บิ๊กตู่ยังอยู่ต่ออีก2ปี ‘ป้อม’หลุดเฉลยนายกฯ8ปี/17ส.ค.ยื่นตีความแน่

"บิ๊กตู่" บอก "ไม่มีคำตอบ"  หลังถูกถาม "บิ๊กป้อม" แย้มนายกฯ อยู่ต่ออีก 2 ปี "วิษณุ" แนะจะทำอะไรก็รีบทำศาลจะได้รีบวินิจฉัย ยันนายกฯ ทำได้ทุกอย่างย้าย ขรก.-ปรับ ครม.ได้ตราบใดที่ศาลยังไม่สั่งให้หยุด แต่เทียบกับ "เปรม"  ไม่ได้เพราะ รธน.คนละอย่าง "จุติ" บ่น ครม.ไม่ช่วยนายกฯ แจงปม 8 ปี ปล่อยให้อีกฝั่งกว่า 10 คนขยี้ซ้ำไปซ้ำมา แกนนำพปชร.มั่นใจได้ไปต่อ "ฝ่ายค้าน" เร่งรวบรวมรายชื่อยื่นประธานสภาฯ ส่งต่อศาลรธน.ตีความ จี้สำนึก "ประยุทธ์" ไม่ต้องให้เรื่องถึงศาล หวั่นลามเกิดวิกฤตการเมือง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 9 สิงหาคม  ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามเพียงสั้นๆกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า นายกฯ จะอยู่ต่ออีก 2 ปี โดย พล.อ.ประยุทธ์ส่ายหัวและกล่าวว่า "ไม่มีคำตอบ" ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวของนายกฯ ภายหลังการประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี,  นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินออกมาจากตึกสันติไมตรี มาพร้อมนายกฯ และยืนร่วมฟังการแถลงข่าว ก่อนที่ทั้งหมดได้เดินขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้าพร้อมนายกฯ จากนั้นไม่นานนายชัยวุฒิและนายสุชาติเดินลงมาจากตึกไทยฯ ก่อน เหลือเพียงนายวิษณุที่ยังอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่ถูกถามถึงวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า อำนาจทุกอย่างเป็นของศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย ฉะนั้นแล้วต้องเคารพการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ควรก้าวล่วง และไม่ควรที่จะมีการเคลื่อนไหวชุมนุมกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  กล่าวถึงกรณีตั้งข้อสังเกต พปชร.ชู พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ว่า ไม่ใช่ ทุกอย่างอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ไม่ครบ 8 ปีก็ไปต่อไป เมื่อครบแล้วก็ว่ากันว่าจะเอาใคร ไม่ใช่ตน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมจะไปพร้อมได้อย่างไร ผมยังไม่ได้คิดเลยนายกฯ ยังอยู่ต่ออีก 2 ปี" เมื่อถามว่าหมายถึงสมัยหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรบอกว่า "อ้า ก็ว่าไป"

 ถามอีกว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่สะดุดประเด็น 8 ปี เลือกตั้งสมัยหน้าพปชร.จะเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องเสนอ  เมื่อถามว่าจะเสนอหัวหน้าพรรค พปชร. ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็แล้วแต่สมาชิกเขาประชุมกัน เขาว่าอย่างไรก็ว่ากัน ไม่ใช่ตนคนเดียว

ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์จะดำรงตำแหน่งต่ออีก 2 ปี และทำให้ตีความกันว่าจะอยู่ไปจนถึงปี 2568 ว่า จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่ามีการมองกันว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งอยู่ต่ออีก 2 ปี แล้วจากนั้น พล.อ.ประวิตรจะขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ต่อแทนในการเลือกตั้งสมัยหน้าเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรหันมาตอบว่า "จะอยู่ไหวหรือ ตายก่อน" แล้วเดินทางขึ้นรถกลับทันที

นายวิษณุ เครืองาม กล่าวถึงกรณีการยื่นวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีหลายช่องทางว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่เป็นช่องทาง เพราะเขาก็ต้องยื่นต่อไปที่ กกต. เรื่องนี้มี 2 ช่องทางเท่านั้น คือ ส.ส.เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 หรือ ส.ว.เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ตามมาตรา 82 กับอีกหนึ่งช่องทางคือ กกต. ยื่นตามมาตรา 170 ถ้า กกต.ยื่นก็จะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะ กกต.จะมีการกลั่นกรอง คล้ายๆ กับไต่สวนมูลฟ้องก่อน ทั้งนี้จะทำอะไรกันก็รีบทำ เพราะศาลเขาจะได้รีบวินิจฉัยอย่างที่อาจารย์จรัญ (ภักดีธนากุล) บอก

"บิ๊กตู่"คนละเรื่องกับ"เปรม"

เมื่อถามว่าปัญหาทางข้อกฎหมายไม่น่าใช้เวลานาน นายวิษณุกล่าวว่า ปัญหาข้อกฎหมายคือปัญหาที่ภาษากฎหมายเขาเรียกว่าศาลรู้ได้เอง แต่ว่าไม่ต้องสืบพยาน แต่เขาอาจจะถามให้ผู้กี่ยวข้องต้องชี้แจง เป็นการตีความกฎหมายและดูที่เจตนารมณ์เท่านั้น ส่วนที่จะไปยื่นแจ้งความหากนายกฯ ยังทำงานต่อก็สามารถแจ้งได้ แต่จะยังไงต่อเท่านั้นเอง ตราบใดที่ัไม่มีการสั่งให้หยุด ก็สามารถทำได้หมดทุกอย่างย้ายข้าราชการก็ได้ ปรับ ครม.ก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ ลงจากอำนาจเมื่อครบ 8 ปี และบอกว่าพอแล้ว แตกต่างจากตอนนี้อย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า “คนละเรื่องกันเลย รัฐธรรมนูญเขียนคนละอย่าง เพราะสมัย พล.อ.เปรม ไม่ได้ถูกบังคับอะไร ท่านก็บอกป๋าพอแล้วลูก” เมื่อถามว่าคำนี้จะได้ยินจากปาก พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่รู้สิ  มาถามผมทำไม”

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในช่วงท้ายการประชุม ครม. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พูดขึ้นว่า รู้สึกไม่สบายใจประเด็นวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะครบในวันที่ 24 ส.ค.65 รวมถึงวันที่ 18 ส.ค.65 ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ในวาระ 3  อย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ นายกฯเพิ่งเป็นนายกฯ ในรัฐบาลนี้ได้ 3 ปี แต่มีคำพูดที่บิดเบือน ด้อยค่า บ่อนทำลาย เขาพูดเพียงแค่ 10 คน พูดซ้ำไปซ้ำมา แต่ ครม.มีกว่า 30 คน ต้องรับผิดชอบร่วมกัน อยากให้ทุกคนช่วยกันพูด เพราะเราเป็นรัฐบาลร่วมกัน นอกจากนี้ รัฐบาลทำงานมา มีผลงานเยอะ เวลาโดนด่าในเรื่องไม่จริง อยากให้โฆษกแต่ละกระทรวงออกมาตอบโต้ ไม่ใช่ให้เขาสื่อสารทางเดียว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมหารือนอกรอบกับนายกฯ ว่า ไม่ได้พูดถึงประเด็นทางการเมือง เป็นการทานข้าวร่วมกัน ไม่มีประเด็นอะไร พล.อ.ประวิตรก็ร่วมอยู่ด้วย นายกฯ ไม่ได้ได้แสดงความมั่นใจประเด็น 8 ปี ส่วนนี้อยู่กับคนที่ยื่นโดยฝ่ายผู้ที่มีอำนาจจะเป็นผู้ตัดสิน เราไปตัดสินแทนศาลไม่ได้ ส่วนที่หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุว่านายกฯ จะอยู่ได้อีก 2 ปี อาจจะเป็นการพูดไปอะไรหรือเปล่า แต่ความจริงไม่มีใครรู้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรายังมั่นใจ และตอนนี้เชื่อว่าต่างคนต่างตีความกฎหมายกันเอง แต่เรามั่นใจว่าเราไปต่อ ในพรรค พปชร.เองก็ชัดเจน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคบอกแล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า หากศาล รธน.ตัดสินให้พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากการเป็นนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค. พรรค พปชร.ได้เตรียมความพร้อมอย่างไร และพรรคจะแตกหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า คงต้องมองว่ากฎหมายคงไม่ให้โทษขนาดนั้น แต่ก็ไม่ก้าวล่วง ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะตัดสินเร็วขนาดนั้น ก็ต้องอยู่ที่คนยื่นและต้องมีเวลาในการพิจารณาอีก

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณียังอยู่พรรค พปชร.ต่อหรือไม่ว่า "ยังอยู่ครับ อยู่ครับ" เมื่อถามถึงประเด็นการดำรงตำแหน่งครบวาระ 8 ปีของนายกฯ นายสุริยะกล่าวว่า ก็คงเป็นตามรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าน่าจะผ่าน

ฝ่ายค้านยื่นแน่ 17 ส.ค.นี้

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการยื่นตีความดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีว่าท้ายที่สุดแล้วคงจะมีแรงกระทบในระดับหนึ่ง แต่ไม่อยากก้าวล่วงอำนาจศาล เป็นหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนผลจะเป็นอย่างไร การทำงานของรัฐบาลต้องเดินหน้าต่อ ไม่อยากนำประเด็นเรื่องการเมืองมานำประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เชื่อว่ากลไกของภาครัฐจะต้องมีความต่อเนื่องและต้องทำงานต่อไป

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกัน ที่จะใช้ช่องทางของรัฐสภา ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 170 ในการตรวจสอบคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. ในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ เบื้องต้น ได้ให้เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไปประสานกับสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เพื่อเตรียมยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ในวันที่ 17 ส.ค. แนวทางผ่านสภาถือเป็นแนวทางตรงที่สามารถทำได้ หากวุฒิสภาจะยื่นในลักษณะเดียวกัน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แนวทางยื่นผ่าน กกต.ก็เป็นอีกช่องทางที่สามารถทำได้

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า วันนี้มีการสร้างกระแสที่ผิดว่าเรื่อง 8 ปีเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จริงแล้ว เป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าท่านนับเลขถูก 1-8 ท่านก็นับ จะรู้ว่าควรจบที่ไหน เมื่อรู้ว่าจบที่ไหน ให้ดูที่ข้อกฎหมาย ดูที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และข้อเท็จจริงที่บัญญัติเรื่องนี้ เพราะอะไร หากดูแล้วจะรู้ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังคิดไม่ได้ หรือไม่มีสำนึกในเรื่องนี้ ตรงนั้นถึงจะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ

"เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติเรื่องดำรงตำแหน่งนายกฯ มิให้เกิน 8 ปี ชัดเจนว่าเพื่อไม่ให้เกิดการอยู่ต่อเนื่องยาวนานเกินไป อาจเกิดความขัดแย้งและเกิดวิกฤตการเมือง ข้อเท็จจริงวันนี้มันกำลังจะเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือยัง และจะเกิดวิกฤตทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งมองว่ามีท่าทีที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คนเขียนกฎหมายมีความกังวลดูแล้วมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริง เป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์คงคิดเองได้ อย่าให้เป็นภาระของศาลรัฐธรรมนูญ หรือเป็นภาระของประชาชน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ เคยทำเป็นตัวอย่างแล้ว" นายสุทินกล่าว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคพท. กล่าวว่า ต่อให้กฎหมายเอื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อได้ แต่ก็คงอยู่อย่างไม่มีความสุข ไปที่ไหนก็จะมีแต่เสียงเชิงลบ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงจะไม่ยอมลาออกเอง ก็คงจะกลัวเสียฟอร์ม คงใช้วิธีถูกบังคับให้ลาออกหรือทางกฎหมาย คราวนี้จะเป็นครั้งสำคัญการลงอย่างสง่างามท่านจะเป็นรัฐบุรุษ จะถูกชื่นชมจากประชาชนหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวท่านเอง.