“ธรรมนัส” นำทีมแถลงใหญ่ปราบหมูเถื่อน บอกมีนักการเมืองใหญ่พัน แต่ยังไม่เปิดชื่อ ขู่ 15 ธ.ค.เดดไลน์ขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ “อธิบดีดีเอสไอ” รับเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ทำครบวงจร ตั้งแต่นักการเมือง-ขรก.-เอกชน คาด ก.พ.2567 ทุกอย่างสะเด็ดน้ำ
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้แถลงความคืบหน้าการปราบปรามนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน ว่า กลุ่มผู้กระทำผิดที่เราออกหมายจับ หมายค้น และมีการมอบตัว ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำสำนวนส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการซัดทอดไปถึงนักการเมืองใหญ่และต้นตอ ส่วนรายละเอียดชื่อนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง สรุปแล้วหมูเถื่อน 161 ตู้ที่จับได้สาวถึงต้นตอทั้งหมด ส่วนความผิดรายย่อยนั้นจะดำเนินการทุกคดี
“เอาเป็นว่ามีนักการเมืองใหญ่ และกลุ่มนักการเมือง กลุ่มพ่อค้า กลุ่มชิปปิ้ง ระดับลูกจ้าง” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
เมื่อถามว่า นักการเมืองใหญ่ที่เกี่ยวข้องซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวระบุว่า ชื่อ ป. สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าไปเอ่ยอย่างนั้น มันผิดกฎหมาย เดี๋ยวจะได้ไปขึ้นศาลด้วยกัน แต่ขอปกป้องคนที่แถลงข่าวด้วยกันก่อน เพราะต้องทำงานด้วยกันต่อไป ส่วนการขยายผลต่อนั้นได้ตั้งทีมพญานาคราชเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษ และเริ่มทำงานเชิงรุกแล้ว อีกทั้งได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีให้เซตซีโรห้องเย็นทั้งหมดทั่วประเทศ รวมถึงห้องเย็นที่อยู่ตามรถบรรทุกต่างๆ ให้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด หากไม่มาขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 ธ.ค. จะถือว่าเป็นผู้ประกอบการเถื่อนทั้งหมด และจะดำเนินคดีอาญาทันที
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ตัวละครรายชื่อต่างๆ ต้องขอสงวนไว้จริงๆ แต่ขอยืนยันข้อเท็จจริงทุกรายละเอียดได้นำเรียนผู้บริหารสูงสุดไปแล้ว ส่วนจำนวนผู้ร่วมขบวนการที่เป็นทั้งข้าราชการและอดีตข้าราชการนั้น ตัวเลขอยู่ในหลักสิบ และข้าราชการการฝ่ายการเมืองเบื้องต้นมีไม่ถึง 10 คน และยังมีกลุ่มนายทุน กลุ่มขบวนการบริษัท ซึ่งความผิดลักษณะแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าความต้องการหมูไม่เกิดขึ้น ในคดีที่เราทำอยู่ซึ่งต้องสานต่อให้จบ คือกลุ่มที่มีดีมานด์เชื่อมไปยังกลุ่มแรก เพราะว่ากลุ่มข้าราชการและนักการเมืองคงไม่เอาหมูเข้ามาขายเอง มันต้องมีกลุ่มบุคคลที่ต้องการสั่ง ซึ่งดีเอสไอจะดำเนินการให้ครบทั้งวงจร เพราะมองว่าเป็นกลุ่มอาชญากรขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับความมั่นคงด้านอาหารและอาชีพเกษตรกร
“เราต้องจับตัวคนผิดไปให้ถึงตัวและต้นตอ เป็นความประสงค์ของนายกฯ เราคิดว่าภายในต้นปีนี้เรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย ฉะนั้นหากใครมีข้อมูล เบาะแส แจ้งมาโดยตรงที่กระทรวงเกษตรฯ และดีเอสไอ” พ.ต.ต.สุริยาระบุ
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ระบุว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนพร้อมพยานหลักฐานคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์สำแดงเท็จนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดจำนวนตำแหน่งหรือหน่วยงานที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากรายงานแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งถูกส่งสำนวนไปรวมประมาณ 10 คน เกี่ยวข้อง 2 หน่วยงานคือ กรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร โดยมีตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการไล่ลงไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ
ทั้งนี้คดีพิเศษที่ดีเอสไออยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนจำนวน 161 ตู้นั้น ดีเอสไอมีความเห็นว่าให้แตกเลขคดีดังกล่าวออกมาอีก โดยจะดำเนินคดีกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง 9 บริษัท 9 คดี เนื่องจากการสืบสวนพบว่ามีการกระทำที่เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน และแต่ละบริษัทไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือทำงานเป็นเครือข่ายกัน ยกเว้นเครือข่ายการกระทำความผิดของผู้ต้องหา 2 พ่อลูกก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวมีการเบลอชื่อบริษัทที่ถูกดำเนินคดี 2 บริษัท แต่สุดท้ายดีเอสไอชี้แจงว่า 2 บริษัทนั้นคือเป้าหมายต่อไปที่ดีเอสไอจะเข้าไปตรวจสอบในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากการเข้าตรวจสอบอีก 2 บริษัทเสร็จสิ้นเรียบร้อย จะทำให้เห็นภาพรวมของเครือข่ายดังกล่าวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และจะดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับต่อไป และเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทุกสำนวนเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาโดยใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน
สำหรับสำนวนคดีทั้ง 9 สำนวน ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทใด แต่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีในภายหลัง นอกจากนี้ ดีเอสไอยังแถลงเรื่องการพิจารณารับคดีพิเศษการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2565 ที่เป็นการขยายผลมาจาก 9 บริษัทก่อนหน้านี้ โดยพบว่าบริษัทและผู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหมูจำนวนกว่า 2,000 ตู้นี้ มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร โดยมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำหลายหน่วยงาน ผู้ประกอบการนำเข้าชิปปิ้ง ผู้ประกอบค้าปลีกค้าส่งรายย่อยและรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการห้องเย็น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.2567.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

