กัญชาเดือด!ภท.-พท.ฟัดเละ

เมากัญชาฟาดกันเดือด!    เพื่อไทย-ภูมิใจไทย แม้วนำขบวนโหมไฟเทียบยาฝิ่น สุดท้ายติดกันงอม ขยี้หนักอย่าคิดแค่หาเสียง ครวญหวังดีห่วงเยาวชน เปิดเสรีต้องดูให้ครบวงจร ขณะที่ "ศุภชัย" เปิดศึก "ภูมิธรรม" ขุดข้าวเน่า-หวยบนดินปาหน้ากลับ ฟาดมีประกาศควบคุมชัดเจน พวกอคติบังตามองไม่เห็น  ด้านกรมการแพทย์เผยยอดผู้ป่วยพุ่ง 9 คนหามเข้า รพ. "คุกกี้-กาแฟ" ผสมกัญชาออกฤทธิ์ กรมวิทย์ขยับ จ่อผุด "เทส กัญ" ชุดตรวจ THC ในอาหารคล้ายเอทีเค

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมสนทนาในเพจ แคร์ คิด เคลื่อนไทย ที่ผ่านมา ในชื่อตอน “เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว?!” โดยระบุเกี่ยวกับประเด็นกัญชาเสรีว่า  ตอนฝิ่นออกมาใหม่ๆ ก็บอกมีสรรพคุณทางยาเยอะ ถามว่ามีมั้ย มีจริง แต่สุดท้ายก็มีการเสพติดกันเยอะ กัญชาก็เหมือนกัน มีสารเสพติดอยู่ในตัว และมีสรรพคุณทางยาด้วย แต่ต้องสกัดให้ถูกต้องตามหลักการที่ถูกต้อง

“ฉะนั้นการเตือนกับเยาวชนต้องมาพร้อมกันกับการให้เสรี เรื่องนี้ต้องดูให้ครบวงจร ไม่ใช่อยากหาเสียงว่าปลูกกัญชาได้แล้วบอกว่าชนะแล้ว เห็นวันนี้มีการใช้ใส่แม้กระทั่งในไข่เจียว มันเพี้ยนกันใหญ่ เรื่องนี้อย่าทำเป็นเล่นไป และอย่าลืมว่ามันมีสารเสพติดอยู่ในตัว ทุกอย่างมีโทษและประโยชน์ จึงต้องสกัดให้ถูกหลักการ” นายทักษิณกล่าว

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นรูปกองข้าวเน่าและข้อความระบุว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เรื่องวัคซีน รัฐบาลสั่งมาสำรองไว้ ไหนจะมีการช่วยเหลือมาจากต่างประเทศ ของแบบนี้ ชีวิตประชาชน เหลือดีกว่าขาด แต่พวกดีแต่ด่า สักแต่ใช้ปากทำงาน ก็ชวนตีไปเรื่อย หาว่าบริหารจัดการไม่ดี

“อยากจะถามกลับ แล้วข้าวเน่าคาโกดัง มีรัฐมนตรีติดคุก แบบนั้นบริหารจัดการดีตรงไหน เรื่องกัญชา ใครว่าผู้ออกนโยบายไม่ใส่ใจ กฎหมายปลดล็อก ไม่ทันข้ามอาทิตย์ มีประกาศมาควบคุมการใช้แล้ว 3-4 ฉบับ บทลงโทษชัดเจน แต่พวกอคติบังตา จนมองไม่เห็น ปากก็บอกว่าเป็นห่วงเด็กและเยาวชน แต่แทนที่จะมาช่วยกันให้ความรู้ กลับสักแต่ด่า เล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ แล้วใครหว่าเอาหวยขึ้นมาบนดิน ไหนบอกว่าห่วงเด็ก แต่ที่เคยทำไปนั้น มันตรงกันข้ามชัดๆ #ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” นายศุภชัยระบุ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์@phumtham มีเนื้อหาดังนี้ คำขวัญวันนี้..."วัคซีน เต็มแขน" วัคซีนกำลังจะหมดอายุ เต็มทุกสถานีอนามัย เพราะสั่งเข้าแบบไม่มีแผนใช้งานไม่ทันจนหมดอายุการใช้ไปก่อน ส่วน "กัญชา เต็มปอด" เพราะรีบโฆษณาเกินจริงก่อนรีบหาวิธีป้องกัน!! นอกจากนี้ยังได้แชร์ภาพข่าวหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวว่า "เด็กใช้กัญชา หมอเตือน เสี่ยงจิตเภท" พร้อมโพสต์ข้อความว่า "ต้องให้ความรู้เรื่อง..กัญชา" อย่างทั่วด้านและทั่วถึง มีแต่สังคมที่มืดบอด และการโหมโฆษณา เกินจริง คือการทำลายประชาชนของประเทศ!!! กัญชาต้องไม่เสรี แต่ให้นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ไม่ผิดกฎหมาย

ต่อมา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้ตอบโต้นายภูมิธรรมเช่นเดียวกันว่า ทุกภารกิจที่รัฐมนตรีของพรรคดำเนินการ เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนอย่างตั้งใจ ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริง โดยเฉพาะนโยบายกัญชา ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงใช้กัญชา ขอบคุณในข้อห่วงใยของนายภูมิธรรม แต่อยากให้เปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่บิดเบือน หรือหวังผลทางการเมือง เหมือนที่มีนักการเมืองบางกลุ่มพยายามสร้างกระแสต่างๆ ให้เกิดความหวาดหวั่น หวังดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทยมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชน

“นายภูมิธรรมเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และเป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค คงไม่ใช้วิธีการพูดเช่นนี้ ไปทำลายมิตรภาพระหว่างพรรคการเมือง หรือพูดโจมตีนโยบายพรรคอื่น เชื่อว่าท่านเคยเจ็บปวดกับการกระทำแบบนี้มาแล้ว ในฐานะที่มีความสนิทกับนายภูมิธรรม อยากจะบอกว่า อย่าผลักมิตรไปเป็นศัตรู การจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ดูที่ความนิยมของประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่ดูที่จำนวนส.ส.ซึ่งมีสิทธิโหวตทางการเมือง แสดงว่าส.ส.แต่ละพรรคมีความสำคัญในการโหวต เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรคเพื่อไทยได้โหวตให้ความเห็นชอบเช่นกัน ผมจึงอยากแนะนำว่าเรื่องนี้ควรปล่อยให้เด็กๆ ว่ากันในสภาจะดีกว่า” นายณัฏฐ์ชนนระบุ

วันเดียวกัน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการติดตามผลกระทบหลังปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พบว่าจากการติดตามใน 3 รพ. (รพ.ราชวิถี, รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตนราชธานี) สังกัดกรมการแพทย์ พบผู้ได้รับผลกระทบรวม 9 คน โดยพบผู้ป่วยมากสุดในวันที่ 16 มิ.ย.ถึง 4 คน จาก รพ.ราชวิถีและ รพ.นพรัตนฯ แห่งละ 2 คน โดยมีทั้งคนที่สูบกัญชาเพื่อสันทนาการ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ทั้งการกินคุกกี้ผสมกัญชา, ส้มตำหน่อไม้, กาแฟในกัญชา  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ได้เคยเปิดเผยว่ามีผู้ที่เข้ามารับการรักษาใน รพ.จากบริโภคอาหารผสมกัญชา รวม 3 คน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงการพัฒนาชุดตรวจกัญชา Test Kann (เทส กัญ) เป็นการพัฒนาชุดตรวจสารสกัดกัญชาเชิงอุตสาหกรรม โดยย้ำว่าขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการพัฒนาต่อยอดจากชุดทดสอบของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้ได้ชุดทดสอบตรวจหาสารสกัดของน้ำมันกัญชา แบ่งออกเป็นชุดตรวจที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือกลุ่มวิสาหกิจ ที่มีการรวมกลุ่ม หรือในสถานพยาบาลที่ผลิตน้ำมันกัญชา เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาที่ผลิตมีค่า THC เกิน 0.2% โดยชุดนี้มีจำนวน 20 Test ราคา 4,000 บาท และต่อไปสามารถซื้อแบบรีฟิลได้ในราคา 1,000 บาทต่อ 20 Test ซึ่งการใช้ต้องผ่านการอบรม

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ส่วนอีกแบบเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก (เทส กัญ) มีลักษณะคล้าย ATK แต่แตกต่างในส่วนของผลตรวจแสดงค่า กลับกันกับการตรวจโควิด เพียงหยดน้ำมันกัญชาในช้อนตวงในปริมาณพอดี ใส่ขวด จากนั้นเขย่าให้สาร THC ลอยขึ้นมา จากนั้นดูสารบนชุดทดสอบ เพื่อดูว่าเกิน 0.2% หรือไม่ หากเกินผลตรวจจะแสดงค่า 1 ขีด และหากได้มาตรฐานต่ำกว่า 0.2% จะปรากฏ 2 ขีดบนชุดทดสอบ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาชุดตรวจเพื่อหาสาร THC ในอาหารทั่วโลกยังไม่มีที่ไหนสามารถทำได้ เนื่องจากมีความยุ่งยาก และในอาหารมีทั้งชั้นไขมัน ความเค็ม ความหวาน เป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอนามัย เพราะหากมีการตรวจต้องทำในห้องแล็บเท่านั้น ค่าตรวจ 5,000 บาทต่อสาร ไม่ว่าจะ THC หรือรสชาติเค็มหวาน

"ในการตรวจร่างกายว่าได้รับผลกระทบจากกัญชาหรือไม่นั้น ขอย้ำว่าการตรวจในปัสสาวะก็พบว่ามีสารตกค้างเป็นปริมาณนานหลายสัปดาห์ ต้องใช้การตรวจเลือดเท่านั้น แต่เนื่องจากการวัดค่าความอันตรายจากสารมึนเมาของกัญชา ยังไม่มีข้อกำหนดในทั่วโลก เนื่องจากความไวของสารในร่างกายของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเตรียมทำวิจัยกับมหาวิทยาลัยหรือ รพ.ขนาดใหญ่ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ทั้ง 15 แห่ง เพื่อหาข้อสรุป โดยเริ่ม 1 ก.ค.นี้ การทดสอบต้องใช้เลือด 2 ซีซี และต้องใช้เวลา 1-3 วันในการอ่านผลตรวจ" นพ.ศุภกิจระบุ.