จ่อตั้งชลน่านผู้นำฝ่ายค้าน พปชร.คาดโทษสส.โดดร่ม

"ชวน” ระบุ พ.ย.นี้ประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน จ่อพิจารณา กม.การศึกษา-รธน.ภาคประชาชน พร้อมเร่งดำเนินการแต่งตั้ง "ชลน่าน" เป็นผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ "วิรัช” เผย “บิ๊กป้อม” คาดโทษ ส.ส.โดดประชุมสภาโดยไม่มีเหตุผล "ประวิตร" เมินโพลนิยม "พิธา" นั่งนายกฯ "พท." จัดทัพทีมโฆษกโฉมใหม่ โวทีมงานเชี่ยวชาญทุกด้าน "ทิพานัน" ย้อนแสบ พท. 3 ปีดีแต่จ้องพา "ทักษิณ" กลับบ้าน

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และวิปฝ่ายค้าน โดยมีนายศุภชัย  โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่สอง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือถึงรายละเอียดการนัดประชุมสภา

 นายชวนให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มการประชุมว่า การนัดประชุมวันนี้เพื่อหารือเบื้องต้นในการเปิดสมัยประชุมสภาครั้งใหม่ว่า เรื่องที่อยู่ในวาระเราจะดำเนินการอย่างไร และจะร่วมประชุมกันอย่างไร โดยหลักการที่เสนอคือจะขอเพิ่มวันประชุมสภา ในวันศุกร์ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป นอกจากนี้วันที่ 8-9 พ.ย.จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติที่ค้างการพิจารณาอยู่ ซึ่งต้องพิจารณาให้จบ และหลังจากนั้นอาจจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับประชาชน เพราะได้อนุมัติให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมแล้ว ส่วนจะเป็นวันใดคงต้องขอความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย

 เมื่อถามถึงปัญหาเรื่ององค์ประชุมที่อาจทำให้การประชุมสภาล่มอีก นายชวนกล่าวว่า องค์ประชุมเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องมาร่วมประชุมอยู่แล้ว เพราะในระบบรัฐสภาที่รัฐบาลมีเสียงข้างมาก หากเสียงน้อยรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นเสียงข้างมากต้องมาประชุมอยู่แล้ว แต่หน้าที่จริงๆ คือทุกฝ่ายที่เราเห็นในช่วงที่ผ่านมา บางครั้งองค์ประชุมครบแต่ ส.ส.ไม่อยากประชุมต่อ ก็ไม่กดบัตรแสดงตน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบตามที่กำหนด ตนไม่ต้องย้ำเตือนอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ก็หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะได้รับความร่วมมือ

 ถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคใหม่แล้ว นายชวนกล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว และขอให้เร่งส่งเรื่องมาที่รัฐสภาเพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ต่อไป

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า สัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ย. จะมีการประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อพิจารณากฎหมายที่ยังค้างอยู่และเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว เนื่องจากต้องมีการโหวตลงคะแนนทีละมาตรา สำหรับเรื่ององค์ประชุมของ ส.ส. ในส่วนของพรรค พปชร.นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค มีมาตรการคุมเข้มในส่วนที่ ส.ส.ขาดการประชุม ลาการประชุมโดยไม่มีเหตุผลสมควรก็ต้องมีบทลงโทษ

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นประธานวิปรัฐบาลและรองหัวหน้าพรรค พปชร.จะคุม ส.ส.ในพรรคอย่างไร เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการลงมติป่วนนายกฯ ได้ นายวิรัชกล่าวว่า เป็นความคิดของแหล่งข่าว  แต่การปฏิบัติจริงเราทำกันอย่างเต็มที่ คงไม่ต้องบอก เพราะเรามีการประสานการทำงานร่วมกัน

ด้าน พล.อ.ประวิตร​กล่าวถึงการเปิดประชุมสภา ในขณะที่ ส.ส.มีความกังวลเรื่องเกมการเมืองในสภาว่า ไม่มีอะไรต้องห่วงและกังวล โดยเฉพาะ ส.ส.​พปชร.ได้กำชับให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อถามถึงผลสำรวจที่ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนชื่นชอบพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล และเห็นว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล ควรเป็นนายกฯ คนต่อไป พล.อ.ประวิตร​กล่าวว่า  “โพลก็เป็นเรื่องของโพล มาถามอะไรผม"

ที่พรรคเพื่อไทย ทีมโฆษกพรรคนำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด  รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค,  นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรค, นางสาวณหทัย เล็กบำรุง รองโฆษกพรรค, นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค, นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าว

โดย น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การตอบรับงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่  28 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นอย่างดี งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการดิสรัปต์พรรคในเชิงโครงสร้าง ผ่านคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่ผนึกกำลังคนหลายรุ่น ทั้งผู้มากประสบการณ์และคนรุ่นใหม่มาทำงานร่วมกัน ซึ่งมาพร้อมกับแนวคิด นโยบายในด้านต่างๆ ที่ตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชน ทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา ประชาธิปไตยและความเหลื่อมล้ำ พรรคเพื่อไทยยืนยันในเจตนารมณ์การทำงานที่ชัดเจน สอดรับการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคที่ใกล้ชิดและรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน 

ขณะที่คณะทำงานกองโฆษกพรรค จะเชื่อมความสัมพันธ์และสื่อสารสิ่งที่พรรคจะนำเสนอออกไปสู่ประชาชน ผ่านทุกช่องทางของพรรคเพื่อไทย ภายใต้แนวคิดหลัก “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ปากท้องของประชาชนต้องได้รับการแก้ไข 2.สุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งเป็นต้นเหตุเบื้องต้นของการดำเนินชีวิตจะต้องเร่งแก้ไขดำเนินการ 3.ประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพต้องคืนกลับมาสู่มือประชาชน

นายสาวธีรรัตน์ยังได้แนะนำทีมโฆษกชุดใหม่ ได้แก่ นายชนินทร์  รุ่งธนเกียรติ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ คมนาคมและการพัฒนาเมือง  นางสาวณหทัย เล็กบำรุง เชี่ยวชาญด้านซอฟต์พาวเวอร์และธุรกิจสมัยใหม่ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเมืองและกฎหมาย นางสาวชญาภา สินธุไพร เชี่ยวชาญด้านการสภา ต่างประเทศ และโซเชียลมีเดีย

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยประกาศแนวคิดทั้ง 3 ด้านออกมานั้น เป็นเพียงวาทกรรมสวยหรูตีกินแบบการเมืองเก่าๆ สะท้อนความคิดที่ตื้นเขิน สวนทางกับความเป็นจริงที่พรรคเพื่อไทยปฏิบัติอย่างไม่ละอายแก่ใจ ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยไม่เคยผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์เพื่อปากท้องของประชาชนเลย มีแต่ผลักดันเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อขจัดอุปสรรค หรือให้มีข้อได้เปรียบในการเลือกตั้งของพรรคตนเอง

"พรรคเพื่อไทยควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนแบบที่จับต้องได้จริง ไม่ใช่แค่ประดิษฐ์วาทกรรมให้สวยหรู แต่กลับมีนัยซ่อนเร้น ทำเพื่อคนบางกลุ่มบางพวก เน้นการทำงานในปัจจุบันที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้มีประสิทธิภาพ แต่เท่าที่เห็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยอันดับแรกคือ พาทักษิณกลับบ้าน" น.ส.ทิพานันกล่าว

ที่รัฐสภา นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่เลื่อนลำดับขึ้นมาแทน น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ได้ลาออกไป และนางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย ที่เลื่อนลำดับขึ้นมาแทน พล.ต.ทรงกลด  ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทยที่เสียชีวิต ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดย ส.ส.ทั้ง 2  คนจะเข้าร่วมประชุมสภาครั้งแรกในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.  โดยจะกล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่.