ปชป.ขู่กลับพปชร. เคาะเลือกตั้งซ่อม อิสรพงษ์-สุภาพร

"ปชป.” เคาะ “อิสรพงษ์-สุภาพร” ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใต้ "ชินวรณ์" แนะพรรคร่วมรัฐบาลควรมีเอกภาพ-มารยาททางการเมือง ไม่แข่งชิงพื้นที่ ส.ส.กันเอง พูดเป็นนัยยังมีเรื่องที่รออยู่ อาทิ งบประมาณ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รอดู พปชร.ตัดสินใจ ส่วน "อนุทิน" รับลูกประกาศภูมิใจไทยไม่ส่งเพราะไม่ใช่พื้นที่พรรค

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่าที่ประชุมมติเอกฉันท์ให้นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในเขต 1 จังหวัดชุมพร และให้ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในเขต 6 จังหวัดสงขลา

เมื่อถามถึงตระกูลธรรมเพชรส่วนหนึ่งไปเปิดตัวสังกัดกับพรรคพลังประชารัฐ ยังยืนยันหรือไม่ว่า น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง ยังจะสังกัดพรรค ปชป.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคปชป. ชี้แจงว่า คนของพรรคทั้ง น.ส.สุพัชรี และนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ยังอยู่กับพรรค ปชป.ทั้งหมด และยืนยันว่าพรรคส่งครบทุกเขต อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการคุยกันหลายพรรค แต่สุดท้ายอยู่ที่วันสมัครรับเลือกตั้งว่าใครจะลงในนามพรรคใด และขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นรรศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะมีการประชุม กก.บห.ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เพื่อสรุปว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันด้วยหรือไม่ ว่ายังไม่ทราบแนวทางของพรรคพปชร. แต่คิดว่ายังมีเวลาที่จะพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงสุดท้ายของวาระสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่มาแข่งขันกันเอง ก็จะทำให้พรรคที่เป็นตัวแทนสามารถนำผลงานของรัฐบาลไปชี้แจงต่อประชาชนได้อย่างชัดเจน นายกรัฐมนตรีก็จะไม่เป็นเป้าของฝ่ายค้าน ดังนั้นถ้าพรรค ปชป.ส่งผู้สมัครเพียงพรรคเดียว ประชาชนก็จะหาเรื่องตำหนิรัฐบาลไม่ได้ พรรค ปชป.ก็จะต้องรับผิดชอบเอง

“ผมขอย้ำถึงมารยาททางการเมือง และขอเรียกร้องไปยังกระบวนการการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงหลังนี้ ควรทำให้มีเอกภาพมากขึ้น เพราะหลังจากนี้ยังคงมีวาระสภาที่สำคัญอีกมาก อาทิ การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น” นายชินวรณ์กล่าว

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีพื้นที่อยู่ตรงนั้น เป็นเรื่องของ ส.ส.ฝ่ายค้านกับรัฐบาล หลังจาก ส.ส.รัฐบาลถูกตัดสิทธิ์ไป ซึ่งก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของมารยาทใดๆ แต่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าถ้าเป็นเรื่องของรัฐบาล เราก็ให้พรรคที่เป็นต้นสังกัดของ ส.ส.นั้นลงไปแข่ง เราจะไม่ไปสร้างความลำบากใจอะไรให้ เพราะเราต้องทำงานด้วยกัน

เมื่อถามว่า สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตอนนี้คึกคัก ทางพรรคภูมิใจไทยจะเปลี่ยนใจที่จะส่งผู้สมัครหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราส่งกำลังใจดีกว่า เมื่อถามย้ำว่าจะส่งกำลังใจไปให้ใคร นายอนุทินยิ้มพร้อมกล่าวว่า เราก็รู้จักกันทั้งหมดนั่นแหละ

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ปชป. และประธานคณะกรรมการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค โพสต์เฟซบุ๊กถึงมารยาททางการเมือง โดยพรรคร่วมรัฐบาลไม่ควรส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมแข่งกันเองว่า "ผมไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่ทราบ" เรื่องมารยาททางการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ดูเป็นเวลาๆ ไป อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคทราบว่าจะประชุมในเร็วๆ นี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อพบปะสมาชิกพรรคและเข้าร่วมประชุมเพื่อเลือกตั้งตัวแทนพรรคในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดสงขลาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พี่น้องประชาชนจำนวนมากมีความกระตือรือร้นอย่างสูงที่ต้องการจะปักธงในพื้นที่เหล่านี้ให้ได้ ขอให้พรรคเพื่อไทยมีความจริงใจ ทำการเมืองอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ไม่ทิ้งภาคใต้ มีนโยบายดีๆ อย่างนี้สามารถปักธงได้

"เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเพื่อไทยที่มีความจริงใจ ต้องการมีส่วนทางการเมืองกับพี่น้องชาวใต้อย่างจริงจัง มีเครือข่ายตัวแทนแกนนำพรรคอยู่ในพื้นที่ พร้อมจะส่งผู้สมัครทุกเขต และจะพยายามขับเคลื่อนผลักดันให้ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เพื่อให้เราได้มีโอกาสทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และแก้ไขปัญหาให้ประเทศ นำพาพี่น้องออกจากวิกฤตและกลับมากินดีอยู่ดีกันอีกครั้งครับ" หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ

ส่วนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังที่มีกระแสข่าวลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า ได้ตัดสินจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยมีเรื่องต่างๆ ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ยังไม่ได้ยื่นหนังสือลาออก จนกระทั่งที่มีการประชุมใหญ่ของพรรค ผู้ใหญ่ภายในพรรคได้มาสอบถามว่าจะลาออกในช่วงไหน จึงตัดสินใจว่าจะยื่นหนังสือลาออกก่อนวันประชุม แต่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้ขอให้ทบทวนการยื่นหนังสือการลาออกก่อน ขอให้ไปยื่นหนังสือลาออก ภายหลังการประชุมใหญ่พรรคได้หรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่มีปัญหาถ้าเขาต้องการแบบนั้น

ดังนั้นจึงได้มีโอกาสยื่นหนังสือลาออกเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเหตุผลในการลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากต้องการวางมือทางการเมืองมานานแล้ว ประกอบกับที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานทางการเมืองเป็นจำนวนมาก และก็มีคนที่สนใจทางการเมืองออกมาเคลื่อนไหวกันมากมาย จึงคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าคนรุ่นอย่างตนควรที่จะถอยออกมา ให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ หากเขาอยากจะต้องการคำปรึกษาหรือช่วยเหลือ ก็ยินดีไม่มีปัญหาอะไร

"ผมออกมาจากเป็นสมาชิกพรรค ถ้าพูดถึงในแง่ของคนที่เข้ามาการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน หรือว่าภาคประชาชน เราก็ยินดีอยู่แล้วที่จะมีส่วนสนับสนุน อย่างกรณีที่หลายองค์กรขอให้ช่วยให้ความเห็นก็ยินดี ในส่วนของพรรคเองได้บอกกับเลขาฯ พรรคไปแล้วว่ายินดีช่วยพรรคเหมือนเดิม ถ้าจะใช้เรื่องอะไรก็บอกได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว" นายพงศ์เทพกล่าว

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มว่าจะไปอยู่พรรคการเมืองใหม่อย่างเช่นพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าจะต้องลาออกแล้วจะไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ไม่ใช่ว่าคิดว่าไปตกลงกับพรรคการเมืองอื่นแล้วลาออก มันไม่ใช่ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรอันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้คิดไปทำงานการเมืองที่ไหน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพอะไร แต่เนื่องจากมีอายุมากแล้ว ร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิมสมัยที่เคยหาเสียงในอดีต.