
งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จากการผสานความร่วมมือกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และเครือข่ายวัฒนธรรม เปิดพื้นที่เชิญชวนให้คนทุกเพศทุกวัยร่วมสัมผัสศิลปวัฒนธรรมจาก 4 ภูมิภาค ผ่านโซนนิทรรศการที่หลากหลายและกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจด้านศิลปะและวัฒนธรรมของความสร้างสรรค์ ทั้งยังเป็นโอกาสดีที่จะได้พบปะกับชุมชนและผู้ประกอบสินค้าวัฒนธรรมที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรม และ Soft Power ของไทย เผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทยสู่เวทีโลก ภายใต้แนวคิด“ไทยดี”

จัดเต็ม 5 วัน กับไฮไลต์ความสนุกของงานมหกรรมวิถีถิ่น วิถีไทย สามารถเข้าร่วมงานฟรี ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 กันยายน 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โอกาสนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินชื่อดัง เครือข่ายวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เข้าร่วม บรรยากาศวันแรกของมหกรรมครั้งใหญ่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

นายสุชาติ ตันเจริญ กล่าวว่า มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจำปี 2568 เปรียบเสมือนศูนย์รวมเสน่ห์ศิลปวัฒนธรรมจาก 4 ภูมิภาค ถ่ายทอดทั้งความงดงามของภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชีวิตดั้งเดิม และความคิดสร้างสรรค์ร่วมสมัย ภายใต้นโยบาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรม และ Soft Power ของไทยเพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก ถือเป็นครั้งแรกที่ของดีของเด่นจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศถูกรวมไว้ในที่เดียวกันอย่างครบถ้วน
” ปีนี้มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ชูแนวคิด “ไทยดี” ถ่ายทอดความงดงามและคุณค่าใน 4 มิติสำคัญ ได้แก่ ดี ประเพณีอันดีงาม ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น สะท้อนรากเหง้าความเป็นไทย ดี ศิลปวัฒนธรรม ผ่านการแสดง การละเล่น และศิลปหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ ดี อาหารไทยและอาหารถิ่น จากทุกภูมิภาค ที่ทั้งอร่อยและเต็มไปด้วยภูมิปัญญาการกินอยู่ ดี ผลิตภัณฑ์และภูมิปัญญาวัฒนธรรม ชุมชนท้องถิ่นได้สร้างสรรค์และพัฒนาต่อยอดสู่ตลาดสากล ทั้งหมดนี้คือหัวใจของไทยดี สะท้อนความภาคภูมิใจในรากเหง้า ฃและการก้าวไปข้างหน้า Soft Power ไทย“ นายสุชาติ กล่าว

ด้านนายประสพ เรียงเงิน กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานมีโซนเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมนิทรรศการ “ชุดไทยพระราชนิยม” 8 ชุดอันทรงคุณค่า ซึ่งไทยเสนอขึ้นทะเบีบนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโกปี 2569 นอกจากนี้ ของดีจากทุกภาคมาจัดแสดงไว้ที่เดียว แล้วยังมีเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภูมิภาค ชมการแสดงศิลปะหลากหลายรูปแบบ จากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน และศิลปินดัง นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ตและการแสดงพิเศษทุกวัน อาทิ สงกรานต์ The Voice เวียง นฤมล ระเบียบวาทศิลป์ ลิเกคณะ กุ้ง สิธิราช นุ๊กปาย D GERRARD ฮาย อาภาพร และเบิ้ล ปทุมราช รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเครือข่ายทางวัฒนธรรมทั่วประเทศ

ยังไม่หมดเท่านี้ ปลัด วธ. กล่าวว่า ในมหกรรมมีโซนถิ่นไทยสร้างสรรค์ นำเสนออัตลักษณ์ 7 เมืองสร้างสรรค์ของไทย แรงบันดาลใจจากทุนวัฒนธรรมที่ต่อยอดพัฒนาเมือง โซนวิถีถิ่น 4 ภาค รวมของดี ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมประจำถิ่น ของฝากจากชุมชน 120 บูธ สำหรับโซนถิ่นภาคเหนือ สาธิตการทอผ้า โชว์อัตลักษณ์ความเป็นไทยจากเจ้าของวัฒนธรรม นางประทอม ทาแปง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ทอผ้า) กิจกรรม Cultural Workshop ให้ผู้สนใจทำงานคราฟต์ร่วมสมัยด้วยตัวเองฟรี
“ ถ้าชอบของอร่อย มหกรรมครั้งนี้ยกมาทั้ง 76 จังหวัด เสนออาหารไทย–อาหารถิ่นจาก 60 ร้าน มาลิ้มลองโอ๋วเอ๋วภูเก็ต ขนมหวานท้องถิ่นประจำจ.ภูเก็ต แก้กระหาย ดับร้อน ทานคู่น้ำแข็งใสและถั่วแดงต้มสุกราดด้วยน้ำแดงหอมหวานชื่นใจ หมูฮ้อง ภูเก็ต สายหวานพบกับแป้งสาคูต้นชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง ผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือข้าวพันผัก หมี่พันเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ ก๋วยเตึ๋ยวสุโขทัย ไก่ย่างเขาสวนกวา ง แล้วยังมีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ในเมนูข้าวเหนียวมะม่วง ไอติมกะทิข้าวเหนียวหอมหวานมัน คาดว่า ตลอดระยะเวลา 5 วัน ของการจัดงาน จะมีผู้สนใจเข้าชมไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจและการเดินทางสะดวกสบาย ” นายประสพ กล่าวชวนเที่ยวงาน




