'นครพนม' พื้นที่ศักยภาพทดสอบวัคซีน

“หากเปรียบเทียบกับภาพรวมของทั้งประเทศการได้รับวัคซีนเข็ม 3  นครพนมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 50%   ถือว่าประชาชนครพนมไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่รั้งท้ายของการฉีดวัคซีน และไม่ได้แปลว่าประชาชนไม่ยอมเข้ารับวัคซีน ดังนั้นเหตุผลที่เลือกจังหวัดนี้  คือความพร้อมของทีมวิจัย และประชาชนเคยมีฐานความเข้าใจเกี่ยวการวิจัยทางคลินิกวัคซีนชนิดอื่นมาแล้ว ”

ในช่วง2ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19   ประเทศไทยได้มีการริเริ่มค้นคว้า วิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด หลายแพลตฟอร์มด้วยกัน และหนึ่งในองค์กรที่วิจัยพัฒนาวัคซีนโควิดนั้นก็คือ องค์การเภสัชกรรม(อภ.) องค์กรหลักที่มีบทบาทหน้าที่ในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ของประะทศ  ก็ไได้ริเริ่มโครงการวิจัยพัฒนาวัคซีน HXP-GPOVac จนขณะนี้เมื่อช่วงประมาณปลายเดือนธันวาคม  2565 ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนทางคลินิกระยะที่ 3 ซึงเป็นการทดลองกับมนุษย์ ได้ใช้จังหวัดนครนพม เป็นพื้นที่การทดลองวิจัย  ซึ่งนับว่าแพลตฟอร์มการวิจัยวัคซีนโควิดที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายอาสาสมัครเข้าร่วมทดลองวัคซีนประมาณ  4,000 คน

เหตุใด ทางอภ. จึงเลือกพื้นที่ จังหวัดนครพนม เป็นแลนด์มาร์คการทดลองวัคซีน  คงต้องย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จังหวัดนครพนม นี้เป็นพื้นที่สำคัญในการวิจัยในโครงการวิจัยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และในปี 2564 ก็มีการจัดตั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลนครพนม อีกด้วย

ดร.ภญ.พรทิพย์ วิรัชวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายชีววัตถุ และรักษาการผู้จัดการโรงงานผลิต(วัคซีน)ชีววัตถุ องค์การเภสัชกรรม ให้มุมมองว่า สืบเนื่องในปีพ.ศ. 2552 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทางอภ. ได้วางแผนการวิจัยพัฒนาวัคซีนที่ใช้ตามฤดูกาลชนิด 3 สายพันธุ์ โดยได้ร่วมมือกับศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข หรือ  TUC ในการสร้างความเข้าใจกับชุมชน (Community Engagement) ในจ.นครพนม นอกจากนี้ในนครพนม ยังเป็นสนามการวิจัยอื่นๆ เกี่ยวกับยา โรคปอดบวม มีปัจจัยพื้นฐานที่มีมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure – SOP) ทั้งในแง่การบริหารจัดการโครงการวิจัย และการมีคู่มือการปฏิบัติงานและมาตรฐานการปฏิบัติงาน

พื้นที่ทดสอบวัคซีนในจ.นครพนม

ดังนั้นจากความต่อเนื่องที่จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ศึกษาวิจัยพัฒนาเกี่ยวยาและเวชภัณฑ์ จึงทำให้เป็นพื้นที่ ที่มีความพร้อมทางด้านการแพทย์  บุคลากร และทีมวิจัยผู้เชี่ยวชาญ  ส่วนการวิจัยวัคซีนโควิดของอภ.ครั้งนี มีเครือข่ายทีมวิจัยที่นำทีมโดยนพ.เกรียงไกร ประเสริฐ หัวหน้าโครงการวิจัยวัคซีนเอชเอ็กซ์พี จีพีโอแวค  นอกจากนั้น ยังมีทีมวิจัยของ TUC  จากสหรัฐอเมริกา เข้ามาร่วมด้วย  ส่วนสำคัญคือ ประชาชนที่นี่ มีพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับทดลองวิจัยทางคลินิก ทำให้การสร้างฐานความร่วมมือเกิดการเชื่อมสัมพันธ์กันได้ง่าย จึงเหมาะในการใช้เป็นพื้นที่วิจัยพัฒนาการทำวัคซีนHXP-GPOVac ซึ่งใช้เทคนิคไข่ไก่ฟักเช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่”

ดร.ภญ.พรทิพย์ วิรัชวงศ์

กลไกในการสร้างความเข้าใจกับอาสาสมัครให้ยินยอมพร้อมใจ เข้าร่วมการทดลองวัคซีนโควิด ที่มีความแตกต่างจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่  และยังเป็นวัคซีนใหม่ที่ยังไม่เคยมีการใช้อย่างเป็นทางการมาก่อน ดร.ภญ.พรทิพย์ อธิบายว่า ก่อนทำการทดลอง อภ.ได้เข้าไปทำงานในพื้นที่ โดยเฉพาะการเข้าถึงในด้านการสื่อสารกับประชาชน   ซึ่งในส่วนของ อภ. ประชาชนก็ให้ความเชื่อมั่นในฐานะองค์กรที่มีบทบาทการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย อีกกลไกสำคัญคือ ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และอสม.ชุมชน ที่มีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน มีความเชื่อใจกัน และมีข้อมูลในการเข้ารับวัคซีน  จึงทำให้การสื่อสารเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น  


“โดยก่อนที่จะเริ่มเข้าไปสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพราะแน่นอนว่าจะต้องมีคำถามความกังวลเกี่ยวตัววัคซีนโควิด-19 ทีมวิจัยในพื้นที่ก็จะมีการอบรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ถึงผลของการทดลองวัคซีนในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่การติดตามประเมินผลความปลอดภัย รวมถึงการชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการฯ ในการเป็นกำลังสำคัญที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม รวมไปถึงโลกใบนี้ “ดร.ภญ.พรทิพย์กล่าว

ดร.ภญ.พรทิพย์ ย้ำถึงประเด็นการเลือกพื้นที่นครพนมอีกว่า จากสิถิติการเข้ารับวัคซีนของประชาชนนครพนมครบ 2 เข็ม พบว่า ชาวนครพนมรับวัคซีน เข็มที่ 1และเข็มที่ 2  เฉลี่ยอยู่ที่ 70%  เข็มที่ 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 33% ซึ่งหากจัดตามลำดับทั้งประเทศจังหวัดนครพนมจะมีสถิติการฉีดวัคซีนอยู่ในลำดับที่ 47  และหากเปรียบเทียบกับภาพรวมของทั้งประเทศการได้รับวัคซีนเข็ม 3  นครพนมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 50%  ซึ่งจากสถิติดังกล่าว ถือว่าประชาชนในนครพนมไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่รั้งท้ายของการฉีดวัคซีน และไม่ได้แปลว่าประชาชนไม่ยอมเข้ารับวัคซีน ดังนั้นเหตุผลที่เลือกจังหวัดนี้  คือความพร้อมของทีมวิจัย และประชาชนเคยมีฐานความเข้าใจเกี่ยวการวิจัยทางคลินิกวัคซีนชนิดอื่นมาแล้ว

ส่วนหนึ่งของอาสาสมัครทดสอบวัคซีนของอภ.

ในส่วนของการศึกษาวิจัยทางคลินิกในระยะที่ 3 ดร.ภญ.พรทิพย์ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้ารับอาสาสมัครที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ไว้ที่ 4,000 คน ก็คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะได้ตามที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าขอขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.) และเริ่มนำวัคซีนไปใช้ได้ประมาณกลางปี 2566 และจะมีการติดตามผลของวัคซีนในระยะที่ 4 หลังได้รับการขึ้นทะเบียนกับทาง อย. และหลังการนำวัคซีนไปใช้ฉีดในประชาชนแล้ว เพื่อเก็บข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิผล  แต่อาจจะไม่คุมเข้มเท่ากับรระยะที่ 3 แต่จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการเก็บข้อมูลก่อนสรุปผลอีกครั้ง “

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' เตือน RSV กำลังระบาดหนัก ทิ้งท้ายปลายฤดู

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า RSV กำลังระบาดอย่างมากทิ้งท้ายปลายฤดู

'หมอยง' แจงยังไม่มีผลวิจัยเพียงพอให้ 'ผู้สูงอายุ' ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่องวัคซีนไข้เลือดออก (ตอนที่ 5)

'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า

ดักคอ 'ทักษิณ' อย่างัดมุกติดโควิด เบี้ยวขึ้นศาล 13 มิ.ย.

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอ้ำอึ้งเรื่องไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง