
ผู้ประกอบการ 17 กลุ่มชาติพันธุ์ ประกอบด้วยไทยลื้อ ไทย-ลาว ไทพวน ลาหู่ ลัวะ เมี่ยน ผู้ไท ไทญ้อ ส่วย เยอ มอญ ไทยทรงดำ ลาวเวียง มอญ ลาวครั่ง ไท–ยวน ลาวเวียง และกะเหรี่ยงโปว์ จาก 20 ชุมชนหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นทั้งผู้รังสรรค์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งผ้าทอพื้นเมือง เสื้อผ้าปัก เครื่องประดับ อาหารการกิน สินค้าทำมือ โดยสร้างจากภูมิปัญญาที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่มีพลัง ร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ชาติพันธุ์ บ้านฉัน” จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันก่อน เพื่อเรียนรู้การต่อยอดทางวัฒนธรรม ปลุกไอเดียใหม่ๆ โดยคงเอกลักษณ์ชุมชน และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืนดีต่อชุมชน ดีต่อโลก ช่วยขยายโอกาสทางการตลาดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบัน เป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคใช้สินค้าหรือแบรนด์จากกลุ่มชาติพันธุ์อย่างแพร่หลาย

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมอบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ นับเป็นกิจกรรมดีๆ ส่งเสริมชุมชนชาติพันธุ์รู้จักแนวทางการยกระดับสินค้า ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น สู่การพัฒนาแบรนด์ชุมชน และหาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยมิติทางวัฒนธรรม เกิดเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต้นแบบ ที่พร้อมเป็นแบบอย่างต่อชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ทั่วประเทศได้อีกด้วย นอกจากเวิร์คช็อปแล้ว วธ.ได้นำชุมชน ผู้ประกอบการจากกลุ่มชาติพันธุ์ ลงพื้นที่ต้นแบบ ณ ภูษาผ้าลายอย่าง ชุมชนคุณธรรมบ้านไร่มะตูม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งมีการผลิตและจำหน่าย ผ้าลายอย่าง ผ้าลายเทียมยกทอง ผ้าลายต่าง ๆ ผู้ออกแบบ รังสรรค์เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์อาทิ เช่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย หมวก ปลอกหมอน ลวดลายงดงามมีความเป็นเอกลักษณ์ หนุนยกระดับและเสริมศักยภาพให้กับชุมชนและผู้ประกอบการ

หลังจากการอบรมแล้ว รมว.ปุ๊ง-สุดาวรรณ ระบุ วธ.จะนำสินค้าที่ได้รับการต่อยอดไปทดลองจำหน่ายในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สุงสุดแก่ผู้เข้ารับการอบรม และเพื่อจะได้นำข้อคิดเห็นของผู้บริโภคมาพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง การจัดอบรมในครั้งนี้นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมและสร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจในกลุ่มชาติพันธุ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วธ. มีนโยบายมุ่งขับเคลื่อนการยกระดับเศรษฐกิจวัฒนธรรม พัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติ อย่างยั่งยืน ผลักดันจากรากฐาน อย่างเข้มข้น ขับเคลื่อนสู่สากลอย่างเข้มแข็ง โดยการพัฒนาและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก ถือให้เศรษฐกิจวัฒนธรรม คือ กุญแจสำคัญที่พาประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
“ วธ.มีโอกาสหารือความร่วมมือขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (Cultural Product of Thailnd : CPOT) ไปทั่วประเทศ ร่วมกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) พร้อมร่วมกันส่งเสริมให้ชุมชน ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ได้มีโอกาสเข้ามาจำหน่ายสินค้าดังกล่าวให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยการจัดหาพื้นที่ในการตั้งร้านค้า CPOT รวมถึงการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ การสร้างความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ “ สุดาวรรณ กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จุฬาฯ-มหิดล ผนึกกำลังสร้างนวัตกรรมเวชสำอางจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทย เตรียมทดสอบทางคลินิกที่ศิริราช
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice™ Complex" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ไทย
จุฬาฯ จับมือ Founder Institute สหรัฐฯ เปิดตัวโครงการ 'Go Global Startup Bootcamp: Chula - DC Silicon Startup Bridge' ปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีโลก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) เดินหน้ายกระดับศักยภาพผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย เปิดโครงการ “ติดอาวุธเสริมศักยภาพธุรกิจนวัตกรรมสู่สากล (Go Global Startup Bootcamp): Chula – DC Silicon Startup Bridge” ร่วมกับ Founder Institute (FI) ประเทศสหรัฐอเมริกา” ซึ่งเป็นเครือข่ายนักลงทุน การบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของผู้ประกอบการบริษัทสตาร์ทอัพของไทย ในการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาธุรกิจในระดับสากล ทั้งในด้านองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การระดมทุน ตลอดจนการก้าวเข้าสู่เครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก
วธ.นำทีมไทยแลนด์ร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเกาะไห่หนาน หนุนลงทุนในอุตสาหกรรมหนัง-โทรทัศน์
นางสาวรานี อิฐรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนางสาวปราณิสา เตียวพิพิธพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน
ชาวบ้านริมน้ำสาละวิน มึนข้อมูลราชการสุดสับสน ไม่แน่ใจปลา-พืชริมน้ำกินได้หรือไม่
ชาวบ้านริมน้ำสาละวินมึนข้อมูลราชการสุดสับสน-ไม่แน่ใจปลา-พืชริมน้ำกินได้หรือไม่-ชาวกะเหรี่ยงสองฝั่งร่วมกันจัดกิจกรรมคืนชีวิตให้แม่น้ำ-นักวิชาการแนะจังหวัดเร่งตั้งวงหารือผู้เชี่ยวชาญน้ำปนเปื้อน-วางแผนแก้ปัญหา

