มก.ลุยสร้าง'อุทยานการแพทย์' เปิดโรงพยาบาล2อาคาร

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) เปิดทำการสอนมาในปี 2567 ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบการเรียนการสอนให้ทันสมัยและตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงของสุขภาวะ ด้วยการบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายศาสตร์ โดยเฉพาะการนำจุดแข็งด้านเกษตรและนวัตกรรมมาต่อยอดสู่การพัฒนา “เวชศาสตร์การเกษตรและชีวนวัตกรรม” (Agro-Medicine and Bio-Innovation) ซึ่งเป็นแนวทางเฉพาะตัวที่สะท้อนอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน

แนวทางดังกล่าวไม่เพียงเพิ่มศักยภาพด้านการวิจัยและการเรียนการสอนเท่านั้น หากยังนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีการรักษา ยาสมุนไพร และการรับมือกับโรคที่ถ่ายทอดจากสัตว์สู่คนอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการอธิการบดี มก.กล่าวว่า สำหรับม.เกษตรฯ นับว่ามีจุดแข็งเรื่องอุตสาหกรรมทางด้านเกษตร เทคโนโลยีทางเกษตร การพัฒนาวิจัยพืชทางเกษตร อาหาร และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ดังนั้นการเปิดสอนคณะแพทยศาสตร์ เป็นการเสริมจุดแข็งในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการเรียนการสอนเพื่อใช้องค์ความรู้สู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพของประเทศ

จุดมุ่งหมายหลัก คือ การบูรณาการเวชศาสตร์การเกษตรและชีวนวัตกรรม โดยใช้ความเชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยมีอยู่แล้วในด้านอุตสาหกรรมเกษตร วิศวกรรม เครือข่ายเทคโนโลยี และโภชนาการ มาเสริมสร้างองค์ความรู้ทางการแพทย์ ตั้งแต่การวิจัย การพัฒนายา การใช้สมุนไพร การรักษาโรคจากสัตว์สู่คน รวมถึงการใช้อาหารเป็นยา ซึ่งตอบโจทย์วิถีสุขภาพเชิงรุกอย่างแท้จริง

“การก่อตั้งคณะแพทยฯ ยังนำไปสู่การพัฒนาโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพสำหรับนิสิต บุคลากร และประชาชน พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ฝึกอบรมแพทย์ในอนาคต นับเป็นความตั้งใจที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เสริมศักยภาพด้านวิชาการ และขยายพรมแดนขององค์ความรู้ทางการแพทย์ไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น” ดร.ดำรงค์ กล่าว

ด้าน รศ.พล.อ.นพ.ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า  ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาให้เปิดการเรียนการสอนในระดับแพทยศาสตร์  ในส่วนของหลักสูตรแพทยศาสตร์ ที่อาจจะแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นคือ การให้นักศึกษาได้ฝึกในภาคปฏิบัติเร็วขึ้นในช่วงของปีการศึกษาที่ 3 ที่โรงพยาบาลในเครือข่าย 2 แห่ง ได้แก่ รพ.ศูนย์สกลนคร จ.สกลนคร และรพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี ในส่วนอนาคตจะมีแบ่งนักศึกษาบางส่วนอยู่ที่รพ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาได้ทำความเข้าใจบริบทของการทำงานและทักษะการดูแลผู้ป่วยได้เร็วขึ้น

คณบดีคณะแพทยฯ มก. กล่าวต่อว่า ในส่วนของการบูรณาการกระบวนการต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งก็คือ ชีววัตกรรมและวิทยาศาสตร์การเกษตร ที่จะเป็นหัวใจสำคัญให้กับนักศึกษาได้ต่อยอดองค์ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร สิ่งแวดล้อม หรือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น สมุนไพร หรือโรคติดต่อที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม หรือสัตว์สู่คน และสารเคมีทางการเกษตร ที่อาจจะได้เห็นผลงานวิจัยในช่วง 5 ปีหลังจากนี้ นอกจากนี้ยังมีการส่งอาจารย์ไปเรียนเพิ่มเติมในแขนงต่าง ๆ เช่น พิษวิทยา  และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม เพื่อกลับมาพัฒนาศูนย์วิจัยด้านวิทยาศาสตร์การเกษตรและนวัตกรรมในอนาคต ซึ่งในอนาคตจะมีศูนย์วิจัยเวชศาสตร์การเกษตร ชีวนวัตกรรม ที่จะการเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนางานวิจัย

คณบดีคณะแพทย์ฯ มก. กล่าวว่า ในอนาคตนอกจากจะขยายรับนักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 2 แล้ว จำนวน 70 คน และจะรับนักศึกษาให้ครบ 100 คน ภายในปี 2576 โดยจะมีจำนวนที่ปรึกษาจำนวนขึ้นอีก และภายในอีก 5 ปีจากนั้นจะขยายให้ครบตามเป้าหมาย ซึ่งนอกจากคณะแพทยศาสตร์ ยังมีคณะพยาบาลศาสตร์และเภสัชศาสตร์ที่กำลังเปิดรับนักศึกษาเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ทางม.เกษตรศาสตร์ ยังได้เสริมแกร่งดำเนินการโครงการอุทยานการแพทย์ เนื่องจากในปัจจุบันการเรียนการสอนอยู่ภายในส่วนของอาคารของคณะวิทยาศาสตร์  โดยการสร้างอุทยานการแพทย์ตามผังพัฒนาการใช้พื้นที่ของหอพักนิสิตหญิงเดิมที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว ได้แก่ พื้นที่ หอพักหญิงพุทธรักษา, หอพักหญิงราชาวดี, และหอพักหญิงมหาหงส์ ร่วมถึง  อาคารอื่นๆ ได้แก่ Study room และสนามบาส อีกทั้งโครงการยังมีจุดเด่นที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นโดยรอบมากถึง 25 ไร่

 ภายในอุทยานการแพทย์ ประกอบด้วย 1. อาคารเรียนและปฏิบัติการคณะแพทยศาสตร์ งบประมาณ 499 ลบ. 2. อาคารโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังที่ 1 งบประมาณ 854 ลบ. จำนวน 100 เตียง 3. อาคารโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังที่ 2 งบประมาณ 2,859 ลบ. จำนวน 300 เตียง  4.อาคารเรียนและปฏิบัติการคณะพยาบาลศาสตร์ งบประมาณ 406 ลบ. 5. อาคารพักบุคลากรการแพทย์และนิสิตแพทย์ จ.สุพรรณบุรี งบประมาณ 86 ลบ. และ6. อาคารพักบุคลากรการแพทย์และนิสิตแพทย์ จ.สกลนคร งบประมาณ 86 ลบ.

โดยล่าสุด ม.เกษตรศาสตร์ ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการคณะแพทยศาสตร์  กับบริษัท อาคาร 33 จำกัด โดยคาดว่าแผนงานก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน มิถุนายน 2571