นับถอยหลัง ยุบสภาฯ ประตูเลือกตั้ง เปิด รทสช.พร้อมลงทำศึก

ประตูไปสู่การ”ยุบสภาฯ”เปิดแล้วหลัง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง คือ

”การแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขตทั่วประเทศ”โดย”คณะกรรมการการเลือกตั้ง”หรือกกต.

จบสิ้นแล้ว เพราะมีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

จึงเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังรอยุบสภาฯ ทีต้องดูกันว่าจันทร์ที่ 20 มีนาคม พลเอกประยุทธ์  นายกรัฐมนตรีจะประกาศ”ยุบสภาฯ”อย่างที่มีกระแสข่าวหรือไม่

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 103 บัญญัติว่า

“ภายในห้าวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ”

ซึ่งหมายถึง หากพลเอกประยุทธ์ยุบสภาฯ 20มี.ค. กกต.ต้องนัดประชุมภายในไม่เกินวันศุกร์ที่ 25 มี.ค. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ก็น่าจะเป็น อาทิตย์ที่ 7 พ.ค. หรือไม่ก็  14 พ.ค.

อย่างไรก็ตาม ก็มีสถานการณ์แทรกซ้อน ที่ต้องจับตา นั่นก็คือ ควันหลงที่ยังมีว่าที่ผู้สมัครส.ส. จากหลายพรรคการเมืองของหลายจังหวัด ไม่พอใจการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. จนจะมีการไปร้องต่อศาลปกครองในพื้นที่ต่างๆ แต่ที่ถูกจับตามากสุดคงไม่พ้น กรณี  “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า”ไป ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง​ ขอให้พิจารณาวิธีการชั่วคราวโดยเร่งด่วน เพื่อขอให้เพิกถอนประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. ด้วยเหตุผลว่า การแบ่งเขตดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้งส.ส.

ต้องดูว่า ศาลปกครองกลางจะว่าอย่างไร จะรับคำร้องไว้พิจารณาและมีการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แต่ยังไง ก็คงไม่ทันกับการยุบสภาฯที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้

แต่หากหลังจากนั้น ศาลปกครอง มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาและมีการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการจัดเลือกตั้งได้ แต่หากรับคำร้องแต่ไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว กกต.ก็เดินหน้าต่อไป ทว่า กกต.ก็เชื่อมั่นว่า งานนี้ไม่มีสะดุด ไม่โดนล้มกระดาน เพราะแบ่งเขตถูกต้อง

กระนั้นจับสุ้มเสียงทางการเมืองได้ว่า มีการวิจารณ์ว่า กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งรอบนี้ เพื่อเอื้อบางพรรคการเมืองใช่หรือไม่

 ซึ่งพรรคที่ตกเป็นเป้ามากที่สุดคงไม่พ้น “รวมไทยสร้างชาติ”ที่ชูพลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ

หลังก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ ถูกวิจารณ์ว่า จะยื้อการยุบสภาให้นานที่สุดเพื่อรอให้รวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมก่อน ถึงค่อยยุบสภา  

ซึ่งหากดูจากสภาพความเป็นจริง กว่า กกต.จะประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขตได้ก็ปาเข้าไปช่วงดึก ศุกร์ที่ 17 มี.ค. ดังนั้นหากพลเอกประยุทธ์จะยุบสภาฯวันที่ 20 มี.ค.หรือช้าสุด วันที่ 22 มี.ค. ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการยื้ออะไร เพราะการจะยุบสภาฯเพื่อให้มีการเลือกตั้งได้ ต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งจากกกต.

เพราะเลือกตั้งรอบนี้มีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นมา 50 เขต จากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเขตเลือกตั้งส.ส.จาก 350 เขตเป็น 400 เขต ทำให้กกต.ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จนเป็นที่มาของความล่าช้าในการแบ่งเขตเลือกตั้งรวมถึงการยุบสภาฯตามมา

 อย่างไรก็ดี ในส่วนของรวมไทยสร้างชาติ  ถึงตอนนี้มีความพร้อมในการเลือกตั้งเต็มที่ จนมีการวางคิวเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทุกภาค ไว้ดังนี้

 21 มีนาคม เปิดตัวผู้สมัครภาคกลาง

 22 มีนาคม  เปิดตัวผู้สมัคร ภาคใต้กับกรุงเทพ

  23 มีนาคม ผู้สมัครภาคเหนือ และ  24 มีนาคม   เปิดตัวผู้สมัครภาคอีสาน

พ่วงด้วยการวางคิวเดินสายหาเสียงของพลเอกประยุทธ์ในต่างจังหวัดไว้หลายจุด เช่นช่วงหลังสงกรานต์ 22 เมษายน ไป ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ พิษณุโลก 29 เมษายน ปราศรัยที่ เชียงใหม่ ฐานใหญ่ของเพื่อไทย

แต่ระหว่างทางทำศึกเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ จะมีเหตุให้สะดุดหรือไม่ หากศาลปกครองชี้ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ละพรรค ก็ลุ้นกันไประหว่างโม่แข้ง   

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง