'หมอธีระวัฒน์' เตือนฉีดวัคซีนงูสวัด บางคนอาจเป็นการกระตุ้นแรงเกินไป ทำให้เส้นประสาทอักเสบได้

26 ก.พ.2568- ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กว่า

ฉีดวัคซีนงูสวัดหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ mRNA แต่มีสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองรุนแรงขึ้น

ดังนั้นในบางคนอาจจะมากเกินไป จนมีผลภายในระยะหลังฉีดไม่นานจนกระทั่งสองสามวัน

แต่ในขณะเดียวกันมีปรากฏการณ์แพ้ตัวเองเลยเกิดเป็นเส้นประสาทอักเสบได้ ซึ่งเกิดขึ้นได้เช่นกันในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนRSV ซึ่งทั้งหมดมีคำเตือนในใบกำกับวัคซีน

การจะฉีดอยู่ที่ความสมัครใจและช่วยกันประเมินระหว่างแพทย์และคนรับวัคซีน

แต่ในขณะเดียวกันยาที่ใช้รักษางูสวัดในปัจจุบันนี้เนื่องจากเป็นยาที่หมดสิทธิบัตรแล้ว และยาที่ดีที่สุดเมื่อเกิดงูสวัดและทำให้แผลหายเร็วอีกทั้งป้องกันไม่ให้ไวรัสย้อนกลับเข้าไปตามเส้นประสาทไปยังไขสันหลังหรือสมองคือ acyclovir ในผู้ใหญ่ใช้ขนาด 800 มิลลิกรัมวันละห้าหนทุก 4 ชั่วโมงไปอย่างน้อยที่สุดเจ็ดวัน และอาจยาวถึง 14 วันได้

โดยเฉพาะในตำแหน่งที่สำคัญคือใบหน้าศีรษะและลำคอ ซึ่งบริเวณสำคัญนี้ในความเป็นจริงควรที่จะใช้เป็นยาฉีดเข้าเส้นแต่เนื่องจากต้องอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 14 วัน ทำให้มีการตกลงกันว่าใช้ยากินไปก่อน

แต่ถ้าดูรุนแรงขึ้นให้ใช้เป็นฉีดเข้าเส้นแทน อีกประการที่สำคัญก็คือ เมื่องูสวัดขึ้นต้องรีบทานยาทันทีเลย อย่าพอกสมุนไพรนั้นใช้ได้แต่เพื่อทำให้ผื่นหายเร็วแต่การที่จะกำราบไวรัสในเส้นประสาทกรมประสาทให้กลับสงบนิ่งควรต้องเป็นยาดังที่กล่าวไปแล้ว
หมายเหตุ ขนาดของยา acyclovir ต้องมีการลดขนาดบ้างในกรณีที่ไปทำงานไม่ปกติมาก ต้องให้คุณหมอจัดการครับ