“โรม” อดีต ส.ส.ก้าวไกล ให้ปากคำอัยการ พร้อมจี้ออกหมายจับ “ส.ว.ทรงเอ” ด้านรองอธิบดีฯ เล็งเรียก “ส.ว.อุปกิต” สอบสวน คาดสิ้นเดือนนี้สรุปสำนวนเสนอ อสส.ได้ ขณะที่รองโฆษกฯ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนบรมราชชนนี นายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมายังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในการดำเนินคดีนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ที่มีข้อครหาพัวพันขบวนการฟอกเงินการค้ายาเสพติดของทุน มิน ลัต
นายรังสิมันต์กล่าวว่า มีความคาดหวังว่าพนักงานอัยการจะทำหน้าที่ของตนให้มีประสิทธิภาพ ดูจากการที่ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ปฏิบัติงานมา ตนก็ค่อนข้างมีความคาดหวัง เพราะดูแล้วท่านก็ให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรม ก็หวังว่าคดีนี้ทางอัยการสูงสุดจะให้ความสำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ ถ้าตนเป็นอัยการหรือตำรวจตอนนี้ตนออกหมายจับ ส.ว.ทรงเอไปแล้ว เพราะถ้าเกิดการหลบหนีขึ้นมาใครรับผิดชอบ ทางอัยการสูงสุดรับผิดชอบไหวหรือ ทาง บช.ปส.รับผิดชอบไหวหรือไม่และตนบอกไว้เลย ถ้าเกิดถึงตอนนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เดือดร้อนแน่นอน
เมื่อถามว่า มั่นใจหลักฐานที่นำมาหรือไม่ เมื่ออีกฝ่ายก็ดำเนินการฟ้องนายรังสิมันต์คดีทางอาญาเช่นกัน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะดำเนินคดี ทางตนก็มีพยานหลักฐานอยู่ที่นำมาวันนี้เป็นเพียงบางส่วน หากทางอัยการต้องการตนก็กลับไปนำมาเพิ่มให้ได้ มีเยอะ แต่ก็เชื่อว่าทางอัยการมีหลักฐานมากกว่าตน คิดง่ายๆ ว่านายทุน มิน ลัต โดนอย่างไร ส.ว.ทรงเอก็ควรโดนอย่างนั้น เพราะพยานหลักฐานชุดเดียวกัน แล้วที่อ้างว่าในช่วงโควิดนั้นด่านต่างๆ มีการปิด ตนต้องขอบอกว่ามันมีอีกหลายวิธีการ และโอนเงินได้ในช่วงนั้น การที่ ส.ว.ทรงเอจะอธิบายชี้แจงอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ตนก็ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของตนได้ทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อภิปรายในสภา ตนเป็นห่วงว่าสุดท้ายคดีนี้จะเกิดการล้มคดี
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการร่วมสอบสวนที่อัยการสูงสุดได้ตั้งขึ้น กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีขณะนี้มีอยู่ 2 ส่วน 1.คดีทุน มิน ลัต กับพวกซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล 2.คดีที่เกี่ยวเนื่องกันเราก็เลยรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ พร้อมทั้งอาศัยพยานหลักฐานในชุดเดิม รวมถึงการสอบสวนเพิ่มเติมใหม่ จากเดิมที่อัยการสูงสุดได้สั่งสอบเพิ่มเติมไว้ 4 ประเด็น ซึ่งได้ทำการสอบหลักฐานสำคัญเสร็จไปเเล้ว 3 ประเด็น โดยตั้งแต่ได้รับมอบหมายตั้งเเต่ 26 ม.ค. ทางคณะทำงานฯ ก็ทำงานกันไม่หยุด จนถึงปัจจุบันก็ทำงานกันมาตลอด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการล่าช้าแต่อย่างใด และในช่วงอีก 2-3 วันนี้ ทางคณะทำงานสอบสวนก็จะเดินทางไปสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ อ.แม่สอด จังหวัดตากด้วย ซึ่งภายในเดือนนี้คาดว่าสรุปสำนวนเสนอไปยังอัยการสูงสุดพิจารณา ซึ่งยืนยันว่าจะทำสำนวนให้รวดเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าจะต้องเรียกนายอุปกิตมาสอบสวนด้วยหรือไม่ นายวัชรินทร์ กล่าวว่า อันนี้แน่นอน ถ้าพยานหลักฐานที่กำลังจะเดินทางไปสอบสวนนี้เเล้วเสร็จจะนำพยานหลักฐานที่เสร็จสิ้นแล้วมาเพื่อสอบสวนต่อ เพราะว่าเราทำการสอบสวนไม่ได้เพื่อที่จะสอบสวนไปเพื่อที่จะแจ้งข้อหาหรือจับนายอุปกิตก่อน แล้วค่อยสอบสวนหาพยานหลักฐาน แต่เราจะทำจากการหาพยานหลักฐานทั้งหมดให้ครบถ้วน แล้วค่อยพิจารณาว่านายอุปกิตได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ จึงค่อยจะพิจารณาทำการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะถ้าเราไปแจ้งข้อกล่าวหาเลยก่อนที่จะมีพยานหลักฐาน ระยะเวลาต่างๆ ตามกฎหมาย มันจะมีระยะเวลาในการทำงานตาม ป.วิอาญา มาตรา 143 แต่ถ้าเราสอบสวนพยานทุกอย่างเสร็จสิ้นชัดเจนเเล้ว ตรงนี้มันจะเป็นแนวทางการสอบสวนที่ถูกต้อง ก็คือการสอบทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา เรียกว่าจะต้องดูพยานหลักฐานที่คณะทำงานฯ กำลังทำกันอยู่
ขณะที่ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามพยานหลักฐาน ตามนโยบายของอัยการสูงสุดในการใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสังคมโดยเคร่งครัด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระราชทานพรปีม้า เรี่ยวแรงดีสุขกายใจ
"กรมสมเด็จพระเทพฯ" อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงบาตรเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569
พ้น72ชม.ไม่วางใจ สั่งปีใหม่คุมเข้มชายแดน เขมรยังปล่อยโดรนป่วน
ครบกำหนดหยุดยิง ไร้ปะทะ แต่กัมพูชาส่งกำลังบำรุง-ปล่อยโดรนตลอดแนวชายแดน ละเมิดข้อตกลง
เศรษฐกิจโต2.2% ธปท.-ปปง.ตั้งทีม สอบธุรกรรมทอง
"แบงก์ชาติ" เคาะจีดีพีปี 68 โตแน่ 2.2% ชี้เศรษฐกิจเดือน พ.ย.ยังขยายตัว
ขยี้ส้มมีเทาผิดซ้ำแค่ขอโทษ
“นายกฯ” อวยพรปีใหม่คนไทย ขอทุกข์โศก-เคราะห์หมดไปปีนี้ เขินโดนถามปี 2569
เตือน‘สายตี้’โดนหนัก สกัดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
ฉายาสภาสูง‘รังของหนู’
ฉายาสภา 68 “รังหนอนสีเทา” ขณะที่สภาสูงคือ “รังของหนู”

