายแพทย์องค์การ เรืองรัตนอัมพร รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ให้บริการตรวจสุขภาพและมอบกระเป๋ายาสามัญประจำบ้านพระราชทาน จำนวน 300 ชุด แก่ประชาชนในพื้นที่เขตดอนเมือง เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับและกล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีความห่วงใยต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เขตดอนเมือง ณ วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร     เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

เขตดอนเมือง มีพื้นที่ 36.8  ตารางกิโลเมตร มีชุมชนจำนวน 96 ชุมชน มีประชากรทั้งหมด 163,204 คน ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข มีโรงพยาบาลทั่วไป จำนวน 1 แห่ง มีศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 1 แห่ง โดยเขตดอนเมืองเป็นเขตที่มีขนาดใหญ่ มีกลุ่มเปราะบาง จำนวน 86 คน ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้จัดทีมแพทย์ พยาบาล พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ มาให้บริการตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ประชาชนทั่วไปในพื้นที่เขตดอนเมือง โดยมีผู้เข้ารับบริการ รวม 341 ราย

การนี้ รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง และหัวหน้าส่วนราชการฯ ได้เยี่ยมชมการให้บริการหน่วยแพทย์พระราชทานฯ พร้อมทั้ง มอบสิ่งของแก่ประชาชนในพื้นที่ จากนั้น ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1.นายนิวัฒน์ เกตุแก้ว อายุ 70 ปี ชุมชนร่มไทรงาม อยู่บ้านเลขที่ 189/1 ซอยโกสุมรวมใจ 14 เขตดอนเมือง เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง โรคปอด และโรคหอบหืด พักอาศัยอยู่กับภรรยา มีรายได้มาจากภรรยาที่ประกอบอาชีพรับจ้างเป็นแม่บ้านบริษัทเอกชน ในวันที่ภรรยาต้องออกไปทำงานจะนำนายนิวัฒน์ ไปฝากไว้กับเพื่อนบ้านเพื่อให้คอยช่วยดูแล และบ้านที่อยู่อาศัยปลูกอยู่ในที่ดินของรัฐริมคลองเปรมประชากร 2.นางจรินทร์ มังคล้าย อายุ 88 ปี ชาวชุมชนร่มไทรงาม บ้านเลขที่ 18 ซอยโกสุมรวมใจ 8 เขตดอนเมือง กรุงเทพ เป็นผู้พิการ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยาง มีโรคประจำตัวโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบ พักอาศัยอยู่กับลูกชาย รายได้ของครอบครัวมาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการและลูกที่ทำขนมขายแต่มีรายได้เล็กน้อย 3. นายสุรชัย จันทร์ศรี อายุ ๕๘ ปี ชุมชนประชากร 4 บ้านเลขที่ 116 ถนนเชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป     นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ต่อประชาชนในพื้นที่เขตดอนเมือง   

จากพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยโรคมะเร็ง และยกระดับการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลทัดเทียมนานาประเทศ ทรงมีพระดำริให้จัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขึ้น โดยเสด็จเปิดโรงพยาบาลจุฬาภรณ์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ต่อมาด้วยพระกรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยสุขภาพของประชาชนชาวไทย กอรปกับพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่จะนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลสุขอนามัยแก่ประชาชนจึงทรงมีพระดำริให้พัฒนาต่อยอด “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์” จากโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ให้เป็น “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” สถาบันการศึกษาวิจัยที่สร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรในด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นนำของภูมิภาคโดยมีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการให้บริการตรวจรักษาพยาบาลแก่ประชาชน

ปัจจุบัน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดให้บริการก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 โดยพัฒนาสู่การบริการทางการแพทย์ระดับตติยภูมิขั้นสูง ตรวจรักษาผู้ป่วยจากทั่วทุกภูมิภาคครอบคลุมทุกโรค ด้วยศูนย์การรักษาเฉพาะทางด้านต่างๆ ได้แก่ มะเร็งวิทยา ไซโคลตรอนและเพทสแกน หัวใจและหลอดเลือด ภาพวินิจฉัยและรังสีร่วมรักษา ภัยพิบัติและฉุกเฉิน ทางเดินอาหารและตับ กระดูกและข้อ สุขภาพสตรี เต้านม ระบบทางเดินปัสสาวะ จักษุวิทยา อายุรกรรม ศัลยกรรม กุมารเวชกรรม ผิวหนังและเลเซอร์ เป็นต้น พร้อมทั้งให้บริการด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากหลากหลายสาขาที่มีประสบการณ์ ตลอดจนเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยระดับมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก้าวสู่การเป็นสถานพยาบาลขนาดใหญ่ทางฝั่งตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 4 อาคาร ได้แก่ อาคารศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ และอาคารศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5 ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปี พ.ศ.2566 นี้ โดยสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานนามให้ศูนย์การแพทย์แห่งใหม่นี้ว่า “ภัทรมหาราชานุสรณ์” อันมีความหมายว่า ที่ระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสืบสานแนวพระราชดำริของพระราชบิดาในการนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  

ตลอดระยะเวลา 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์สุขภาพที่ดีเพื่อสังคมไทยภายใต้หลักการทำงาน “ทุกชีวิตของคนไข้คือหัวใจของเรา” สืบสานการดำเนินงานตามพระปณิธานในศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้ก่อตั้ง “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์” เพื่อเป็นที่พึ่งพิงทางสุขภาพให้กับชนชั้นกลางจนถึงผู้ยากไร้ให้ได้รับการรักษาอย่างดีเยี่ยม โดยมุ่งหวังให้ประชาชนคนไทยในทุกถิ่นฐานมีสุขภาวะที่ดีและเท่าเทียมเพื่อทุกชีวิต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผนึก โนวาร์ตีส ร่วมขับเคลื่อนการบริการทางการแพทย์ งานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไทย”

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' 

2 พ.ย.2568 - เวลา 10.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์พระพิธีธรรมสวดอภิธรรม แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา จากนั้น เสด็จไปทรงคมที่หน้าเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารหน้าพระแท่นพระนพปฎมหาเศวตฉัตร แล้วทรงคมที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วเสด็จกลับ.

แม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่สร้างหลุมหลบภัย รั้วชายแดน ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์

แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่แนวชายแดน ตรวจการก่อสร้างหลุมหลบภัย พร้อมติดตามแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุด ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์