ในหลวงเสด็จฯ ยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือ ‘พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง’

ในหลวงเสด็จฯ ทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือ "พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง" วัดมหาวนาราม พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี  พสกนิกรปลื้มปีติเฝ้าฯ ชื่นชมพระบารมี

วันที่ 30 เม.ย.2565 เวลา 18.03 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระประธานพระวิหาร “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง” ณ วัดมหาวนาราม อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี, นายศุภมิตร บุญประสงค์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3, พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, นาวาอากาศเอกพฐา แก่นทับทิม ผู้บังคับกองบิน 21 พร้อมข้าราชการและประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ

ครั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลัย  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง (จำลอง) พระประธานอุโบสถ ทรงกราบ จากนั้นเสด็จฯ ออกจากพระอุโบสถไปยังพระวิหาร “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานพระวิหาร  “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง” ทรงกราบ  ทรงศีล เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีลจบ นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ผู้อุปถัมภ์โครงการก่อสร้างพระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือมหาอินทรปฏิมานุสรณ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นางฐาปณี สิริวัฒนภักดี เตชะเจริญวิกุล ผู้อุปถัมภ์โครงการก่อสร้างพระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือมหาอินทรปฏิมานุสรณ์แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ต่อมา นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างฉัตร “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง”

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เสด็จฯ ไปยังที่ประดิษฐานฉัตร ทรงพระสุหร่าย และทรงเจิมที่กำพูฉัตร ทรงถือสายสูตรยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระประธานพระวิหาร “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง”

เจ้าหน้าที่กว้านฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระประธานพระวิหาร พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธา เข้ารับพระราชทานของที่ระลึก ตามลำดับ  แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานโครงการก่อสร้างพระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ถวายพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง (จำลอง) เนื้อทองเหลืองขัดมันปู ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว จำนวน 1 องค์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระครูสารกิจโกศล (สุดใจ นิสโสโก) เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม ถวายพระกริ่งพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เนื้อทองคำ และถวายพระกริ่งพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เนื้อทองคำ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

เสด็จฯ ออกจากพระวิหาร ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ต่างพร้อมใจเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” และโบกธงชาติ ธงพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และธงพระนามาภิไธย ส.ท. ด้วยความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวล ราษฎรที่เฝ้าฯ ต่างปลื้มปีติที่ได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด เมื่อสมควรแก่เวลา ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ออกจากวัดมหาวนาราม ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

นับตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดอุบลราชธานี เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงถวายผ้าพระกฐินต้น ณ วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563

ทั้งนี้ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2350 มีศาลาครอบองค์พระไว้  เพื่อป้องกันแดดฝน ได้ปฏิสังขรณ์ปรับปรุงตัวศาลาเรื่อยมา ในปี 2550 พระเทพกิตติมุนี เจ้าอาวาสขณะนั้น เห็นว่าศาลาที่สร้างและปรับปรุงที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2485 นั้นมีสภาพทรุดโทรม อาจเกิดความเสียหายต่อองค์พระ และเป็นอันตรายต่อพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบสักการบูชา จึงดำริให้สร้างพระวิหาร “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง” ที่มีความมั่นคงแข็งแรง สวยงามตามสถาปัตยกรรมทางอีสาน โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานโครงการก่อสร้างพระวิหาร และมีพระครูสารกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดมหาวนารามรูปปัจจุบัน เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างพระวิหาร เพื่อประดิษฐานพระประธานคือ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2349-2350 พระวิหารแล้วเสร็จในปี 2563 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 250,000,000 บาท โดยเป็นเงินที่พุทธศาสนิกชนบริจาคเพื่อจัดสร้าง

พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปเป็นเวลามาช้านาน ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลังนี้

ในการนี้ โดยดำริของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เห็นควรดำเนินจัดสร้างฉัตรขาวขลิบทอง 5 ชั้น ถวายองค์พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เพื่อเป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนาสืบไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนพร' หวนคืน ปชป.ลงชิง สส.อุบลราชธานี เขต 1

'ธนพร' คัมแบ็ค ปชป.ลงชิง สส. อุบลฯ เขต 1 หลังก่อนหน้านี้ไขก๊อกรองหัวหน้าพรรค ลั่นแก้วิกฤตประเทศที่มีต้นตอจากปัญหาการเมือง ยึดแคมเปญประเทศชาติต้องมาก่อน

ในหลวง พระราชทานยศ ‘พลเอก’ ให้ ‘แม่ทัพกุ้ง’ เป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ

 มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ร.อ.วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ผู้บัญชาการสำนักราชองครักษ์ประจำพระองค์ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงกลา

'ในหลวง'พระราชทานเหรียญรางวัลกีฬาเรือใบ 'พระราชินี'ทรงรับเหรียญทองประวัติศาสตร์ ซีเกมส์ครั้งที่33

วันที่ 18 ธ.ค. เวลา  12.45     น.  สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และทีมเรือใบ (SSL 47) ทีมชาติไทย เริ่มการแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกับร่วมกับนักกีฬาจาก 4 ชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่  เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมา 

ในหลวง เสด็จฯ ส่ง 'พระราชินี' ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาเรือใบ ประเภทเรือคีลโบ๊ท “เอส เอส แอล 47 (SSL 47) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. ๒๕๖๘