เมิน‘เสียงค้าน’ โอ่‘ดูไบ-อินเดีย’ สนแลนด์บริดจ์

นายกฯ ปลื้มประชุม WEF   ประสบความสำเร็จอย่างดี เผยคุยประธานจัดงานขอปีหน้าจัดสรรห้องพักให้ไทยเพิ่มขึ้น เพื่อยก รมต.มาเยอะ ลั่นเดินหน้า “แลนด์บริดจ์” ต่อแม้ฝ่ายค้านบอกไม่คุ้มทุน โอ่ “ดูไบ-อินเดีย” สนใจ ชีพจรลงเท้าต่อ เสี่ยนิดขน ครม.ประชุมที่ระนองส่งท้ายเดือนมกราคม 

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum  (WEF) 2024 ตั้งแต่วันที่ 15-19 ม.ค.นี้ว่า  ทั้ง 3 วันได้มีโอกาสเจอนักลงทุนและผู้นำประเทศต่างๆ จากหลายประเทศในทุกมิติ   ซึ่งการประชุม WEF ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีการต่อยอด และความจริงแล้วอยากให้รัฐมนตรีหลายท่านไปด้วย แต่ด้วยเมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิสเป็นเมืองเล็ก หาที่พักลำบากมาก จึงได้พูดคุยกับประธาน WEF ว่าปีหน้าอยากให้มีการจัดสรรห้องพักให้กับประเทศไทยเยอะขึ้น เพื่อจะได้เอารัฐมนตรีไปได้หลายท่าน

เมื่อถามถึงกรณีที่ Sultan Ahmed bin Sulayem ประธานกลุ่มบริษัท และผู้บริหารของบริษัท ดูไบ พอร์ต เวิลด์  (DP World) ให้ความสนใจโครงการแลนด์บริดจ์ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ เขามีความสนใจ เพราะเขาบริหารท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรีอยู่แล้ว และเป็นคนที่กษัตริย์ของดูไบให้ความมั่นใจ ไว้วางใจสูงมาก ก็มีการเชิญมาพูดคุยกันในเดือนหน้าเพื่อไปดูสถานที่ โดยกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ได้พบกับ Mr.Adani ประธานของ Adani Group ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเขาบริหารสนามบินอยู่หลายสนามบินในประเทศอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองรอง ก็เป็นที่ประจักษ์ดีว่าเขาก็อยากบินเข้ามาในเมืองรองของไทยเยอะ ก็ได้พูดคุยตอกย้ำเอกอัครราชทูตอินเดียว่าอยากให้มีการกำหนดระยะเวลาเข้า-ออกของสายการบินเพิ่มมากยิ่งขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ Mr.Adani ให้ความมั่นใจว่าเดี๋ยวจะไปช่วยพูดให้ และจะพยายามเปิดการกำหนดระยะเวลาเข้าในไทยให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้มากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ เขาสนใจมาก เพราะเขาเองกับอินเดียมีการทำเรื่องโลจิสติกส์การเชื่อมต่อตะวันออกกลาง ตรงนี้เป็นการต่อจิกซอว์ในภาพครบ และเข้าใจว่าเดือน ก.พ. Mr.Adani จะเดินทางมาดูพื้นที่จริงด้วย

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านและหลายฝ่ายมองว่าโครงการแลนด์บริดจ์ไม่คุ้มทุน รัฐบาลยังยืนยันเดินหน้าโครงการต่อได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ก็ต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วย หรือให้ข้อคิดเตือนสติรัฐบาล ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันเดินหน้าต่อ

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เปิดกิจกรรม In-store Promotion สินค้าข้าวหอมมะลิพรีเมียมและอาหารไทย ห้าง Ralphs Fresh Fare  โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์, นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และคณะเข้าร่วม

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สถานการณ์การค้าข้าวโลกมีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งทำตลาดข้าว เพื่อเร่งรัดการส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รู้จัก ในฐานะข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อข้าวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกที่มีชาวเอเชียอยู่เป็นจำนวนมาก  มีโอกาสที่จะจำหน่ายสินค้าอาหารไทยสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีให้ไทยส่งออกข้าวไปยังตลาดสหรัฐ

“จากการหารือกับ Mrs.Chris Wong ประธานบริษัท Golden Star Trading Inc.  ผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิและอาหารกระป๋องจากไทยรายใหญ่ มีการนำเข้าข้าวปีละ 60-70 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ขอบคุณที่นำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าจะนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยหากมีปัญหาอุปสรรคอะไรที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือก็พร้อมช่วยดูแลแก้ไขให้” นายภูมิธรรมกล่าว

ส่วนนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายเศรษฐาพร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 1/2567 ณ จังหวัดระนอง ในระหว่างที่ 22-23 ม.ค.2567 ซึ่งการลงพื้นที่ จ.ระนองครั้งนี้ มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน.