เปิดตัวโขนมูลนิธิศิลปาชีพฯ ตอน'สัตยาพาลี' ปี68

ครั้งแรกของการแสดงโขน ชุด “องคตกุมารลงสรง“ ด้วยขบวนพยุหยาตรายิ่งใหญ่ตระการตา ต่อด้วยชุด “พาลีรบสุครีพ“ ถ่ายทอดกระบวนท่ารำตามจารีตประเพณี บนเวทีโรงละคร สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ประกาศความพร้อมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “สัตยาพาลี” ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  จัดแถลงข่าวเปิดตัวพร้อมตัวอย่างการแสดง

นางนฤมล ล้อมทอง  กรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ เป็นการธำรงนาฏศิลป์ทรงคุณค่าของชาติให้มีผู้สืบทอดต่อไป มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สัตยาพาลี” ขึ้น ถือเป็นตอนที่ 18  ซี่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดการแสดงโขนตอน“สัตยาพาลี” 

 “ ความพิเศษของโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รวบรวมองค์ความรู้จากครูผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ทั้งโขน ละคร ดนตรี คีตศิลป์ ร่วมกันทำงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ ทุกขั้นตอนทำด้วยความประณีต การแสดงออกมางดงาม นักแสดงเป็นเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกและได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญจากครูผู้เชี่ยวชาญ และได้มีโอกาสแสดงความสามารถ  ส่งเสริมให้เยาวชนเป็นผู้ร่วมรักษาและสืบสานศิลปะการแสดงโขนสมดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ” นางนฤมล กล่าว 

ด้านนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า  กระทรวงวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญสนองงานในพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพระองค์ทรงมีคุณูปการอย่างสูงต่อวงการศิลปวัฒนธรรม ทรงทำให้การแสดงโขนเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง  วธ.ส่งเสริมกรรแสดงโขนศิลปวัฒนธรรมขั้นสูงขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ และได้ขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกเป็นรายการแรกของประเทศไทย โขนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่ต้องสืบทอดต่อไป ปีนี้ วธ. สนับสนุนงบประมาณจัดการแสดงโขนและสนับสนุนสถานที่ฝึกซ้อม และสถานที่จัดการแสดงที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

นายประเมษฐ์  บุณยะชัย ศิลปินแห่งชาติ ผู้ประพันธ์บท  กล่าวว่า การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์แต่ละตอนแต่ละปี มีวิธีการเลือกอย่างพิถีพิถัน ปีนี้ตนร่วมกับอาจารย์เกษม ทองอร่าม  จัดทำบทและคำพากย์  การมาชมโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาอาชีพฯ อย่าเพียงแค่มาดูเนื้อเรื่องการแสดง เพราะขั้นตอนการจัดแสดงโขนเต็มไปด้วยความปราณีต ปีนี้บทร้องเฉลิมพระเกียรติเป็นเพลงโบราณ รวมถึงบทเพลงต่างๆ รับรองไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ใกล้สูญหาย   ซึ่งบรมครูรักษาไว้ นำมาใช้การแสดง สำหรับตอน “สัตยาพาลี” มีบทพาลีสอนน้อง อ้างอิงจากวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ รัชกาลที่ 1  ทั้งยังมีบทกลอนที่สำคัญ เช่น กลอนองคตกุมารลงสรง จะเห็นรูปแบบกระบวนจารีตและประเพณี เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมอย่างมีอรรถรส

ด้าน รศ.ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ ศิลปินแห่งชาติ ผู้กำกับการแสดง กล่าวว่า ได้รับเกียรติเป็นผู้กับการแสดงเป็นปีที่ 3 ซึ่งต้องรักษาเอกลักษณ์การแสดงโขนและนำศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวให้เข้ากับองค์ประกอบต่างๆ ช่วยเสริมให้จินตนาการเห็นภาพใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ชมติดตามการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบการแสดง  การแสดงโขนพระราชทานที่จะเกิดขึ้นมีทัพศิลปินนักแสดงกว่า 700 ชีวิต 

” การคัดเลือก ตอน“สัตยาพาลี” มาจากโจทย์เน้นเรื่องความกตัญญู ซื่อสัตย์ คุณธรรมและความจงรักภักดี โดยมี 2 องค์  องค์แรก “สัตยาพาลี” ว่าด้วยความเป็นพาลี ชายชาตินักรบ ถือสัตย์ยิ่งกว่าชีวิต ร้อยเรียงเรื่องราวสู่องค์สอง “อสุรีเจ้าลงกา“  ผู้ชมจะลืมภาพจำเดิมๆ ของกองทัพธรรมะปะทะกองทัพอธรรม จะได้เห็นภาพใหม่อย่างแน่นอน เป็นครั้งแรกการแสดงโขนที่ใส่ขบวนลงสรง รวมถึงกระบวนท่ารบของพญาพาลีและครูยักษ์ทศกัณฐ์ ส่วนฉากสุดท้ายยกรบปะทะทัพทศกัณฐ์ไม่ได้มาแค่ไพร่พลบริวาร แต่มีปีศาจร่วมรบ ใช้เพลงหน้าพาทย์ที่ไม่เคยเล่น  ต้องคิดกระบวนท่ารำ  ทฐกัณฐ์ขี่ช้างทำศึก ช้างสูงกว่า 3 เมตร เคลื่อนไหวได้สมจริง ส่วนงานศิลปกรรมประกอบฉากยิ่งใหญ่เนรมิตโดยอาจารย์สุดสาคร ชายเสม ศิลปินแห่งชาติ เพื่อให้เห็นผู้ชมเห็นภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้น“ รศ.ดร.ศุภชัย กล่าว 

ผศ.ดร.สุรัตน์ จงดา อนุกรรมการด้านการแสดง กล่าวว่า โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพเริ่มต้นจากการพัฒนาเครื่องแต่งกายการแสดงโขนตั้งแต่ปี 2546 โดยพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งต้องการให้พัฒนาเครื่องแต่งกายโขนให้มีความปราณีต โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพใช้สมาชิกศิลปาชีพตัดเย็บเครื่องแต่งกายให้มีความสวยงามโดดเด่นและมีความเป็นโบราณ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณฟื้นฟูผ้ายก พัสตราภรณ์ นำมาสู่การสร้างเครื่องแต่งกายโขนงดงาม

นอกจากนี้ แต่ละปีจะสร้างเครื่องแต่งกายใหม่ทดแทนชุดตัวละครดั้งเดิมที่ทรุดโทรม เพราะการแสดงปีละ 40 รอบ รวมถึงการออกแบบเครื่องแต่งกายให้ตัวละครใหม่ฯ เช่น พาลี พระอิศวร ฯลฯ มีการออกแบบลายผ้าใหม่และตัดใหม่ด้วยความปราณีตโดยสมาชิกศิลปชีพ ทำให้งานศิลปกรรมไทยเจริญรุ่งเรือง ทั้งช่างทำหัวโขน ช่างเสื้อผ้า ช่างทำเครื่องประดับ งานสลักดุน งานหล่อ ในช่วง 20 ปี มีจำนวนมากขึ้นตามพระราชประสงค์ในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ ช่างไม่สูญ กลับเพิ่มพูนด้วยพระมหากรุณาธิที่คุณ

การแสดงโขน ตอน “สัตยาพาลี” เป็นเรื่องราวของพญาพาลีกษัตริย์วานรเมืองขีดขินที่เสียสัจจะเพราะความหลงผิด แต่ภายหลังมีความสำนึกผิดในสัจจะ ผลของการเสียสัตย์ของพาลีนำพาเข้าสู่เรื่องราวมากมาย ที่จะให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้รับความบันเทิงครบทุกอรรถรส ได้ข้อคิดเรื่องของการรักษาสัจจะ รวมทั้งด้านคุณธรรม ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ รู้รักสามัคคี รู้จักหน้าที่ ที่ต้องพึงปฏิบัติ และจะเป็นการแสดงโขนที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ความพิเศษของฉากจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหนนั้น ติดตามรับชมได้ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สัตยาพาลี” 

ทั้งนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กำหนดจัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “สัตยาพาลี” ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน –  8 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2568 เป็นต้นมา โดยมีบัตรราคา  2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาทและ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 200 บาท) จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456 www.thaiticketmajor.com 

เพิ่มเพื่อน