‘ประยุทธ์’กำชับ คุมราคา‘สินค้า’ ช่วงงานเทศกาล

นายกฯ กำชับกระทรวงพาณิชย์-สคบ. คุมราคาสินค้าช่วงปีใหม่ ป้องกันฉวยโอกาสขึ้นราคา ดูแลประชาชนใช้จ่ายเต็มที่ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ด้านตำรวจห่วง 10 แก๊งอันตราย เตือนประชาชนให้ระวังอย่าหลงเชื่อ พร้อมแนะวิธีขับรถปลอดภัย และไม่โพสต์โซเชียลฯ ทิ้งบ้านป้องกันถูกยกเค้า

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยคาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ธ.ค. ไปจนถึงช่วงหลังปีใหม่ จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ควบคุม กำกับดูแลราคาสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะรายการสินค้าซึ่งเป็นที่ต้องการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กระเช้าของขวัญ ของฝาก อาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน เช่นเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ที่ประชาชนจะเดินทางไปใช้บริการมากขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้พาณิชย์จังหวัด ตลอดจนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันตรวจตรา การขายสินค้าในสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ขึ้นราคาสินค้าและบริการโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะช่วยเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ได้เป็นอย่างดี

“นายกฯ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อที่ประชาชนจะได้จับจ่ายใช้สอยได้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญการจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะต้องได้คุณภาพ ไม่นำสินค้าเสื่อมคุณภาพ หมดอายุ หรือใกล้หมดอายุมาวางจำหน่วยให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นการค้าขายอย่างไม่เป็นธรรม หากได้รับการร้องเรียนก็อาจได้รับโทษตามกฎหมาย” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในช่วงเวลาปัจจุบันใกล้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ซึ่งพี่น้องประชาชนหลายๆ ท่านจะได้เดินทางไปอวยพรปีใหม่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ออกไปซื้อของขวัญ ไปทำบุญ หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา หลอกลวงทำให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนได้

ขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนในการทำกิจกรรมต่างๆ ในวันหยุดปีใหม่ ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ 10 แก๊งร้าย อันตรายช่วงปีใหม่ ประกอบด้วย 1.แก๊งส่งของขวัญปีใหม่ 2.แก๊งเรี่ยไรทำบุญ 3. แก๊งขายสินค้าราคาถูก 4.แก๊งชุบทองล้างทองรูปพรรณ 5.แก๊งสารพัดช่าง 6.แก๊งชวนเล่นการพนัน 7.แก๊งล้วงและกรีดกระเป๋า 8.แก๊งจัดงานเลี้ยง 9.แก๊งมอมยา 10.แก๊งใช้ธนบัตรปลอม และบัตรเครดิตปลอม ทั้งนี้ หากท่านใดได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งมิจฉาชีพ หรือพบเห็นการกระทำความผิด กรุณารีบแจ้งสถานี ตํารวจใกล้บ้าน

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำหรับในช่วง 7 วันอันตราย นายกฯ ได้มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ไปช่วยดูแลความปลอดภัยการเดินทางของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 จึงต้องการเน้นย้ำ 10 ข้อ ในการขับขี่ปลอดภัย ดังต่อไปนี้ 1.สภาพร่างกายผู้ขับขี่มีความพร้อม พักผ่อนเพียงพอ 2.ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง 3.ศึกษาและวางแผนเส้นทาง เพื่อให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย 4.ดื่มไม่ขับ รวมถึงผู้โดยสารต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์บนรถโดยเด็ดขาด 5.ถึงช้าหน่อยแต่ปลอดภัย ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 6.ใช้อุปกรณ์นิรภัยขณะขับขี่และโดยสาร (หมวก เข็มขัด) 7.ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8.ไม่เปิดเพลงเสียงดัง หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญในทาง 9.หากง่วงนอนหรือเพลีย ให้แวะพัก 10.มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทางบนท้องถนน สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน หากเกิดอุบัติเหตุ หรือขอความช่วยเหลือ นึกถึงตำรวจ โทร. 191 หรือ 1193

พ.ต.อ.หญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร. ระบุว่า ในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว ประชาชนมีการออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวทั่วไทยตามที่ต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก มีการพักค้างแรมโดยทิ้งบ้านที่พักอาศัย ไม่มีคนอยู่บ้านหลายวัน จึงเป็นโอกาสให้มิจฉาชีพหาช่องทางเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านได้โดยง่าย ดังนั้นป้องกันอาชญากรรมการประทุษร้ายต่อทรัพย์ หรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีทางเลือกการป้องกันบ้านตามความสะดวกของแต่ละบ้าน วิธีแรกทำได้ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย คือการจัดสภาพแวดล้อมของบ้านให้เสมือนมีคนพักอาศัยอยู่ในบ้านตลอดเวลา เช่น ปิดเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์บ้าน และไม่ตั้งเสียงแจ้งไม่มีคนอยู่บ้าน ไม่แชร์ข้อมูลทางสังคมออนไลน์ที่อาจคิดได้ว่าท่านไม่อยู่บ้านหลายวัน และจัดการกับตู้รับจดหมายไม่ให้คนเห็นด้านใน

“วิธีต่อมา ท่านอาจลงทุนกับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์คุ้มกันบ้าน เช่น กล้อง CCTV สัญญาณกันขโมย และเหล็กดัดตามประตู หน้าต่าง ช่องลม เป็นต้น ส่วนวิธีสุดท้าย ท่านสามารถใช้บริการฝากบ้านไว้กับตำรวจ โดยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ หรือฝากบ้าน 4.0 ผ่านแอปพลิเคชัน OBSi - Service หรืออาจติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่สถานีตำรวจที่บ้านของท่านตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจนั้นๆ ได้เช่นกัน ทั้งนี้ประชาชนเมื่อพบเหตุด่วนเหตุร้าย หรือเบาะแสอาชญากรรม และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันอาชญากรรมต่างๆ โทร. 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง