'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี

กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังจันทรเกษม  เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ชื่นชมความงดงามอยุธยามรดกโลกผ่านการประดับตกแต่งไฟให้โบราณสถานสวยงามภายใต้ชื่องาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุง” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 17 พฤศจิกายน 2567 เพียงค่ำคืนแรกของการจัดงานมีประชาชนสนใจร่วมงานมากกว่า 7,000 คน บรรยากาศคึกคักนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยนุ่งโจงห่มสไบเที่ยวงาน ชวนกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

​โอกาสนี้ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร  นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนางสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 ณ วัดพระราม ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจ กล่าวว่า จากนโยบายวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมมาผลักดัน Soft Power ของไทย วธ.ขับเคลื่อนผลักดันการท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรี ซึ่งกรมศิลปากรดำเนินงานตั้งแต่ปี 2566 จนประสบความสำเร็จนำไปสู่การต่อยอดกิจกรรม “4 วัด 1วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “ ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานสำคัญ การประดับตกแต่งไฟโบราณสถานอย่างสวยงามสัมผัสบรรยากาศที่มีมนต์เสน่ห์เมื่อครั้งต้นกรุงฯ  รวมถึงมีการฉายภาพ Projection Mapping  ด้วยแสงสีวิจิตรตระการตา ณ วัดพระราม    และวัดไชยวัฒนาราม ยามค่ำคืน ภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น การแสดงโขน การละเล่นย้อนยุค และการสาธิตช่างฝีมือ วันที่ 15 พ.ย. ตรงกับวันลอยกระทงจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ วิหารหลวง วัดมหาธาตุ เวลา 18.00 น. ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น 

​ “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ กระแสตอบรับดี นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานเป็นหมื่นคน คนให้ความสนใจสวมใส่ชุดไทยมาท่องเที่ยวจำนวนมาก อยากเชิญชวนแต่งชุดไทยมายลโบราณสถานยามค่ำคืน ภายในงานมีการออกบูธอาหารจากทุกภูมิภาค  การเปิดให้มีการท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรี ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาสัมผัสวัฒนธรรมและทำกิจกรรมในพื้นที่อยุธยายาวนานขึ้น ได้พักค้างคืนมากยิ่งขึ้น จับจ่ายใช้สอย จากเดิมท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ เพราะเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ การเปิดให้เที่ยวโบราณสถานยามราตรีจะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน อีกทั้งกรมศิลปากรหลังจากงานนี้ ยังคงจะเปิดให้เข้าชมโบราณสถานทั้ง 5 แห่งในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ รวมถึงในวันหยุดนักขัตฤกษ์และช่วงเทศกาลสำคัญไปจนถึงต้นปี 2568 เพื่อให้ได้ชื่นชมบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนในช่วงฤดูหนาว รวมถึงจะแผยแพร่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในอยุธยาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดี ศก. กล่าวว่า กรมศิลปากรนำเอานโยบายวัฒนธรรมนำเศรษฐกิจมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ โครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนที่กรมศิลปากรดำเนินการเป็นปีที่ 2 หลังจากปีที่ผ่านมามีการเปิดให้เข้าชมโบราณสถานยามค่ำคืนในจ.พระนครศรีอยุธยา 3 แห่ง ได้แก่  วัดไชยวัฒนาราม  วัดราชบูรณะ และพระราชวังจันทรเกษม จนประสบความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับทั้งด้านการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจ และด้านการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล 

ปีนี้กรมศิลปากรจัดกิจกรรมท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในชื่อโครงการ “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุง” เพิ่มจำนวนวัดและเพิ่ม 1 วัง เปิดให้ประชาชนเข้าชมโบราณสถาน 5แห่ง ประกอบไปด้วย โบราณสถานวัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังจันทรเกษม นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำความงดงามของโบราณสถานยามราตรียามต้องแสงจันทร์  ช่วงปลายปี High Season จะเป็นช่วงที่มียอดผู้เข้าชมโบราณสถานมากที่สุด แต่จริงๆ แล้วโบราณสถานท่องเที่ยวได้ตลอดปี สวยทุกฤดูกาล

“ เป็นครั้งแรกของโบราณสถานวัดพระรามที่ประดับตกแต่งไฟยามราตรี ได้ชมความงดงามของพระปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้น  มีการจัดแสดงการละเล่นที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยามาให้ชม จากแนวคิดที่ว่า “เมื่อครั้งต้นกรุงศรีฯ ประชาชน     มีการละเล่นอะไร…” สมัยนั้นไม่มีโซเชียล ไม่มีมือถือ แท็บแลต คนแสวงหาความสุขกันอย่างไร  ซึ่งจะมีการแสดงโขน การแสดงละครนอก การแสดงโมงครุ่มที่หาชมได้ยากจากสำนักการสังคีต การแสดงมวยคาดเชือก ซึ่งจะหมุนเวียนไปจัดแสดงในพื้นที่ 4 วัด 1 วัง การสาธิตช่างฝีมืออย่างไทยโบราณโดยสำนักช่างสิบหมู่ การประกวดแมวไทยโบราณ “แมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ” เพราะตำราดูแมวกำเนิดขึ้นสมัยอยุธยา การประกวดนางนพมาศ การเสวนาเรื่อง มหรสพและการละเล่นครั้งอยุธยา การจำหน่ายสินค้า อาหาร ผ้าไทยของภาคีเครือข่ายทางวันฒธรรม มีบริการเช่าชุดไทยของผู้ประกอบการท้องถิ่น อยากชวนมาเที่ยวชมมรดกวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษฝากไว้กับแผ่นดิน สะท้อนพลังทางวัฒนธรรม Soft Power  “ นายพนมบุตรกล่าว 

งาน 4 วัด 1 วัง ฉายภาพพระนครศรีอยุธยาที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม และความโดนเด่นของอารยธรรม ตลอดจนโบราณสถานที่ทรงคุณค่า มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ควรค่ากับนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ขอเชิญชวนมารับประสบการณ์ที่ดีกับการชมโบราณสถานในเวลาค่ำคืน ซึ่งไม่ได้เปิดให้เข้าชมบ่อยนัก 

สนใจร่วมเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืน ได้ที่งาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ตั้งแต่วันนี้ -17 พ.ย. ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park และ Ayutthaya Sundown

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมศิลป์ เตรียมบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม ค้นพบ 20 ต้น ใช้ในพระราชพิธีพระบรมศพพระพันปีหลวง

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการออกแบบพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังจากสำนักสถาปัตยกรรม

กรมศิลป์ เผยจัดทำร่างแบบพระเมรุมาศ เสร็จแล้ว งดงามสมพระเกียรติ

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้ดูแลรับผิดชอบด้านรูปแบบพิธีการและการจัดสร้างพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้

อธิบดีกรมศิลป์ เผยร่างแบบ 'พระเมรุมาศ' เสร็จสัปดาห์หน้า ก่อนนำทูลเกล้าฯ องค์ที่ปรึกษา

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างการจัดทำแบบร่างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

กรมศิลปากร วางไทม์ไลน์ 90 วัน จัดทำแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

"รมว.วัฒนธรรม" สำรวจราชรถ-ราชยาน เตรียมขอฤกษ์บวงสรวงเริ่มงานบูรณะ "กรมศิลปากร" วางไทม์ไลน์ 90 วัน ร่างแบบพระเมรุมาศ"สมเด็จพระพันปีหลวง"

'กรมศิลปากร' เตรียมพร้อมจัดสร้างพระเมรุมาศ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานหลักในเรื่องการออกแบบและการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมผู้ปฏิบัติงานในการถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์