
ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์การต่อสู้กับโรคติดเชื้ออาร์เอสวี เมื่อทารกคนแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ได้รับการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับทารกทุกคน เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ซึ่งเป็นภาระสำคัญต่อสุขภาพทารกทั่วทั้งภูมิภาค
โรคติดเชื้ออาร์เอสวีเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างเฉียบพลันในเด็กทั่วโลก ส่งผลให้มีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 3.6 ล้านครั้งและมีผู้เสียชีวิต 160,000 รายต่อปีในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยร้อยละ 90 ของทารกและเด็กเล็กจะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีภายใน 2 ปีแรก แม้ว่าโรคติดเชื้ออาร์เอสวีเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่ทารกทุกคนที่อายุต่ำกว่าหนึ่งปี ไม่ว่าจะเกิดก่อนกำหนดหรือเกิดครบกำหนดและมีสุขภาพดี จะมีความเสี่ยงสูงสุดต่อการติดเชื้อ RSV ที่รุนแรง ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ภาระโรคนั้นรุนแรงมาก เนื่องจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวีไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้แต่เพียงการรักษาประคับประคองตามอาการ การให้ความรู้และการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีจึงมีบทบาทสําคัญมาก

ศ.นพ. สมศักดิ์ โล่ห์เลขา อดีตประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) ได้ออกแนวทางปฏิบัติทางคลินิกในการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab (เนอร์ซีวิแมบ) เพื่อลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ RSV โดยทารกที่มีสุขภาพดีทุกคนที่อายุต่ำกว่า 8 เดือน และอาจพิจารณาให้แก่ทารกที่มีสุขภาพดีที่มีอายุ 8-12 เดือน ควรรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab (เนอร์ซีวิแมบ) เพียงครั้งเดียวก่อนฤดูการระบาดหนักในช่วงหน้าฝน เดือนมิถุนายน-ตุลาคม การสร้างเสริมภูมิต้านทานด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปนี้ เป็นเสมือนเกราะปราการเพื่อลดอัตราการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต ถือว่าเป็นความหวังสำหรับอนาคตที่มีสุขภาพดีขึ้นสำหรับทารกในภูมิภาคนี้ โดยเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นทารกคนแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียได้รับป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป สำหรับทารกทุกคน ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามปกป้องสมาชิกที่เปราะบางที่สุดของสังคม โรคติดเชื้ออาร์เอสวีถือเป็นความท้าทายด้านสุขภาพที่สำคัญมาเป็นเวลานาน การป้องกันในครั้งนี้ ถือเป็นยุคใหม่ในการปกป้องสุขภาพของเด็กๆ ของเรา

ก่อนจะถึงฤดูการระบาดของ RSV ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน พ่อแม่ผู้ปกครองควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อขอรับคำแนะนำในการป้องกันทารกและเด็กเล็กจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวีเพื่อลดความเสี่ยงจากอาการแทรกซ้อนรุนแรงและการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สลด! สาวคลอดลูกในห้องน้ำลำพัง เด็กเสียชีวิตก่อนห่อใส่กระเป๋าไปโรงพยาบาล
หญิงสาวที่พักอาศัยเพียงลำพังในสำโรงเหนือปวดท้องเข้าห้องน้ำก่อนคลอดลูกแบบไม่ทันตั้งตัว เด็กไม่ร้อง-ไม่หายใจ แม่หมดแรงนอนกอดลูกกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนตัดสินใจใส่ร่างทารกใส่กระเป๋ามาหาแพทย์ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต
ไทยปรบมือดังๆเชียร์สหรัฐยึดทรัพย์สแกมเมอร์เขมร
กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์
สลด! พบศพทารกในถุงขยะ ทิ้งริมคลองชลประทาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู รับแจ้งพบศพเด็กทารกถูกทิ้งริมคลองชลประทานใกล้เคียงซอยเทศบาลบางปู 71 หรือ ซอยเสด็จแม่ปิยะบังภัย
'ศิริกัญญา' หวังภาษีทรัมป์ไม่เกิน 20%ไม่กล้าฝันเท่าญี่ปุ่น 15%
'ไหม' หวัง 'ภาษีทรัมป์' จบที่ไม่เกิน 20% ใกล้เคียงกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนะหากเปิดเสรีข้าวโพดให้ 'สหรัฐ' ก็ควรเร่งเตือนเกษตรกรทันที ชี้เปิด 152 เรื่องเดียวเสียของ เตือน 'ภท.' ควรเก็บกระสุนไว้
อึ้ง! ผลตรวจเด็กทารก พบสารเสพติดจากการกินนมแม่ติดยา
พมจ.บุรีรัมย์ พร้อมฝ่ายปกครอง อำเภอนางรอง และหลายหน่วยงาน เร่งเหลือทารกน้อยวัย 3 เดือน หลังผลตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย เนื่องจากกินนมแม่ที่เสพยาเสพติด และสูบบุหรี่ไฟฟ้า กับสามี
สุดยื้อ! กู้ภัยปั๊มหัวใจช่วยทารก หลังแม่ชาวเมียนมาคลอดทิ้งกองขยะ
พ.ต.ท.ธัมมัญชิษฐ์ สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนงานก่อสร้างคลอดลูกทิ้งไว้ ภายในห้องพักแคมป์คนงานก่อสร้าง


