ส่อเลื่อนเลือก สว. จับตา กกต.ถกทางออกปมศาล รธน.รับวินิจฉัย 4 มาตรา ชี้เดินหน้าได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยงถูกฟ้องโมฆะ-ชดใช้ค่าเสียหาย “ชัยธวัช” กังวลหวั่นได้วุฒิฯ ชุดใหม่ช้า ซัดชุดเก่าเคลื่อนไหวล้มกระดานหวังอยู่ยาว "สมชาย" โชว์หลักฐาน กกต.ปล่อยผีคุณสมบัติผู้สมัครลพบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการประชุมในวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อหารือในประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย 4 มาตรา ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2561 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการเลือก สว. ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่ มีรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่สำนักงาน กกต.จะเสนอให้ กกต.ใช้อำนาจตามมาตรา 35 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 ประกาศเลื่อนการเลือก สว. ที่ระดับอำเภอกำหนดไว้ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน
ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ว่า ประเด็นดังกล่าวมีผู้สมัคร สว.ร้องทั้งต่อ กกต. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และฟ้องคดีต่อศาลปกครอง หาก กกต.ยังคงยืนยันเดินหน้าจัดการเลือก สว. ตามแผนงานเดิมที่วางไว้ ย่อมเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งกับตัวผู้สมัครและ กกต. และอาจนำไปสู่การร้องให้การเลือก สว.เป็นโมฆะได้ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการที่ทั้ง 4 มาตราของกฎหมายดังกล่าว กำหนดวิธีการเลือกว่าผู้สมัคร สว.จะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนมิได้ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ซึ่งจะทำให้ กกต.หนีไม่พ้นถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายเหมือนการเลือกตั้งในอดีต
"ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง สส.เป็นโมฆะ สิ่งที่ตามมาคือการฟ้องร้องหาผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย ทั้ง กกต. สำนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ ต้องสู้คดีกันหลายปี ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นอีก เมื่อขณะนี้ขั้นตอนของการเลือก สว.ยังไม่เกิดขึ้น กระบวนการจัดการเลือกก็ยังอยู่ ผู้สมัครก็ยังถือว่าไม่เสียหาย ดังนั้นถ้า กกต.จะมีมติเลื่อนการเลือก สว. รอศาลวินิจฉัยให้ชัดเจนเสียก่อนก็น่าจะเป็นผลดีกว่า เพราะคาดว่าไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์นับจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากสำนักงานได้รับหนังสือแจ้งจากศาลตั้งแต่ 5 มิ.ย. และกำลังเร่งทำคำชี้แจงส่งกลับไปอยู่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม กกต. ว่าจะเห็นอย่างไร" แหล่งข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานยังจะเสนอต่อ กกต. ถึงแนวทางการเลือก สว.ต่อไป หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทั้ง 4 มาตรา ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ว่าในทางปฏิบัติสำนักงานสามารถเริ่มกระบวนการเลือก สว.ได้ภายใน 7 วัน นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แต่ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการไปแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่ง สว. 2561 เสียก่อน ซึ่งจะใช้เวลานานพอสมควร โดย สว. ชุดปัจจุบัน จะยังคงรักษาการต่อไป
สำหรับมาตรา 35 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กำหนดว่า กรณีที่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ พร้อมกันทั่วราชอาณาจักรตามวันที่คณะกรรมการประกาศกำหนดตามมาตรา 12 (1) อันมิใช่เป็นกรณีตามมาตรา 34 และคณะกรรมการมีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ (5 เสียง) ว่าการดำเนินการเลือกต่อไปตามกำหนดวันเดิม จะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมหรือเรียบร้อย คณะกรรมการฯ จะประกาศกำหนดวันเลือกใหม่ก็ได้ ในกรณีที่มีเหตุตามวรรคหนึ่งเกิดขึ้นในระหว่างเวลาเปิดการลงคะแนน คณะกรรมการฯ จะสั่งยกเลิก การเลือก และประกาศกำหนดวันเลือกใหม่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 7 มิ.ย. สำนักงาน กกต.จะจัดงานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงาน กกต. ครบรอบ 26 ปี โดยสำนักงานได้มีการแจ้งนัดหมายสื่อมวลชนว่า ในเวลา 13.30 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. จะแถลงผลงาน กกต. ซึ่งคาดว่าจะมีการชี้แจงถึงผลการประชุมในกรณีดังกล่าวด้วย
ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ามีข้อกังวล หลังศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เพราะดูเหมือนจะมีปัญหาตลอดรายทาง และอาจจะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการฟ้องร้อง ร้องเรียน จนกระทั่งทำให้การประกาศผล สว. ชุดใหม่เกิดขึ้นอย่างล่าช้า หรืออาจจะถูกล้มไปเลยหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมกังวลอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าเมื่อมีกระบวนการเลือก สว. แล้ว กกต.จะต้องรับรองและประกาศรายชื่อ สว.ชุดใหม่ภายในกี่วันเหมือนกับ สส. เมื่อไม่มีการกำหนดที่ชัดเจนก็หมายความว่าถ้ากระบวนการมีการร้องเรียนเข้ามาแทรก จนทำให้ กกต.ไม่สามารถประกาศรายชื่อได้ ก็เท่ากับว่า สว.ชุดเดิมก็จะเป็น สว.ไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่น่าจะดีมากนัก
นายชัยธวัชกล่าวว่า หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายบังคับใช้มาตั้งนานแล้ว ส่วนที่มี สว.ชุดเดิมเคลื่อนไหวนั้น อาจจะต้องระมัดระวัง เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการที่จะเตะถ่วงที่จะให้ตัวเองอยู่ในอำนาจไปเรื่อยๆ หากจะถามว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ใครก็ต้องโยนความผิดให้ คสช. และคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ป. และระเบียบต่างๆ เป็นผลมาจากการออกแบบรัฐธรรมนูญ จนทำให้กลไกในการได้มาซึ่ง สว. ไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่ต้น ซึ่งถือเป็นต้นทาง
ด้านนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเลือก สว.2567 อาจไม่สามารถประกาศผลในวันที่ 2 ก.ค. 2567 ได้ เพราะ1.มีปัญหากติกาการเลือก คือปล่อยให้คนที่ไม่ใช่ผู้สมัครจริงเข้ามาเลือกคนอื่นได้ ปล่อยให้คนอื่นเข้ามาช่วยแนะนำตัวผู้สมัครได้ และสามารถใช้สื่อแนะนำตัวผู้สมัครเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่นได้ และ 2.ปัญหาการบังคับใช้ กกต.ปล่อยให้คนทำผิดกติกามาสมัครได้ และปล่อยให้กลุ่มการเมืองหรือกลุ่มผลประโยชน์ใดสามารถจัดตั้งคน 2.กลุ่มนี้ทำผิดกฎหมายเลือก สว.
นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอเสนอแนะต่อ กกต. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นควรเร่งด่วนดังนี้ 1.เร่งส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเร่งด่วนภายใน 5 วัน ไม่ต้องขยายเวลา เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายจากการล่าช้า 2.เร่งตรวจสอบผู้สมัครที่เคยเป็นสมาชิกท้องถิ่นที่ลาออกมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ซึ่งมีข่าวว่าอาจมีผู้สมัครบางรายพ้นจากตำแหน่งท้องถิ่นมาไม่ครบ 5 ปี และน่าจะมีรายชื่อหลุดรอดไป 3.เร่งดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน ตัดสิทธิ ดำเนินคดีให้เคร่งครัด ดังตัวอย่างที่ดีของ กกต. ยะลา 4.เร่งตรวจสอบการขาดคุณสมบัติและประสบการณ์ไม่ครบ 10 ปี ของผู้สมัครกลุ่มต่างๆ แบบเดียวกับที่จังหวัดบุรีรัมย์ หากพบว่าขาดคุณสมบัติจริง ต้องดำเนินการตัดสิทธิ ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด
5.เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาจถูกเกณฑ์ ใช้ จ้างวาน หรือรับจ้างให้มาสมัครเพื่อเป็นผู้โหวตเลือก สว. ว่า การกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตัดสิทธิการเมือง 20 ปี และแจ้งให้ผู้รับรองเท็จทราบถึงความผิดตามกฎหมายที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เพื่อให้ประชาชนบางส่วนที่อาจร่วมกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อสืบสวนดำเนินคดีกับผู้บงการใช้จ้างวานให้ถึงขบวนการทั้งหมดต่อไป
นายสมชายยังได้แนบเอกสารประกาศผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เรื่อง บัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 4 กลุ่มสาธารณสุข ปรากฏว่า มีผู้สมัคร 12 คน ระบุอาชีพข้าราชการบำนาญ 1 คน นอกนั้นระบุอาชีพทำนา 8 คน รับจ้าง 2 คน ไม่ได้ทำงาน 1 คน ทั้งนี้ กกต.ประกาศรับรองได้อย่างไร อาจเข้าข่ายละเว้นหรือจงใจละเว้นปฏิบัติหน้าที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 และกฎหมายเลือก สว. งานนี้อาจมีเจ้าหน้าที่ ผู้สมัคร ผู้รับรองติดคุกกันทั่วประเทศ?
ที่สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยอดีตผู้สมัคร สว.ที่ถูกตัดสิทธิเนื่องจากมีปัญหาด้านคุณสมบัติ จำนวน 15 คน เข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม เนื่องจากพบว่ามีหลายประเด็นที่เกิดขึ้นระหว่างการรับสมัครในหลายอำเภอ โดยตัวแทนผู้อดีตผู้สมัคร สว. ระบุว่า ผู้สมัครหลายคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า สว. ย่อมาจากคำว่า สมาชิกวุฒิสภา บางอำเภอมีผู้สมัครบางกลุ่มรับรองกันเองสลับกันไปมา ผู้สมัครหลายคนให้ผู้อื่นเขียนใบสมัครให้ อีกทั้งผู้สมัครบางคนสำรองจ่ายค่าสมัครให้ผู้สมัครคนอื่นๆ ไปก่อน บางอำเภอเจ้าหน้าที่ผู้รับสมัครเป็นคนจัดแจงให้ผู้สมัครลงสมัครในกลุ่มต่างๆ ด้วยตัวเอง จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร สว.ทั้งหมดของ จ.บุรีรัมย์ ให้เสร็จก่อนการเลือก สว.ระดับอำเภอภายในวันที่ 9 มิ.ย. และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างลงสมัคร สว. หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

