ซัด‘บิ๊กตู่’หยามรถบรรทุก ขู่ร้องปปช.ผิดต่อหน้าที่

"ชลน่าน" เสี้ยม "บิ๊กตู่" หยามสมาพันธ์รถบรรทุกฯ ขู่ฟ้อง ป.ป.ช. ผิดต่อหน้าที่ พ่วง พ.ร.บ.ขนส่งทางบก  หากใช้รถทหารขนส่งแทน จวกเวลาพูดต้องออกมาจากมันสมอง “สุพัฒนพงษ์” แจงนำรถทหารช่วยภาคขนส่งเป็นแผนสำรอง การปรับลดราคาดีเซลยังต้องคุยต่อ ขณะที่ "โออาร์-บางจาก" ลดราคาน้ำมัน 20-30 สตางค์/ลิตร

 ที่รัฐสภา วันที่ 18 พฤศจิกายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีแนวนโยบายให้นำรถทหารมาใช้ทดแทน หลังสมาพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทยออกมาเรียกร้องภาครัฐตรึงราคาน้ำมันดีเซลว่า รัฐบาลเพียงแค่รับข้อเสนอ แต่ไม่มีการเปิดโต๊ะเจรจาหาทางออก และสิ่งที่น่าเสียใจที่สุดคือคำแถลงของนายกรัฐมนตรี ที่ได้พูดถึงกรณีนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จ.กระบี่ โดยพูดทำนองว่า สมาคมขนส่งฯ ก็แค่สมาคมเดียว ควรเห็นแก่ความเดือดร้อนของประเทศชาติบ้านเมือง อย่ามากดดัน ถือเป็นคำพูดที่ไม่ใส่ใจและเหยียดหยาม ทั้งที่สมาพันธ์แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร ซึ่งนายกฯ ไม่ควรจะใช้ประเด็นนี้ด้อยค่าหรือหยามเหยียด ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับคำพูดของนายกฯ

"ข้อเสนอของนายกฯ เป็นในลักษณะของการไม่ง้อ โดยให้กระทรวงคมนาคมใช้รถขนส่งสาธารณะ และให้ทหารนำรถทหารทำการขนส่งแทน ซึ่งวิธีคิดแบบนี้ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองหาทางออกไม่ได้ เหมือนเป็นการยั่วยุให้เขาเพิ่มมาตรการกดดัน ในฐานะที่ผมเป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอกราบเรียนไปยังนายกฯ เวลาจะพูดอะไรขอให้พูดออกมาจากมันสมองของผู้นำประเทศบ้าง ขออนุญาตพูดแรง ขอให้ใส่ใจพี่น้องประชาชนบ้าง” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า การใช้รถทหารมาเป็นรถบรรทุกขนส่ง ถ้าพูดจริงทำจริง ส่อผิด พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ซึ่งจงใจกระทำผิดกฎหมาย นี่คือการพูดโดยไม่รู้ แต่ผมไม่เถียง เพราะเป็นภาวะฉุกเฉินวิกฤต ถ้ามีการบังคับใช้จริง ผมจะทำเรื่องถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อหาจงใจกระทำผิดต่อหน้าที่ ยืนยันว่าไม่ได้ขู่ ถ้าท่านทำจริงผมก็ทำจริง ถ้ารัฐบาลเปิดใจกว้างเชิญผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรเปิดโต๊ะเจรจาหาทางออก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้กองทัพเตรียมใช้รถทหารมาช่วยขนส่งแทนรถบรรทุก หากมีการประท้วงหยุดงานจะสามารถปรามกลุ่มที่เคลื่อนไหวได้หรือไม่ ว่าเรื่องที่จะช่วยเหลือประชาชนหากมีใครเดือดร้อน ถือว่าเป็นแผนสำรองถ้าหากจำเป็นเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของกลุ่มสหพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย ที่ยืนยันเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดราคาน้ำมันดีเซล นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ยืนยันว่าต้องพูดคุยกันต่อ

เมื่อถามว่า ยังคงยืนยันอยู่ที่ราคา 30 บาทต่อลิตรใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากนั้น

พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองทัพเรือ โดยกรมการขนส่งกองทัพเรือมีความพร้อมสนองนโยบายของรัฐบาลในทุกเรื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่มีต่อประชาชน โดยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่อยู่จำนวนหนึ่งที่จะสามารถดัดแปลงรองรับภารกิจดังกล่าวได้ทันที รอแค่เพียงคำสั่งที่ชัดเจนลงมา โดยก่อนหน้านั้นในส่วนของกองทัพบก โดยกองพลที่ 1 รักษาพระองค์  (พล.1 รอ.) และหน่วยขึ้นตรง ได้เตรียมความพร้อมรถไว้ทั้งสิ้น 34 คัน เพื่อรองรับสถานการณ์

วันเดียวกัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บมจ.บางจาก ได้ประกาศลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 ปรับลด 15 สตางค์/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด ปรับลด 20 สตางค์/ลิตร ยกเว้นดีเซลพรีเมียม B7 ราคาคงเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2564 เวลา 05.00 น. 

ส่งผลให้มีราคาดังนี้ เบนซิน ราคา 39.46 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 32.05 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 31.78 บาท/ลิตร, E20 ราคา 30.54 บาท/ลิตร, E85 ราคา 24.29 บาท/ลิตร,  ดีเซล (บี 7) ราคา 29.54 บาท/ลิตร, ดีเซล (บี 10) ราคา 29.39 บาท/ลิตร, B20 ราคา 29.29 บาท/ลิตร, ดีเซลพรีเมียม 34.96 บาท/ลิตร (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีท้องที่ของแต่ละจังหวัด)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลง หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แสดงความกังวลว่าตลาดน้ำมันทั่วโลกอาจเผชิญกับสภาวะอุปทานส่วนเกินภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ก่อนหน้านี้ตลาดน้ำมันทั่วโลกให้ความสนใจไปที่อุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสที่ยังคงทำตามข้อตกลงเดิมที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน.