DSIเค้น‘สมเกียรติ’ อดีตเลขาฯเสี่ยต่อ ส่งตีนไก่สวมสิทธิ์

"ดีเอสไอ" คุมตัว "เฮียสมเกียรติ" อดีตเลขาฯ "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" คู่หู "เฮียเก้า" มาเฟียส่งตีนไก่สวมสิทธิ์ขายจีน เค้นสอบปากคำเข้ม เจ้าตัวยิ้มร่าหลังนักข่าวสาดคำถามเด็ดยันบริสุทธิ์ ขณะที่ "รองแพร" แย้มอาจสอบถาม "บทบาทเจ้าตัวต่อกระทรวงเกษตรฯ" หาก "เฉลิมชัย" เกี่ยวข้องก็ต้องเรียกมาสอบ "อัจริยะ" ร้องตำรวจ ปปป.ตรวจสอบ จนท.รัฐเอี่ยวสวมบัตรประชาชนให้ลูกชาย-ลูกสาว "เฮียเก้า"

เมื่อวันที่ 15 มกราคม มีความคืบหน้า "คดีหมูเถื่อน"  ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว  หรือเฮียเก้า, นายหยาง ยา ซุง, นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์, น.ส.นวพร เชาว์วัย และนายสมเกียรติ กอไพศาล ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558, ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน

เมื่อเวลา 14.10 น. ที่อาคารดีเอสไอ ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าวดีเอสไอ ทำการควบคุมตัวนายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีตีนไก่สวมสิทธิ์ จากท่าอากาศยานดอนเมือง หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางกลับจากมาเก๊า โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยได้ควบคุมตัวโดยสารมาด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รุ่นแคมรี่  พร้อมกับมีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ขับนำขบวนดูแลความปลอดภัย จากนั้นเมื่อถึงบริเวณด้านหน้าอาคารดีเอสไอ นายสมเกียรติได้ก้าวลงจากรถยนต์แคมรี่ ในชุดสูทสีดำทับเสื้อเชิ้ตขาวด้านใน โดยมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหลายสิบนายประกบรอบตัว

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายสมเกียรติ ด้วยคำถามจำนวนมากเกี่ยวกับหมายจับที่เกิดขึ้น อาทิ มีอะไรอยากชี้แจงจากหมายจับที่เกี่ยวข้องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่, รู้สึกอย่างไรกับหมายจับที่ออกมา อยากชี้แจงในเรื่องอะไรบ้างหรือไม่ หรือรู้จักกับเฮียเก้าหรือไม่นั้น เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่หันมาฟังคำถามและยิ้มให้ผู้สื่อข่าวแทนการตอบกลับ ระหว่างที่นายสมเกียรติถูกควบคุมตัวไปยังชั้น 7 เพื่อทำบันทึกจับกุม เจ้าตัวมีสีหน้าไร้กังวล ยิ้มแย้ม ไม่พบเห็นร่องรอยความเครียดแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ กล่าวว่า กรณีของนายสมเกียรติ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีตีนไก่สวมสิทธิ์ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอนั้น หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าวจะนำตัวมาส่งให้คณะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินการสอบปากคำ โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิที่ผู้ต้องหาพึงได้รับ จากนั้นผู้ต้องหาจะให้การหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาก็เป็นสิทธิของเจ้าตัว

โดย พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำผู้ต้องหา ตามหมายจับสวมสิทธิ์​ส่งออกตีนไก่ให้สาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 3 รายว่า ทั้ง 3 คนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เมื่อถามว่า เขาเกี่ยวข้องกับการส่งออกตีนไก่ไปจีนหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า เขาให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวนของดีเอส​ไอ​ แต่จะขอนำเอกสารมายื่นแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง

ส่วนกรณีที่เฮียเกียรติเป็นอดีตเลขาธิการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์นั้น พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า ทั้ง 2 คนสถานภาพเป็นบุคคลที่ใกล้ชิด แต่ยังไม่ปรากฏว่าใช้คอนเนกชัน​เพื่อทำธุรกิจดังกล่าวหรือไม่ แต่หากใครที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์ความผิด หรืออยากมาแสดงความบริสุทธิ์ก็จะเรียกมา

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า จำเป็นจะต้องเรียกนายเฉลิมชัย มาชี้แจงหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า การสอบสวนต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เราก็จะเรียกมา แต่ตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องเรียกใครมาบ้าง ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่นายเฉลิมชัยจะมีการแถลงข่าว ก็ต้องดูว่าจะแถลงว่าอย่างไร

พ.ต.ต.ยุทธนายังกล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ในทำนองขู่ดีเอส​ไอ​เรื่องการสอบสวนคดีหมูเถื่อน หลังดีเอสไอเตรียมเรียกข้าราชการระดับสูงในกรมปศุสัตว์มาให้ข้อมูลว่า ตนไม่ได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส แต่ยืนยันว่าดีเอสไอ มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อพิสูจน์ความจริง และมองว่าไม่ใช่การขู่ แต่น่าจะเป็นการเตือนมากกว่า ยืนยันเราทำทุกอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง ก่อนจะย้ำว่าคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นความผิดทางอาญา ความผิดทางศุลกากรและการฟอกเงิน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

ต่อมาเวลา 16.10 น. ภายหลังจากที่นายสมเกียรติ เสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาส่งมอบให้คณะพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี  โดยนายสมเกียรติเปิดเผยระหว่างถูกคุมตัวมาสอบปากคำยังห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนว่า ตนไม่มีความกังวลใจใดๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์หรือไม่ เจ้าตัวปฏิเสธการตอบคำถาม

เมื่อถามต่อว่า รู้จักกับนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า หรือไม่ นายสมเกียรติกล่าวว่า ตนขอให้สอบปากคำเสร็จสิ้นก่อน และเมื่อถามว่ามีอะไรที่อยากปฏิเสธหรือไม่ เจ้าตัวระบุชัดเจนว่า ตนบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ จากนั้นเมื่อสอบถามว่าได้ส่งตีนไก่ไปขายจีนจริงหรือไม่ เจ้าตัวปฏิเสธตอบคำถาม และคณะพนักงานสอบสวนได้รีบคุมตัวนายสมเกียรติเข้าห้องสอบปากคำทันที

ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันสร้างหลักฐานเท็จ สวมบัตรประชาชนปลอมให้ลูกชายและลูกสาวของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ  "เฮียเก้า" นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย น้องชายต่างมารดาของอดีตรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีเกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อนรายใหญ่หรือไม่

โดยนายอัจฉริยะกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้อง กับการออกบัตรประชาชนให้ลูกชายและลูกสาวของเฮียเก้าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของลูกชายเฮียเก้าได้ไปเอาชื่อบุคคลที่อยู่ในจังหวัดน่านมาเป็นพ่อแม่ ส่วนลูกสาวของเฮียเก้า ได้ใช้บุคคลในกรุงเทพฯ เป็นชื่อพ่อ ส่วนแม่เป็นคนจีน จึงมาแจ้งความให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่

"สำหรับเฮียเก้านั้นเป็นญาติหรือพี่น้องร่วมสาบานกับอดีตรัฐมนตรีชื่อดัง ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่สามารถมาทำธุรกิจในประเทศไทยได้ แต่อยู่ในประเทศโดยวิธีการต่อหนังสือเดินทางทุก 3 เดือน มีข้าราชการระดับสูงในกลุ่มปศุสัตว์เป็นแบ็กอัปช่วยเหลือในการสวมสิทธิ์หมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อน" นายอัจฉริยะกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง