เหลือเวลาอีก 2 วัน ที่จะได้ชิม ช้อป เมนูอาหารถิ่นในงาน “ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” งานนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดเมนูอาหารหาทานยาก ภายใต้โครงการ “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” (Thailand Best Local Food) จาก 10 จังหวัด ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานได้ชมและชิมกันจุกๆ ประกอบด้วยน้ำพริกป่ามะดัน จ.นครนายก, เมี่ยงคำบัวหลวง จ.ปทุมธานี ,ทอดมันปลากราย จ.นครสวรรค์, แกงเหงาหงอด จ.พระนครศรีอยุธยา, ขนมย่างจากใจ จ.สมุทรปราการ, คั่วเนื้อ คั่วปลา สมุนไพรไทคอนสาร จ.ชัยภูมิ, ลาบหัวปลี จ.สระบุรี, ลูกกะทิชองหรือน้ำพริกกะทิชอง จ.จันทบุรี, แกงขมิ้นไตปลาโบราณ จ.สุราษฎ์ธานี และยำส้มโอ จ.นครปฐม โดยเปิดให้ชิมฟรี ณ บริเวณตลาดย้อนยุค เวลา 17.00 – 21.30 น. และยังมีจำหน่ายให้นำกลับไปเป็นของฝากหรือซื้อไปรับประทานที่บ้านได้อีกด้วย
สายชล ส่งเสริม ผู้สาธิตเมี่ยงคำบัวหลวงปทุมธานี กล่าวว่า จ.ปทุมธานี มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกบัว จึงนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า ถ้าตามประวัติศาสตร์เมืองสามโคกที่เต็มไปด้วยบัวชนิดต่างๆ ได้รับพระราชทานชื่อใหม่เมืองปทุมธานี สมัยรัชกาลที่ 2 ขณะที่เมี่ยงคำเป็นอาหารว่างที่มีมานานแล้ว ปรากฎในกาพย์เห่ชมเครื่องว่างของรัชกาลที่ 6 ใช้กินเล่น เป็นเมนูคู่กรุงรัตนโกสินทร์ ปกติใช้ใบทองหลาง ใบชะพลู ในการห่อ แต่เราเปลี่ยนมาใช้กลีบบัวหลวงที่หาได้ในท้องถิ่น เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้ชุมชน
“สรรพคุณของบัวหลวงมีตั้งแต่รากบัว ไหลบัว ใบบัว กลีบบัว เกสรบัว ดีปลี ซึ่งในเมี่ยงคำหลวงปทุมธานีจะใช้กลีบบัว ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีคุณค่าทางอาหารและโภชนาการทางยา แถมมีความหอมอ่อนๆ ของกลีบบัว และยังใช้เกสรบัวด้วย ในวังยังมียำกลีบบัวหลวง ส่วนเครื่องเมี่ยงและน้ำเมี่ยงก็เป็นออร์แกนิกทั้งหมด ได้แก่ มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ขิง มะนาว พริกขี้หนู หอมแดง มาจากสวนออร์แกนิคของเกษตรกรในท้องถิ่น ชวนมาลิ้มลองเมี่ยงคำบังหลวง ภายในงานยังมีเมนูท้องถิ่นจากอีก 9 จังหวัด ทั้งต้ม แกง ทอด ยำ ไม่อยากให้พลาดกัน ” สายชล กล่าว
สนใจเที่ยวชมงาน “ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” แดดร่มลมเย็นๆ แวะมาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงละครแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2567 นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วธ.ถวายพระสมัญญา‘สิริศิลปิน ศิลปินแห่งชาติ’ แด่กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ - รุ่งเพชร แหลมสิงห์ - นันทวัน เมฆใหญ่ คว้าศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
วันที่ 27 ส.ค. 2568 เวลา12.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ ศูนย์การประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม ว่า คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ มายกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ ใน 3 สาขา ได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง เป็นประจำ
