ชัชชาติรอบิ๊กตู่เรียกหา! 6มิ.ย.ถกศักดิ์สยาม-ป๊อก

นายกฯ ยังไม่ปะหน้า "ชัชชาติ" หลังร่วมพิธีทำบุญตักบาตรท้องสนามหลวง “ผู้ว่าฯ กทม.” เจอ “บิ๊กป๊อก-ศักดิ์สยาม” ปรี่เข้าสวัสดีบอกพร้อมช่วยทำงาน ลั่นเป็นผู้น้อยต้องให้ “บิ๊กตู่” เรียกก่อน สุดฟิต! ลงพื้นที่ตรวจดูอุบัติเหตุ 5 ศพโค้งมรณะตรงข้ามศาลอาญา สั่งสำนักการจราจรและขนส่งเก็บรวบรวมจุดเสี่ยงทั้งกรุง ทำแผนแจ้งเตือน ปชช. ตามนโยบายหาเสียง “พนิต" ชงออกพันธบัตร กทม.  

ที่บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 3 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมภริยา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 โดยมีคณะรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกกระทรวง ประธานองค์กรอิสระ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่งานพิธีจะเริ่มเวลา 06.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เดินทางมาถึงบริเวณพิธี ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดาข้าราชการระดับสูง ได้แก่ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาทักทายและพูดคุย แสดงความยินดี และถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก

จากนั้นเวลา 07.00 น. เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางมาถึง นายชัชชาติได้เดินเข้าไปหาสวัสดีทักทายเนื่องจากเป็นการพบกันครั้งแรก โดยนายชัชชาติกล่าวกับ พล.อ.อนุพงษ์ว่า “ช่วยกันครับท่าน เดี๋ยวจะไปหารือ มีอะไรให้รับใช้ ได้ครับ” ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้กล่าวเพียงว่า “โอเค” แล้วทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ นายชัชชาติ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ถ่ายภาพร่วมกัน

นอกจากนี้ นายชัชชาติยังได้สวัสดีทักทายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งในฐานะกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งนายชัชชาติได้กล่าวกับนายศักดิ์สยามเพียงสั้นๆ ว่า “สวัสดีครับ เดี๋ยวไว้ไปหารือกันครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 145 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเข้าไปทักทายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รวมถึงคณะรัฐมนตรี และบรรดาข้าราชการที่เข้าร่วมในพิธี ซึ่งไม่ได้มีการพบกับนายชัชชาติแต่อย่างใด

นายชัชชาติให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี แม้ว่าเมื่อเช้าจะได้ร่วมในพิธีงานทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ท้องสนามหลวง

นายชัชชาติยังชี้แจงถึงการไปหานายกฯ ว่า ไม่ใช่ ตัวเองเป็นผู้น้อย ถ้านายกฯ ไม่สั่งการหรือนัดให้ไปพบ ในฐานะผู้น้อยจะไปหาเองได้อย่างไร ถ้าจะเข้าไปพบนายกฯ ต้องสั่งให้เข้าไปหา และตามลำดับการบังคับ ต้องเข้าไปพบกับ รมว.มหาดไทย เพื่อรายงานตัวหรือรายงานข้อมูลต่างๆ ก่อน ถ้าจะให้ไปขอพบนายกฯ คงไม่ใช่เรื่อง ส่วนประเด็นที่นายศักดิ์สยามได้ทำหนังสือเป็นทางการเพื่อขอหารือนั้น ได้รับหนังสือแล้ว นัดพบกันวันที่ 6 มิ.ย.2565 เกี่ยวกับหลายประเด็น ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว งบประมาณที่รัฐบาลเอาคืนไปในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่หักออกไป 90% ก็คงต้องขอคืนมา รวมถึงจะพบกับ พล.อ.อนุพงษ์ในวันนั้นด้วย แต่เป็นคนละวงกับนายศักดิ์สยาม เพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ และจะหารือเรื่องที่ค้างอยู่ เช่น สัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส เรื่องภาระหนี้สิน รวมถึงเรื่องเบี้ยคนชราและเบี้ยผู้สูงอายุ และเรื่องเปิดสมัยประชุมของสมาชิกสภากรุงเทพฯ

ต่อมานายชัชชาติเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เจ็บ 2 คน บริเวณถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา มุ่งหน้าแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดย พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ให้ข้อมูลต่อผู้ว่าฯ กทม.ระบุ บริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเมื่อมีฝนตก โดยในส่วนของการปรับปรุงถนนทางด้านกายภาพ สำนักการจราจรและขนส่งได้ดำเนินการทาสีผิวถนนจราจร สิ่งที่เพิ่มคือการ์ดเรล (Guard Rail) เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากยานพาหนะ สามารถลดแรงปะทะ และสามารถป้องกันความเสียหายหรือลดอันตรายให้แก่ผู้ขับขี่และคนเดินเท้าได้

นายชัชชาติกล่าวว่า เหตุการณ์นี้มาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลักษณะทางกายภาพ ฝนตกไม่หนักจึงอาจมีฝุ่นหรือคราบจับอยู่ทำให้พื้นถนนลื่น รวมทั้งรถที่เกิดอุบัติเหตุใช้ความเร็วเกินกำหนด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่บริเวณนี้จำกัดความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การป้องกันแก้ไขอาจจะต้องจำกัดความเร็ว มีป้ายบอกให้ชัดเจน เพิ่มตัวจับความเร็วอัตโนมัติเพื่อเตือนคนขับ อย่างไรก็ตาม ถ้าขับเร็วเกินกำหนดก็ยากที่จะออกแบบให้ได้มาตรฐาน ดังนั้นต้องช่วยกันสองทาง โดยคนขับก็ต้องชะลอความเร็วด้วย

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่งสำรวจและรวบรวมจุดเสี่ยงทั้งหมดในกรุงเทพฯ เพื่อทำแผนที่จุดเสี่ยงแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คาดว่าจะเริ่มชี้เป้าจุดเสี่ยงให้ประชาชนทราบได้ภายในสัปดาห์หน้า

"เวลาจะแก้ปัญหา ต้องเริ่มจากจุดเสี่ยงที่มีความเสี่ยงสูงก่อน ทั้งในแง่อาชญากรรม อุบัติเหตุ น้ำท่วม จุดรถติด โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้กำหนดจุดลงในแผนที่ให้เห็นว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนบ้าง จุดไหนมีอุบัติเหตุมาก-น้อยแค่ไหน จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยก็จะเป็นสีแดงขึ้น และสามารถเข้าไปเร่งรัดปรับปรุงแก้ไขในจุดนั้นๆ ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อ ที่รวบรวมข้อมูลสถิติอาชญากรรมและข้อมูลการรายงานจุดเสี่ยงที่รวบรวมมาจากฐานข้อมูลในแผนที่ความเสี่ยงกรุงเทพฯ (Bangkok Risk Map) เพื่อให้มีการวิเคราะห์และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาสภาพแวดล้อม การบริหารจัดการต่างๆ ของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

วันเดียวกัน นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง "กรุงเทพ กับอนาคต ในวันที่งบหมด" ระบุว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนกรุงเทพต้องกลับมาคิดถึงความจำเป็นในการลงทุนพัฒนาเมืองด้วยตัวเอง เพราะกระแสข่าวการเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.พบว่ามีงบประมาณในการขับเคลื่อนนโยบายในปี 2565 อยู่เพียงร้อยล้านบาท แม้อาจมีเงินสะสมอยู่อีกกว่าหมื่นล้านบาท แต่ต้องไปขออนุมัติจากสภา กทม.สำหรับใช้จ่ายไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณนี้

 “เมืองหลวงชั้นนำในหลายประเทศส่วนใหญ่ เช่น ลอนดอน โตเกียว โซล ได้มีการเปิดให้ประชาชนสามารถร่วมลงทุน โดยผ่านเครื่องมือทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ ได้ ทำไมคนกรุงเทพยังไม่ได้มีโอกาสในการลงทุนสร้างอนาคตของตัวเอง การพัฒนากรุงเทพให้ครบทุกมิติ จะรองบประมาณจัดสรรจากรัฐบาลหรืองบประมาณจากการเก็บภาษีอย่างเดียวคงไม่พอ พันธบัตรเมืองเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐซึ่งกรณีนี้ คือเมือง ให้ประชาชนได้ลงทุนหรือใช้เงินในอนาคตมาใช้ หากมีการออกพันธบัตรกรุงเทพ (Bangkok Bond) จะทำให้ผู้ที่สนใจหันมาร่วมลงทุนในการพัฒนาเมืองของเรา และที่สำคัญยังต้องการให้ประชาชนมาร่วมตรวจสอบโครงการต่างๆ ในฐานะผู้ลงทุน และสิ่งนี้จะทำให้กรุงเทพก้าวสู่การพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองแห่งความหวัง เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน" นายพนิตกล่าว.