
โรคกระดูกและข้อเสื่อม เป็นภาวะที่หลายคนมักเชื่อว่าเกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัยโดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการเสื่อมของกระดูกและข้อก่อนวัยอันควร
จากสถิติของโรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในประเทศไทย พบว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยเรื่องกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและวัยกลางคน นอกจากนี้ ยังพบว่าปัญหากระดูกสันหลังเสื่อมในปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่ที่บริเวณหลังส่วนล่างเหมือนเมื่อก่อน แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน กระดูกสันหลังส่วนคอและข้อกระดูก ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบัน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพบว่า หลายคนมีพฤติกรรมที่เป็นตัวเร่งให้กระดูกและข้อเสื่อมโดยไม่รู้ตัว ได้แก่ 1. นั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่ขยับตัว ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่ลุกขึ้นขยับตัว ทำให้กล้ามเนื้อรอบๆ กระดูกสันหลังอ่อนแรงลง แรงกดที่หมอนรองกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น และกระดูกสันหลังเสื่อมเร็วขึ้นที่สำคัญ หลายคนเผลอนั่งหลังค่อม ไหล่ห่อ หรือโน้มตัวไปข้างหน้า ซึ่งเป็นท่านั่งที่ทำให้กระดูกสันหลังต้องรับแรงกดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
2. ยกของหนักผิดวิธี การก้มยกของหนักโดยใช้กล้ามเนื้อหลัง แทนที่จะใช้กำลังจากขา เป็นสาเหตุของภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกดทับเส้นประสาทที่พบได้บ่อย วิธีที่ถูกต้องในการยกของคือ ให้ย่อตัวลง ใช้ขางอเข่า แล้วยกของขึ้นโดยให้หลังตรง วิธีนี้จะช่วยลดแรงกดที่กระดูกสันหลังได้อย่างมาก
3. พฤติกรรมที่มีแรงกระแทกสะสมในชีวิตประจำวัน กิจกรรมบางอย่างอาจทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกระแทกโดยไม่รู้ตัว เช่น การนั่งรถที่โช๊คอัพไม่ดี หรือการนั่งเรือเร็วที่มีแรงกระแทกสูง สิ่งเหล่านี้ทำให้แรงสะสมที่ข้อต่อเพิ่มขึ้น และเร่งให้เกิดภาวะกระดูกเสื่อมได้เร็วขึ้น
4. การนั่งผิดท่า การนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือคุกเข่า ทำให้ข้อเข่าต้องรับแรงกดมากกว่าปกติ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมได้เร็วขึ้น
5. การใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะ”Text Neck Syndrome” หรือภาวะกระดูกคอเสื่อมจากการก้มมองหน้าจอเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ก้มมองจอมือถือ กระดูกคอจะต้องรับน้ำหนักศีรษะมากกว่าปกติหลายเท่า หากทำบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณต้นคออ่อนล้า และนำไปสู่ภาวะกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม โรคกระดูกสันหลังสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมในชีวิตประจำวัน เช่นปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ,ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัว รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูก และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ แต่หากปรับพฤติกรรมแล้วยังมีอาการปวดเรื้อรัง การค้นหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ โดยมี 2 แบบตามอาการ
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ทำกายภาพบำบัด เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรงของหลัง การใช้ยาลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวด
ส่วนการรักษาด้วยการผ่าตัด ปัจจุบันมี วิธีการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบแผลเล็ก เรียกว่าเทคโนโลยี MIS (Minimally Invasive Spine Surgery) เช่น การจี้เลเซอร์ รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เทคนิค PSCD รักษาอาการปวดคอร้าวลงแขนที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ โดยโรงพยาบาลเอสสไปน์ มีเทคนิคการรักษาดังกล่าว โดยเฉพาะเทคนิค PSLD สามารถ รักษาโรคหมอนรองกระดูกส่วนหลังตีบแคบหรือปลิ้นทับเส้นประสาท ช่วยลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยเสียเลือดน้อย เจ็บปวดหลังการผ่าตัดลดลง และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1 คืน เท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภัยพิบัติสแกมเมอร์ | ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์
ภัยพิบัติสแกมเมอร์ | ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์
ทร.ยังเปิดกว้างทุกข้อเสนอโครงการจัดหา 'เรือฟริเกต' ลำใหม่ ลั่นยึดข้อมูลรอบด้าน-โปร่งใส
โฆษกกองทัพเรือ แจงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการจัดหาเรือฟริเกตลำใหม่
🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568
ลัคนามังกรกับลีลาสำคัญของชีวิตปี2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมาก) ที่มีแนวโน้มจะเกิดกับท่า

