ปชป.ส่อย้อนยุคเก่า เข็น‘เสี่ยต่อ’นั่งหัวหน้าใช้เสียง21สส.กลบข้อครหาตระบัดสัตย์

"ชัยชนะ" มั่นใจ 9 ธ.ค.ได้ "หัวหน้าพรรค ปชป." แน่ "เดชอิศม์"  ประชุม "21 สส." เห็นพ้องเชิญ "เฉลิมชัย" ชิงหัวหน้าพรรค ใช้เสียง สส.ส่วนใหญ่จาก  ปชช.กลบข้อครหาตระบัดสัตย์ "เสี่ยต่อ"  ขอเวลา 1-2 วันตัดสินใจ หลังเคยประกาศเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิตถ้า ปชป.ได้ สส.ไม่ถึง 25 ที่นั่ง "เศรษฐา" โชว์เวทีปาฐกถา  "วบส." ร่ายผลงานเป็นเซลส์แมนชวนต่างชาติลงทุนอื้อ อึ้ง! แฉเบื้องหลังเอเปก "ผู้นำโลก" เห็นจับมือตบไหล่ข้างหลังถือมีดอยู่ทุกคน แถมหลังไมค์มีกอดคอชี้หน้าด้อยค่ากัน "อิ๊งค์" ปลุกใจ "พท." สร้างความแข็งแรง ลั่นพรรคไม่ใช่ของ "ชินวัตร"

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธ.ค.ว่า จะได้หัวหน้าพรรคที่แท้จริง เนื่องจากได้เตรียมองค์ประชุมไว้พร้อมแล้ว หากขาดอีกก็จะเติมจนครบ ส่วนผู้สมัครหัวหน้าพรรคนั้น เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง สมาชิกจึงเปิดกว้างให้โอกาสทุกคนลงเลือกตั้ง แม้ผู้สมัครบางคนจะติดเงื่อนไขเป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปี แต่เชื่อว่าสมาชิกจะให้โอกาสลงแข่งขันด้วยเช่นกัน

ถามว่า มีการประเมิน น.ส.วทันยา บุนนาค ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ผ่านด่าน 3 ใน 4 แล้ว ก็จะสามารถนั่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ นายชัยชนะกล่าวว่า  ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด อนาคตของพรรคจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก และก่อนจะถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้ น่าจะมีผู้ที่มีคุณสมบัติครบมาสมัครเพิ่มอีก โดยขณะนี้ พ.ท.หญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ก็ลงสมัครเพิ่มอีกหนึ่งคน ซึ่งผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนก็ได้หาเสียงกับสมาชิก

นายชัยชนะกล่าวว่า ในช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค. จะมีการประชุม สส.พรรค ปชป. ซึ่งจะมีการพูดคุยเรื่องแนวทางของพรรคว่าใครที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป และเห็นตรงกันว่าจะไปทิศทางไหนมากกว่า ซึ่งคนนั้นก็จะได้โอกาสรับชัยชนะ

"ในการประชุมเย็นนี้ (7 ธ.ค.) จะมีผลต่อการเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 9 ธ.ค.นี้แน่นอน เนื่องจาก สส.คิดเป็นสัดส่วน 70% ของการโหวต แต่มั่นใจว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำ ดังนั้นขอให้รอฟังตอนเย็น พรรค ปชป.ไม่มีอะไรที่รู้ก่อนล่วงหน้าเลือกตั้ง 2 วันอยู่แล้ว เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ผมไม่ได้หมายถึงว่าพรรคการเมืองอื่นมีเจ้าของ ที่รู้เลยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค เปิดตัวมา 7 วัน 10 วัน หรือเดือนหนึ่ง คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่เปลี่ยนเลย แต่ประชาธิปัตย์ต้องลุ้นนาทีต่อนาที" นายชัยชนะกล่าว

ถามว่ามีข่าวว่าจะไปขอให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า  ขึ้นอยู่กับการพูดคุยทั้งหมดในเย็นวันนี้

ถามถึงการมีชื่อเป็นเลขาฯ พรรค นายชัยชนะกล่าวว่า เป็นเพียงแค่ชื่อ ข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงอยู่ที่ตน ซึ่งตนยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร แต่ก็พูดคุยกับทุกคนอยู่แล้ว รวมทั้งกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด แต่กลับมีว่านายเดชอิศม์อยู่ฝั่งหนึ่ง ตนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วตนพูดคุยกับนายเดชอิศม์อยู่ทุกวัน 

"ถ้าหากผมได้เป็นจริงก็ออกมาบอกอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ายังไม่ได้ตัดสินใจยืนจุดจุดไหน ต้องคุยกับ สส.ปัจจุบันและผู้ใหญ่ในพรรคให้เห็นตรงกันว่าพรรคจะเดินไปอย่างไร" นายชัยชนะกล่าว

สส.ปชป.ดัน 'เฉลิมชัย' ชิง หน.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 16.00 น. มีการประชุม สส. นำโดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชัยชนะ เดชเดโช รักษารองเลขาธิการพรรค โดยนัด สส.กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย 21 คน มาหารือเพื่อวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น นายเดชอิศม์นั่งประกบคู่กับนายชัยชนะ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าการหารือครั้งนี้ขาดบุคคลสำคัญ เช่น นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายสรรเพชญ บุญญามณี เนื่องจากเป็นคนละกลุ่มและไม่ได้รับเชิญ

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายประมวล  พงศ์ถาวราเดช ประธาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ส่วนใหญ่เป็นห่วงสถานการณ์พรรคว่าจะเกิดวิกฤตเหมือนกับการประชุมใหญ่วิสามัญสองครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ และหารือเรื่องอื่นๆ ซึ่งผลสรุปว่าพวกเราจะไปเชิญนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่นายเฉลิมรับจะรับหรือไม่ ไม่ทราบ ซึ่งเป็นมติเอกฉันท์ของ สส.

ถามว่า นายเฉลิมชัยเคยประกาศว่าจะไม่เล่นการเมืองอีก นายประมวลกล่าวว่า พวกเราส่วนใหญ่จะไปบังคับนายเฉลิมชัย ขอร้องให้เข้ามาช่วยแก้วิกฤต เพราะนายเฉลิมชัยสามารถประสานได้ทุกฝ่าย และจะขอเชิญนายนราพัฒน์ แก้วทอง และ น.ส.วทันยา บุนนาค เข้ามาร่วมงานด้วย เพื่อไม่ให้พรรคแตก

ซักว่าหากนายเฉลิมชัยไม่รับข้อเสนอนี้จะมีแนวทางอย่างไรต่อไป นายประมวล กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะหารืออีกรอบว่าจะทำอย่างไรให้พรรคเดินต่อไปข้างหน้าได้ ถ้าแตกก็ให้แตกน้อยที่สุด และคิดว่าวันที่ 9 ธ.ค.นี้จะได้หัวหน้าพรรค

มีรายงานจากพรรค ปชป.ว่า ช่วงเย็นวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเดชอิศม์, นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช,  พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา รวมถึง สส.บางส่วน ร่วมหารือเพื่อหาทางให้นายเฉลิมชัยมีโอกาสกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง โดยมีการเปรียบเทียบคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครลงเป็นหัวหน้าพรรคทั้งสองคนคือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ และน.ส.วทันยา บุนนาค ซึ่งส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าควรจะเสนอชื่อของนายเฉลิมชัยเป็นผู้ที่เหมาะสม แม้จะติดที่นายเฉลิมชัยเคยประกาศในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค.2566 ว่าหากแพ้เลือกตั้งจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

"มีการหาทางออกว่า สส.ส่วนใหญ่ของพรรคต้องนัดหารือและออกเป็นมติ หรือหนังสือเรียกร้องให้นายเฉลิมชัยกลับมาลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อฟื้นฟูพรรค เพราะ สส.ส่วนใหญ่เห็นว่ามีศักยภาพในการดูแล และเป็นศูนย์รวมของ สส.รุ่นใหม่ของพรรค โดยเชื่อมั่นว่าหากนายเฉลิมชัยยอมเสียสละกลับมารับตำแหน่งเพื่อฟื้นฟูพรรค ปชป. ก็ไม่ถือว่าเป็นการตระบัดสัตย์ เพราะเป็นคำขอร้อง และเป็นมติของ สส.พรรค ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือก สส.มา ถือเป็นเหตุผลที่รับฟังขึ้น" แหล่งข่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัยเคยประกาศในงานรวมพลัง 30 เลือดใหม่ทวงปักษ์ใต้คืนที่จังหวัดสงขลาเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ตอนหนึ่งว่า "ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย..."

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้ง 21 สส.ปชป.ที่เห็นพ้องเชิญนายเฉลิมชัยมาเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ทั้งหมดได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายเฉลิมชัย โดยนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธาน สส. และ สส.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ทุกคนได้พูดคุยกับนายเฉลิมเหมือนมติ 21สส. ซึ่งนายเฉลิมตอบว่าขอคิดก่อน รออีก 1-2 วันจะให้คำตอบ แม้ทุกคนจะพยายามหว่านล้อมให้รับ เจ้าตัวก็ยังย้ำว่าขอคิดก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ผู้สมัครหัวหน้าพรรค 2 คน ได้แก่ น.ส.วทันยา บุนนาค และนายนราพัฒน์ แก้วทอง ยังไม่สามารถติดต่อได้ 

นายนราพัฒน์​ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค และผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคปชป.​ ให้สัมภาษณ์กรณี 21 สส.ปชป. เชิญให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจะสู้ทำไม  เพราะถือเป็นทีมเดียวกัน และความคิดของตนและนายเฉลิมชัยก็เหมือนกัน ที่มีความตั้งใจจะฟื้นฟูพรรค แม้ขณะนี้นายเฉลิมชัยยังไม่รับปาก แต่ในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 11.30 น. ตนจะเข้าพบนายเฉลิมชัยที่พรรค เพื่อเป็นอีกเสียงหนึ่งที่จะขอร้องและสนับสนุนให้นายเฉลิมชัยรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อที่จะนำพาพรรคให้เดินต่อไปข้างหน้าได้ และสามารถที่จะตอบกับสังคมได้ เพราะการที่นายเฉลิมชัยประกาศไม่เล่นการเมือง คือการไม่รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้เป็นการนำพาพรรคเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในพรรคมากกว่านี้ และทำให้พรรคเป็นเอกภาพมากขึ้น แต่หากนายเฉลิมชัย ปฏิเสธ ตนก็พร้อมเดินหน้าสู้ต่อ มั่นใจว่าวันที่ 9 ธ.ค.ได้หัวหน้าพรรคแน่นอน

ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ วันที่ 7 ธ.ค. เวลา 13.30 น.นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง หรือ​ ​วบส. โดยได้กล่าวปาฐถกาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” ตอนหนึ่งระบุว่า​ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง อีก 2-3 วันจะครบ 3 เดือน วันที่แถลงนโยบายไป 11 ก.ย. เรามีนโยบายหลากหลาย ต้องยอมรับว่าการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ บางคนอาจจะมองว่าเป็นประชานิยม การหาเสียง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะหาเสียงจบไปแล้ว เรื่องของการหาเสียงไม่มีแล้ว ไม่มีการซื้อใจหรือเตรียมตัวในการรอเลือกตั้งต่อไปไม่มีแล้ว

'เศรษฐา' ปูดเบื้องหลังเอเปก

นายเศรษฐากล่าวว่า ในส่วนการลดค่าน้ำมัน ค่าไฟ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ 3.99 บาทต่อหน่วย มีข่าวออกไปว่าจะขึ้นถึง 4.68 และคุยกันว่าจะไปอยู่ที่ 4.20 ตนบอกไปแล้วว่ารับไม่ได้คงต้องกลับไปพิจารณากันใหม่ จะพยายามกดให้ได้ 4.10 บาท และอย่าลืมว่าก่อนที่ตนจะลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท ราคาไปอยู่ที่ 4.50 บาทมาก่อน

นายกฯ กล่าวว่า คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ในวิถีการเมืองก็ไปด้อยค่าต่างๆ นานา​ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนทราบว่าคำว่าซอฟต์พาวเวอร์​คืออะไร หลายเรื่องในประเทศไทยมีจุดแข็งในเรื่องนี้ สงกรานต์ก็เพิ่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกเป็นมรดกโลกเชิงวัฒนธรรม ซึ่งในปีหน้าจะมีการจัดสงกรานต์ทั้งเดือน แต่ไม่จำเป็นต้องสาดน้ำกันทั้งเดือน แต่ถ้าใครอยากจะสาดก็สาด แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีสติดีคงจะทราบว่า​สงกรานต์ทั้งเดือนนั้นคืออะไร เหมือน​ตรุษจีนที่มีการจัดงานหลายวัน

 “ 9 ปีที่ผ่านมาไทยไม่มีตัวตนในโลก ไม่มีการลงนามเขตการค้าเสรี​ หรือ​ FTA ซึ่งต้องมีการขยาย FTA ซึ่งวันนี้เวียดนามแซงเราไปแล้ว​ และยืนยันว่าจะไม่มีการขายไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากลาวให้กับสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นคู่แข่งในการดึงนักลงทุน ซึ่งต้องพูดตามตรง ผมจำเป็นต้องโหด” นายกฯ กล่าว

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า จากการที่เดินทางไปร่วมประชุมเอเปกเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพเห็นมีการจับมือตบไหล่กันอย่างสวยหรูนั้น แต่ข้างหลังก็ถือมีดกันอยู่ทุกคน ซึ่งจีนกับสหรัฐตกลงกันอย่างชัดเจน มีเพียงเรื่องเดียวคือไม่กดปุ่มนิวเคลียร์ยิงใส่กัน​ ที่เหลือก็สู้กันตายไปข้างหนึ่งในเรื่องการค้า เพราะฉะนั้นเรื่องการย้ายฐานการผลิตต่างๆ มาที่เมืองไทย ซึ่งไทยดำรงในเรื่องของความเป็นกลาง ไม่ได้เอียงไปทางสหรัฐหรือจีน

 “คนจีนถือเป็นพี่ใหญ่ อเมริกาถือเป็นบิ๊กบอส เพราะฉะนั้นเราไปได้กับทุกคน ซึ่งผมได้ไปเจรจาตรงนี้ก็เข้าใจในหลายๆอย่าง ซึ่งในห้องประชุมใหญ่มีการโอภาปราศรัยกันดี แต่พอเข้าห้องรับรองที่ไม่มีนักข่าว ก็มีการกอดคอชี้หน้าด้อยค่าซึ่งกันและกัน เยอะไปหมด ซึ่งเราเองแม้จะตัวเล็กๆ แต่ก็มีความภาคภูมิใจ และจะต้องพยายามดึงนักลงทุนมาประเทศไทยให้ได้ ผมเป็นเซลส์แมน ต้องวิ่งสู้ฟัด​ และในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น​ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นถือเป็นรถสันดาป ปัญหาที่เกิดขึ้นคือรัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องว่าเราโปรโมตรถ EV เยอะเกินไป แต่มันเป็นเทรนของโลก และเราต้องทำ” นายเศรษฐากล่าว

นายกฯ กล่าวถึงการอบรมในหลักสูตร วบส.ว่า หากใช้คอนเนกชันให้เป็นประโยชน์​ ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกต้อง ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากใช้เรื่องเหล่านี้วางตนเหนือท่าน​ ยกตนเหนือท่าน ใช้ทรัพยากรของรัฐโดยไม่ถูกต้อง ถือว่าท่านเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ มีหลายหลักสูตรที่ไปเรียนเรื่องเหล่านี้แล้วปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง ท่านเป็นบุคคลพิเศษ เป็นบุคคลที่ได้รับเกียรติจากสถาบันที่มีเกียรติมาพบปะสังสรรค์ มาอยู่ร่วมกัน มาช่วยทำประโยชน์ให้สังคม บางท่านอาจจะบอกว่าธุรกิจฉันเล็กนิดเดียวจะไปทำได้อย่างไร ทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมหายไปได้

ในช่วงท้าย ตัวแทนนักศึกษาหลักสูตร วบส.ได้ให้กำลังใจกับนายกฯ โดยระบุว่า  การที่ประเทศไทยได้นายกฯ ชื่อเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนที่ 30 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเหมือนโชคชะตาส่งมาให้ช่วยขับเคลื่อนประเทศชาติ ขอเป็นกำลังใจ

นายกฯ ตอบว่า เรื่องที่ทำให้อัดอั้นตันใจ คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำ เพราะปฏิเสธไม่ได้ ตนเองก็มีเยอะ และบางครั้งก็ใช้จ่ายเยอะจนกระทั่งละอายใจ อย่างเช่นการมีนาฬิกาหลายเรือน จนไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าอยากมีอีก แต่คิดแล้วก็ทุเรศตัวเอง เพราะบางคนเขาไม่มี และพูดแบบนี้ไม่ใช่ตัวเองดูดี มันมีความขัดแย้งในตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักสูตร​ วบส.นี้​ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน​ ภริยา​นายกรัฐมนตรี​ เป็นนักศึกษา​ วบส.รุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นคณะจัดงาน แต่ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานแต่อย่างใด​

ลั่น พท.ไม่ใช่ของ 'ชินวัตร'

ขณะที่การสัมมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่เดอะกรีนเนอร์รี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีการบรรยายในหัวข้อ “ถอดบทเรียนเพื่อไทย ผ่านวิกฤตเลือกตั้ง” นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค, นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค และมี สส.อยู่ร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก รวมถึงมีรัฐมนตรีอยู่ร่วมประชุมอย่างเนืองแน่น

น.ส.แพทองธารกล่าวปิดการสัมมนาตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีดีเอ็นเอมาจากพรรคไทยรักไทย ตนเองก็เป็นดีเอ็นเอมาจากผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ดีเอ็นเอที่พูดถึงไม่ได้หมายความถึงสายเลือดหรือตระกูล แต่หมายถึงจุดรวมของเราว่าเป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้องมากกว่าสร้างวาทกรรมทางการเมือง ตลอดสามเดือนที่ผ่านมามีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

 “ครอบครัวของอิ๊งค์ไม่ใช่เจ้าของพรรคพท. แต่เราทุกคนคือเจ้าของพรรค ภายใต้การนำของผู้นำที่เก่ง ไม่ว่าจะเป็นท่านทักษิณ ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ท่านนายกฯ เศรษฐา จะทำสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมที่สมบูรณ์ ทีมที่เก่ง ทีมที่คอยบอกว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนี้ยังต้องเพิ่มเติม การนำของผู้นำที่ดีต้องมีผู้ตามที่เป็นห่วงที่แข็งแรงเหมือนพรรค พท. ถึงจะทำให้การนำที่ดีสำเร็จได้" น.ส.แพทองธารกล่าว

 หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ต่อจากนี้เราจะมาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน ให้พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนไปด้วยกัน มีอะไรขอให้ปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน มีวันที่ทุกข์แน่นอน แต่วันที่สุขก็ต้องมาอย่างแน่นอนเช่นกัน จึงขอให้กำลังใจทุกคน

จากนั้นเวลา 11.30 น. ปิดการสัมมนาโดยมีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกันอย่างคึกคัก

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการสะท้อนจาก สส.ขอให้นายกฯ รับสายว่า จริงๆ ไม่มี สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาล เมื่อเวลาเรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเยอะ การจะสื่อสารกันก็ยากลำบากมากยิ่งขึ้น แต่จากการพูดคุยกับรัฐมนตรีหลายคนบอกว่าหากไม่ได้รับสาย สส.ก็จะโทร.กลับ เป็นเช่นนี้ทุกรัฐบาล และสิ่งที่ สส.อยากสะท้อนสามารถพูดกับนายกฯ โดยตรงได้เลย และนายกฯ ก็ได้เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นอย่างมากว่าอยากให้ สส.ได้สะท้อน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องลดช่องว่างระหว่างการทำงานของ สส.กับรัฐบาลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เรามั่นใจภายใต้รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยนำโดยน.ส.แพทองธาร จะเชื่อต่อกันได้อย่างแนบชิด

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกรณี สส.อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคมีความใกล้ชิดกับ สส.และอยากให้รัฐมนตรีรับโทรศัพท์ว่า หากโทร.ไปแล้วไม่รับ ก็ขอให้พิมพ์ชื่อแนะนำตัวเอาไว้ หากรัฐมนตรียังไม่โทร.กลับมาอีกก็ถือว่าต้องเอาเรื่องกันแล้ว

ถามว่า มีการระบุในที่สัมมนา น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจไม่ใช่นายกรัฐมนตรีหญิงคนสุดท้าย หมายความว่าอาจมีโอกาสชู น.ส.แพทองธารขึ้นเป็นนายกฯ หรือไม่  นายสมศักดิ์กล่าวว่า ในอนาคตก็คงไม่ผิดหรอก เป็นไปได้ แม้จะคงไม่ใช่อนาคตอันใกล้นี้ เพราะพรรคการเมืองก็มุ่งหวังให้หัวหน้าพรรคของตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี ชนะการเลือกตั้งในโอกาสหน้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง