"ดีเอสไอ" คุมตัว "วนรัชต์" ทายาททีโอเอส่งตัวอัยการคดีพิเศษ นำตัวฟ้องศาลคดีโกงหุ้น STARK ศาลอาญาไม่ให้ประกัน ชี้คดีเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมมูลค่ามหาศาล เจ้าตัวให้การปฏิเสธต่อสู้คดี คอตกนอนเรือนจำ ตรวจหลักฐาน 10 มิ.ย.นี้ ขณะกลุ่มผู้เสียหายตัวจริงเรียกร้องรับผิดชดใช้ความเสียหาย หากได้รับการเยียวยาครบยินดีแถลงศาลบรรเทาโทษ ลุ้นรับเป็นคดีแบบกลุ่ม
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนดีเอสไอควบคุมตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทายาทตระกูลธุรกิจสีทีโอเอ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวังและความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว, ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้โดยทุจริตฯ
ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41, 343 ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ตามหนังสือด่วนที่สุด ของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามาส่งตัวฟ้องศาล โดยขณะนี้พนักงานอัยการอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารและนำตัวผู้ต้องหายื่นฟ้องศาลอาญา
สำหรับนายวนรัชต์ที่ถูกคุมตัวมาวันนี้โดยรถโรงพยาบาล มีอาการป่วยซีดเซียวต้องนั่งรถเข็น
ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาที่ 2 ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นางณฐิยา ดวงจินดา ผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้นกู้ STARK กว่า 13 ล้านบาท ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายตัวจริง กล่าวว่า นอกจากคดีอาญาที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องไปวันนี้ ผู้เสียหายตัวจริงได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยใช้โจทก์ฟ้องแค่ 3 คน โดยที่เนื้อหาคดีนี้จะครอบคลุมผู้เสียหายครบทุกคนกว่า 4,000 รายให้ได้รับการเยียวยาเท่าๆ กัน เป็นการดำเนินคดีครั้งเดียวแต่จะช่วยผู้เสียหายทุกคน โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับเป็นคดีแบบกลุ่ม (Class Action) หรือไม่ในวันที่ 21 มี.ค.
"เรื่องนี้เป็นความหวังของผู้เสียหายทุกคน เพราะถ้าศาลไม่รับเป็นคดีแบบกลุ่ม ทุกคนต้องไปยื่นฟ้องกันเองแบบแพ่งสามัญ ซึ่งผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย คดีก็จะมีกว่า 4,000 คดีในศาล แล้วที่สำคัญคือมันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีศักยภาพในการฟ้องด้วยตัวเองได้ เพราะบางคนมูลหนี้ไม่มากพอ จะต้องจ่ายเงินค่าวางศาล ค่าทนายความ ก็จะรู้สึกว่ายอมจำนนดีกว่า ไม่สู้ดีกว่า ขนาดเรารวมตัวกันมากขนาดนี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ง่ายที่จะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม แต่เราโชคดีที่เรารวมตัวกันได้เป็นร้อยคน โดยการช่วยเหลือของนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดี Class Action ได้เข้ามาช่วยเหลือโดยที่ไม่คิดเงินเลยแม้แต่บาทเดียว เราอยากให้คดีที่เราฟ้องเองในวันที่ 21 มี.ค. ขอให้ศาลพิจารณารับเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมเท่ากัน"
นางณฐิยากล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากถึงนายวนรัชต์คือ พวกเราผู้เสียหายควรได้สิ่งที่สูญเสียไปคืน อย่างที่ผู้ต้องหาที่ 2 เคยพูดไว้ในศาลว่าเขาเสียใจ และอยากจะชดใช้ให้กับพวกเรา ก็อยากให้คำพูดนั้นเป็นการกระทำขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่พูด จะดีใจมากถ้าคืนเงินให้ ถ้ายอมรับผิดเราก็พร้อมที่จะให้อภัย ถ้ามีการคืนเงินเยียวยาผู้เสียหายครบ เราก็พร้อมจะแถลงต่อศาลให้บรรเทาโทษ ถ้าเกิดเขายอมคืนเงินให้ก็พร้อมที่จะจบคดี ความผิดเกิดขึ้นแล้วเราก็จะไม่ให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเกิดเขารับผิดชอบ และควรกำหนดเวลาว่าเค้าจะชดใช้เมื่อไหร่ ไม่ใช่ 10 หรือ 20 ปีเพราะมันอาจจะเกินอายุของเราไปแล้ว
ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายวนรัชต์ ศาลพิจารณาคำร้องอัยการโจทก์แล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.441/2567 สอบคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 มิ.ย.นี้
ภายหลังจำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


