พณ. ต้อนรับเลขาฯพรรคคอมมิวนิสต์จีน กระชับความสัมพันธ์การค้า ความร่วมมือ EEC

18 พ.ย.2566 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับและหารือ นายอี้ เลี่ยนหง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนไทยเป็นครั้งแรก เพื่อโอกาสกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน และเพิ่มพูนความร่วมมือโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ในความร่วมมือระดับมณฑล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การพบหารือกันในครั้งนี้เป็น โอกาสเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความร่วมมือระดับมณฑล เนื่องด้วยนักลงทุนจากเจ้อเจียงเป็นนักลงทุนอันดับต้นๆ ของจีนในไทย โดยเฉพาะใน EEC โดยเฉพาะในสาขา e-commerce โลจิสติกส์ พลังงานใหม่ และขยายความร่วมมือผ่านนิคมอุตสาหกรรมไทย - จีน ที่จังหวัดระยอง เนื่องด้วยมณฑลเจ้อเจียงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสูง มีเศรษฐกิจภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ทั้งเป็น Hub ด้านดิจิทัล โดยเฉพาะเมืองหางโจว ตลอดจนบูรณาการเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta: YRD)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเตรียมพร้อมยกระดับความร่วมมือ 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1) เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 2) ดิจิทัล วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และความร่วมมือทางวิชาการ 3) การพัฒนาที่ยั่งยืน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และ 4) การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์และการท่องเที่ยวระหว่างกัน

ในส่วนของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ภายใต้ทีมประเทศไทย จะพัฒนาความร่วมมือกับมณฑลเจ้อเจียงในระยะต่อไป โดยจะดำเนินการผ่านกลไก 3 ประการ ได้แก่

(1) การประชุมคณะทำงานไทย - มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งฝ่ายไทยขับเคลื่อนโดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้
(2) การจัดทำ MOU เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับกรมพาณิชย์ เจ้อเจียง โดยเฉพาะประเด็นด้านการค้าบริการดิจิทัล ในฐานะที่เจ้อเจียง เป็นฮับด้านดิจิทัลของจีน
(3) การจัดทำ MOU เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ระหว่าง EEC ของไทยกับเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta: YRD) ของจีนต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ มณฑลเจ้อเจียงยังมีความสนใจที่จะจับมือเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดระยองและจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งรองนายกฯ ได้ประสานเบื้องต้นไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว โดยคาดว่าจะมีความร่วมมือที่ดีของบ้านพี่เมืองน้องในเร็ววันนี้ โดยเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลเจ้อเจียงได้เชิญรีองนายกฯ และคณะเยือนมณฑลเจ้อเจียง เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจการค้าของประเทศไทยอย่างมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

ครม. เคาะ 3 มาตรการด้านการเงิน ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พักเงินต้นยกดอกเบี้ย สินเชื่อสร้างอาชีพ กู้ยืมซ่อมบ้าน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยครม.เห็นชอบ 3 นโยบาย

ครม.อนุมัติค่าปลงศพน้ำท่วมสงขลา รายละ 2 ล้าน เคาะงบกลาง 530 ล้าน ฟื้นฟูหาดใหญ่

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการกรณีอุทกภัยที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

‘พาณิชย์’ผนึกเอกชนลดราคาวัสดุก่อสร้างช่วยชาวใต้

‘พาณิชย์’ ผนึกกำลังผู้ผลิต ห้างวัสดุก่อสร้าง จัดแคมเปญลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูบ้านเรือน สูงสุด 80% ระยะเวลา 1 เดือน ใน 40 สาขาพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุม 9 จังหวัด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน พร้อมสั่งติดตามสถานการณ์สินค้า บริการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ป้องกันเอาเปรียบประชาชน

ช่วยครัวเรือนละ 9 พันบาท หลักเกณฑ์ใหม่เยียวยาผู้อาศัยในพื้นที่น้ำล้อมรอบเกิน 7 วัน แม้ไม่ท่วมบ้าน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 เพิ่มเติมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

เดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ ลั่นจุดยืนรัฐบาลแยกเรื่องความมั่นคงชายแดน-การค้าออกจากกัน

โฆษกรัฐบาล เผย จุดยืนของไทยต่อสหรัฐฯ ย้ำไทยแยกการเจรจาประเด็นความมั่นคง และประเด็นทางการค้าออกจากกัน ยืนยันตามข้อเท็จจริง กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดก่อน