ในยุคที่แม้ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะพุ่งทะยานไปไกลสักแค่ไหน แต่เรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ การบูชาพระหรือเทพเจ้า ไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง ศาสตร์การดูดวง การสักยันต์ การทรงเจ้า การดูฮวงจุ้ย การยึดหลักฤกษ์งามยามดี และอื่นๆ หรือที่สมัยนี้เรียกว่า ฎ สายมูเตลู "หรือเรียกสั้นๆว่า" สายมู "ยังครอบครองความคิด ความเชื่อ จิตใจ ผู้คนอีกมากมาย
แม้ว่าภาพจำของสายมูที่ดูเป็นเรื่องเก่าคร่ำครึ แต่ก็เพบเห็นมีอยู่ทั่วทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทย มักพบเห็นได้บ่อยในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีการทรงเจ้า ดูดวง หรือเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าความเชื่อสายมูจะไม่แบ่งช่วงวัย ซึ่งทางบริษัท Lucky Heng Heng ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมคนไทยสายมู พบว่าคนไทยประมาณ 52.5 ล้านคน หรือ 75% เชื่อในเรื่องดูดวง ขณะที่อีก 17.5 ล้านคน หรือ 25% ไม่สนใจ ในจำนวนนี้สิ่งที่น่าสนใจคือกลุ่ม Gen Y อายุ 22-41 ปี มีความเชื่อเรื่องดูดวงมากกว่ากลุ่มอื่นๆถึง 43.4%
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ว่ากลุ่มวัยนี้จะเติบโตมาในยุควิทยาศาสตร์วิวัฒนาการมากขนาดนี้ แต่ก็ยังให้ความสนใจในเรื่องของการมู หลักก็จะเป็นเรื่องเรียน การงาน และความรัก
อะไร…ที่เป็นตัวเชื่อมให้คนรุ่นใหม่เกิดความเชื่อในสายมูได้มากขนาดนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเตอร์เน็ตหเป็นตัวกลางที่สำคัญ โดยจากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ประจำปี 2565 พบว่า Gen Y ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดถึง 8 ชั่วโมง 55 นาที รองลงมาคือกลุ่ม Gen Z ที่ใช้อินเทอร์เน็ตทิ้งห่างกันไม่มากอยู่ที่ 8 ชั่วโมง 24 นาที และในปัจจุบันช่องทางการรับสื่อก็ไม่ให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Tiktok Youtube Facebook เป็นต้น นอกจากนี้ตัวบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชื่อเสียง ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นกระแส ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การมูแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องของความเชื่อที่สายมูนิยมกันมากที่สุด ในงานวิจัย Marketing in the Uncertain World การตลาดของคนอยู่เป็น โดยวิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ระบุว่า 5 อันดับความเชื่อโชคลางที่มีผลต่อคนไทยมากที่สุด ก็คือ 1.พยากรณ์ โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิปซี 2.พระเครื่องวัตถุมงคล 3.สีมงคล 4.ตัวเลขมงคล และ5.เรื่องเหนือธรรมชาติ การจัดอันดับความเชื่อที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลเฉพาะสายมูที่เป็นฝั่งผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังได้ขยายไปถึงฝั่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวสายมูและการท่องเที่ยว เรียกได้ว่ามาแรงมากๆในยุคนี้
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ไม่พลาดที่จะสร้างประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจใน 12 เส้นทางทั่วประเทศ ร่วมไปถึงการออกบูธเอาใจสายมูในงาน อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส (Amazing Mutiverse): เปิดจักรวาลสายบุญ ที่เซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการรวมศาสตร์และร้านค้าสายมูจัดให้เต็มที่ เลือกมูได้ตามสไตล์
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากข้อมูลของ Future Market Insight 2023 พบว่า การท่องเที่ยวเชิงศรัทธามีแนวโน้มในการเติบโตแบบก้าวกระโดดโดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3เท่าภายใน 10 ปี จากมูลค่ากว่า 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2576
ส่วนประเทศไทยจากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ก่อนสถานการณ์โควิด19 ในปี 2562 มีมูลค่าอยู่ประมาณ 10,800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าขณะนี้มูลค่าการท่องเที่ยวสายมูจะเพิ่มขึ้น จากความถี่ในการเดินทาง และสถานที่ความเชื่อที่มีการค้นพบใหม่ๆเพิ่มขึ้น ดังนั้นคาดว่ามูลค่าการท่องเที่ยวสายมูในปี 2566 นี้จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10-20% หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท
สินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า ในประเทศไทยการเสริมดวงและโชคชะตากำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ผู้นับถือศาสตร์มูเตลู เชื่อว่าการบูชาและศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยศาสตร์ปี 2563 – 2565 ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาดมีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 11 ราย ทุนจดทะเบียน 7.59 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 20 ราย ทุน 13.41 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 24 ราย ทุน 27.45 ล้านบาท
ด้านผู้ประกอบการ กวินพัฒน์ สุทธิภัทรวนันต์ เจ้าของร้านมูนครเบอร์เกอร์ เล่าว่า การสักยันต์ เป็นหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม และความเชื่อ จึงได้มีแนวคิดที่จะนำมาผสมผสานไว้ในอาหาร โดยได้เลือกเป็นการทำเมนูเบอร์เกอร์ ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติก็รู้จักและทานได้ แต่ไส้เบอร์เกอร์จะเป็นเมนูอาหารไทย อาทิ ต้มยำไก่-กุ้ง ข้าวซอยไก่-เนื้อ คั่วกลิ้ง เป็นต้น ซึ่งความพิเศษคือการประทับยันต์ลงไปบนหน้าเบอร์เกอร์ โดยผู้ที่ทำก็มีการสวดลงคาถาเกี่ยวกับความมั่งคั่งร่ำรวย เสน่ห์เมตตามหานิยม และแคล้วคลายสุขภาพดีจริงๆ โดยลายยันต์ก็ได้มาจากหลานแท้ๆของหลวงพ่อวราห์ วัดโพธิ์ทอง ซึ่งส่วนตัวก็มีการมูองค์เทพที่เราเคารพอยู่แล้ว และสิ่งที่เราทำก็คือการนั่งสมาธิถวายบุญ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน แต่สิ่งที่สำคัญคือการลงมือทำ
วิภาษณีย์ วงศ์พิพิธ หรือที่คนในวงการสายมูรู้จักในชื่อแม่หมอจิ๊ก เจ้าของเพจแม่หมอจิ๊ก 100 รีวิว เล่าว่า ส่วนตัวมีความชอบเกี่ยวกับการดูดวง และคุณป้าก็เป็นนักพยากรณ์ไผ่ยิปซี จึงได้เริ่มศึกษาด้วยตัวเอง จนลาออกจากอาชีพแอร์โฮสเตส มาทำอาชีพทางด้านดูดวงในด้านต่างๆ และการสักลายมือเต็มตัว โดยศาสตร์การสักลายมือมีในหลายๆประเทศ แต่ในประเทศไทยนอกจากดูลายมือ ก็มีการนิยมสักลายมือ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มวัยทำงานที่เริ่มทำธุรกิจต่างๆ
“ต่อมาจึงได้มีการศึกษาเรื่องของเส้นลายมือ ซึ่งแต่ละเส้นก็จะบ่งบอกสถานนะไม่เหมือนกัน อาทิ เส้นความมุ่งมั่นตั้งใจ เส้นจินตนาการ การเดินทาง ทั้งนี้ไม่ใช่การสักถาวร แต่สักให้เกิดลายเส้นเป็นสีแดง เพื่อปรับเปลี่ยนเส้นลายมือและจะจางหายไปเอง เพราะทุกๆ 6 เดือนเส้นลายของคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงไม่มีการสักถาวรเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับเส้นลายมือใหม่ที่อาจจะมีขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องแบ่งด้วยว่าเป็นความเชื่อ 50% และความพยามอีก 50% เพราะหากเชื่ออย่างเดียวไม่ทำอะไรก็ไม่มีผลที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการเสริมบุญด้วยการสวดมนต์นั่งสมาธิด้วย” วิภาษณีย์ ทิ้งท้าย
แม้ว่ากิจกรรมอะเมซิ่ง มูติเวิร์สฯ จะจบลงไปแล้ว แต่สายมูที่ไม่อยากพลาดสถานที่ปังๆ แถมได้เดินทางไปเที่ยว สามารถติดตามติดตามรายละเอียดโครงการเสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ กับ 12 เส้นทางสายมู ได้ที่เว็บไซต์ tourismproduct.tourismthailand.org หรือ facebook: Tourism Product หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร.1672 Travel buddy
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ททท. ผุดไอเดีย Pop-up Workspace สร้างกระแสท่องเที่ยวพร้อมทำงาน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เดินหน้าส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดในประเทศผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีจนถึงช่วงต้นปี ซึ่งถือเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว
“อรรถวิท รักจำรูญ” ผุดโปรแกรมเอาใจสายมู ชวนนั่งรถ บขส.เที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ
หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะต่างหากลยุทธ์ในการปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารมาใช้บริการ เช่นเดียวกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก
MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี
บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี
ททท. เปิดแคมเปญ WOW! ไทยแลนด์ มอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยว
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และพันธมิตร ในการจัดทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ททท. จับมือ TikTok ปั้นบุคลากรสู่อินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ TikTok Thailand จัดกิจกรรมอบรม TikTok Content Creator ในหัวข้อ "วิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาและแนวทางในการพัฒนาเนื้อหา Content" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการพัฒนา Smart People และ Smart Economy ของบุคลากรในองศ์กร ททท.