'นวดแผนไทย'ขึ้นแท่น    'Longevity/wellness 'ระดับสากล

การนวดแผนโบราณ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดและมีการพูดถึงการนวดแผนไทย คือ ศิลาจารึกในสมัยสุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหง ขุดพบเจอที่โบราณสถานวัดป่ามะม่วง และในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็มีหลักฐานจากจดหมายเหตุของราชทูตลาลูแบร์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้บันทึกเรื่องหมอนวดไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่า “ในกรุงสยามนั้นถ้าใครป่วยไข้ลงก็เริ่มให้ยืดเส้นยืดสาย โดยให้ผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านนี้ขึ้นไปใช้เท้าเหยียบ และกล่าวกันว่าหญิงมีครรภ์มักใช้ให้เด็กเหยียบเพื่อให้คลอดบุตรง่ายไม่พักเจ็บปวดมาก (ตามความเชื่อสมัยนั้น)”

ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีหลักฐานจากกฎหมายตราสามดวงใน “นาพลเรือน” มีการกล่าวถึงการแบ่งส่วนราชการด้านการแพทย์ให้กรมหมอนวด และเมื่อเกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาให้พม่าถึงสองครั้ง ทำให้ตำรานวดบางส่วนถูกทำลายและเสียหายไป แต่ก็ยังมีหมอกลางบ้านและหมอพระที่อยู่ตามหัวเมืองเป็นจำนวนมาก จึงสามารถมาร่วมระดมความรู้กลับคืนมาได้

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงโปรดเกล้าให้ปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์ อีกทั้งมีการรวบรวมตำรานวดขึ้นอีกครั้ง และมีการปั้นรูปปั้นฤๅษีดัดตน รวมถึงจารึกตำราไว้ตามศาลารายรอบอุโบสถ ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ได้มีการจัดตั้งวิทยาลัยแพทย์ไทยแห่งแรก คือ วิทยาลัยแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ และโปรดให้มีการนำมาจารึกลงบนศิลาและประดับไว้ให้ประชาชนได้อ่าน ได้ศึกษาที่วัดโพธิ์จนถึงปัจจุบัน

มาถึงยุคปัจจุบัน  การมีอายุยืนและมีคุณภาพชีวิต (Longevity and Wellness)เป็นกระแสที่กำลังมาแรงไม่เพียงเพราะเรื่องนี้เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์มาทุกยุคสมัยแต่ปัจจุบัน โลกสมัยใหม่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเอื้อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ทั้งความรู้สมัยใหม่และภูมิปัญญาจากฝั่งตะวันออกและตะวันตกเกิดเป็นงานวิจัย การบริการและผลิตภัณฑ์มากมายที่ส่งเสริมการมีอายุยืนยาวและคุณภาพชีวิต    


“ประเทศไทยรุ่มรวยไปด้วยองค์ความรู้ด้านการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (Longevity) โดยการแพทย์แผนไทย สมุนไพร การนวดประคบ ฯลฯเป็นหนึ่งในการการรักษาและป้องกันที่ทำให้คนอายุยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิมได้”

ศาสตราจารย์ ดร.สถิรกร พงศ์พานิช อดีตคณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีบทบาท จึงมุ่งมั่นผลักดัน Thai Wellnessสู่ระดับสากลจนได้รับการประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติจากสมาคม UTWA(Universal Thai Wellness Association of Canada)ให้ได้รับรางวัล Legendary Icon Awardในฐานะบุคคลผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการสุขภาพและเวลเนสแบบไทยในระดับโลก ในงาน UTWA – World Thai WellnessChampionship 2025 ที่ประเทศแคนาดา กล่าวว่า Thai Wellness ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและป้องกันโรคการรักษาองค์รวมอย่างไทย   ช่วยทำให้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้นช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ส่งผลให้มีอายุยืนยาวการนวดไทยทำให้เราผ่อนคลายพอเราผ่อนคลายก็สามารถลดความเครียด ความเครียดทำให้คนอายุสั้นยิ่งนวดเยอะจะทำให้เราผ่อนคลาย มีอายุยืนยาวนาน Thai Wellnessไม่เพียงส่งเสริมสุขภาวะ แต่ยังเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจชาติด้วยSoft Power
“ดังที่เราเห็นชาวต่างชาติจำนวนมาก  สนใจรับบริการนวดไทยเข้ารับการฝึกอบรมการนวดไทยและในต่างประเทศ ส่วนเอกลักษณ์ Thai Wellness คือ แนวความคิดที่นำเอาแพทย์แผนไทยมาใช้บำบัดดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผสมผสานทั้งแพทย์แผนไทย นวดไทยรวมถึงสมุนไพรไทยใช้ได้ผลจริงตามหลักวิทยาศาสตร์และความใส่ใจในบริการทำให้ Thai Wellnessแตกต่างและโดดเด่นจากการรักษาอื่น ๆ”

ศ.ดร.สถิรกร กล่าวว่า แพทย์แผนไทยใช้หลักธรรมชาติในการวินิจฉัยโรคมีการรักษาและวิเคราะห์ในองค์รวมก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นและเจาะลึกลงไปในแต่ละส่วนของร่างกาย เช่น ถ้าต้องใช้การนวดบำบัดก็จะต้องวิเคราะห์อีกครั้งว่าจะนวดแบบดัดตนหรือจะกดจุดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของเลือด

“ถ้าต้องใช้ยาสมุนไพรรักษาเรามีตำรับพื้นฐานของเวชศาสตร์ไทยสามารถอ้างอิงได้ปัจจุบันมีการศึกษาทำให้เป็นวิทยาศาสตร์สามารถใช้อ้างอิงได้และใช้สมุนไพรในสัดส่วนที่ถูกต้องด้วย สมุนไพรที่สกัดออกมามีการศึกษาว่าใช้สารนี้จำนวนเท่าไร เพื่อรักษาอะไรมีการบันทึกเป็นข้อมูลและอ้างอิง เช่น สารสกัดจากฟ้าทลายโจรแก้อาการหวัดอาการอักเสบได้ตามหลักวิทยาศาสตร์”หนุนการรักษาและป้องกัน สู่ระดับสากลการนวดแผนไทยไม่ได้เป็นการรักษาอย่างเดียวแต่ยังเป็นการป้องกันโรคได้ด้วย

 ประโยชน์ของแพทย์แผนไทยที่เด่นชัด ศ.ดร.สถิรกร  กล่าวว่า การนวดสามารถทำให้ผ่อนคลายได้หมอนวดที่เก่ง ๆ สามารถทำให้โรคต่าง ๆที่เป็นอยู่หายไปหรือบรรเทาได้ การนวดแผนไทยเป็นที่ยอมรับในสากลเจ้าของสปาในต่างประเทศบอกว่าแขกส่วนใหญ่มาใช้บริการแล้วติดใจและมาซ้ำ เพราะการเจ็บปวดหายและได้รับการผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตาม  การที่ Thai Wellnessจะก้าวสู่ระดับสากลได้นั้น ศ.ดร.สถิรกร กล่าวว่า  จำเป็นต้องได้รับรองจากมาตรฐานสากลวิธีการนวดต้องมีงานวิจัยรองรับ ซึ่งปัจจุบันก็สามารถอ้างอิงได้“เราต้องสร้างมาตรฐานการบริการอบรมทักษะของบุคลากรให้สอดคล้องกับแนวทางสากล คือความสะอาด สถานที่ การรู้จักสรีระของร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า เช่นรู้ว่าข้อต่อเชื่อมโยงกับเส้นประสาทอะไรบ้างถ้ารู้แบบนั้นและเชื่อมโยงกับทักษะที่เรามีจะเป็นทั้งการรักษารวมถึงองกันโรค และเป็นสาเหตุที่ต่างประเทศยอมรับการนวดของเรา เช่นแผนประกันสุขภาพแบบเสริม (Extended Health Insurance)ในประเทศแคนาดาให้ความคุ้มครองการนวดต่าง ๆรวมถึงการนวดแผนไทยด้วยเมื่อการนวดนั้นดำเนินการโดยนักนวดบำบัดที่ได้รับใบอนุญาต(Registered Massage Therapist – RMT)

“ที่สุดแล้ว การนวดของไทยสามารถผสมผสานกับ Soft Powerอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆเป็นต้นว่าการจัดบรรยากาศสถานที่นวดให้ผู้รับบริการได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยหลายรูปแบบ เช่นกลิ่นหอมจากดอกไม้ไทย ฟังเพลงไทยเหล่านี้เป็นการต่อยอดและส่งเสริม Soft Power ได้” ศ.ดร.สถิรกรกล่าว

พร้อมกับตบท้ายว่า “ปัจจุบัน AI แย่งอาชีพจากมนุษย์ได้หลายอาชีพ แต่ AIไม่สามารถนวดแผนไทยได้ แรงกด น้ำหนักและเทคนิควิธีการนวดยังต้องอาศัยความชำนาญและทักษะที่ได้เล่าเรียนมาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทยที่ยังคงอยู่ในทุกยุคสมัย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน เปิดฝึกเพิ่มทักษะนวดไทย หนุนท่องเที่ยวเมืองเพชร

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมยกระดับฝีมือ หลักสูตร การนวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย ภายใต้โครงการยกระดับเพื่อเพิ่มศักยภาพฝีมือและสมรรถนะแรงงาน

13 มี.ค.วันช้างไทย รัฐบาลยกมาตรฐานดูแลช้างเลี้ยง ให้เป็นที่ยอมรับของสากล

รัฐบาลย้ำนโยบายให้ความสำคัญทั้งการอนุรักษ์ช้างป่าลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างกับชุมชน  ยกมาตรฐานดูแลช้างเลี้ยงให้การใช้งานในภาคท่องเที่ยว เป็นที่ยอมรับในระดับสากล