นัดถกบอร์ดศก. ปล่อยกู้7หมื่นล. สางหนี้-ซื้อบ้าน

นายกฯ นัดถก "บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ" ครั้งแรก 19 พ.ย.นี้ เตรียมออกมาตรการของขวัญปีใหม่ หารือลุยแจกหมื่นเฟส 2 ครม.ไฟเขียวสินเชื่อ 1.5 หมื่นล้าน ช่วยคนรายได้น้อย-พ่อค้าแม่ค้า-หาบเร่แผงลอย แก้หนี้นอกระบบ พร้อมอนุมัติสินเชื่อ “ซื้อ แต่ง ซ่อม สร้างบ้าน” กระตุ้นอสังหาฯ อีก 5.5 หมื่นล้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน   นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง และหน่วยงานเศรษฐกิจว่า ในวงหารือได้เคาะวันประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วันที่ 19 พ.ย. เป็นครั้งแรก โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  ซึ่งมีวาระที่จะต้องหารือกันหลายเรื่อง ส่วนจะมีโครงการใดบ้างขอไม่บอก ต้องเข้าใจว่าคณะกรรมการนี้ชื่อคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งภาพค่อนข้างใหญ่

ทั้งนี้ ในการประชุมวันดังกล่าว จะได้เห็นชัดเจนว่าการขับเคลื่อนในการเดินหน้าเศรษฐกิจจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน โดยมีกระทรวงการคลังเป็นหลัก ซึ่งจะแยกเป็นรายเซ็กเตอร์ว่ามีเซ็กเตอร์ใดที่จะต้องกระตุ้นเพิ่มบ้าง ซึ่งจะมีโครงการของกระทรวงอื่นๆ เพิ่มอีก เช่น โครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ โดยจะรวบรวมเข้ากับผังกลาง เพื่อให้เห็นภาพว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะไปทิศทางใด ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว นอกจากนี้ ของขวัญปีใหม่ โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะอยู่ภายใต้การหารือของคณะกรรมการชุดนี้ด้วย

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ 2 มาตรการสินเชื่อธนาคารรัฐ เพื่อช่วยสร้างงานแก่พี่น้องประชาชน และกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมวงเงินกว่า 70,000 ล้านบาท โดยโครงการแรกให้ธนาคารออมสินดำเนินสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ วงเงินรวมไม่เกิน 15,000 ล้านบาท สำหรับเสริมสภาพคล่องและบรรเทาหนี้สินประชาชนรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ ลูกจ้าง พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย หรือผู้รับจ้างให้บริการต่างๆ  เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง หรือนำไปชำระหนี้นอกระบบหรือหนี้ดอกเบี้ยสูงที่กู้ยืมมาประกอบอาชีพ โดยให้สินเชื่อรายไม่เกินรายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ 0.75% ต่อเดือน ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ยื่นขอภายใน 30 ธ.ค.2568

ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนได้กว่า 300,000 ราย ซึ่งสินเชื่อนี้รัฐบาลตั้งใจต่อสู้กับสินเชื่อนอกระบบ ในการที่จะดึงสินเชื่อนอกระบบเข้าสู่ในระบบ แม้อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าสินเชื่อในระบบ แต่ต่ำกว่าสินเชื่อนอกระบบเยอะ ซึ่งธนาคารออมสินตัดกำไรในส่วนนี้โดยไม่ของบประมาณภาครัฐแม้แต่บาทเดียว

ส่วนอีกมาตรการที่ ครม.เห็นชอบ เป็นโครงการแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง และการแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อซ่อม-แต่ง ภายใต้มาตรการสินเชื่อซื้อ-ซ่อมสร้าง ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงินรวมกว่า 55,000  ล้านบาท เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตต่อเนื่อง รองรับความต้องการมีบ้านของประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และสามารถใช้เพื่อซ่อมแซมต่อเดิมบ้าน อีกทั้งเป็นการต่อยอดจากมาตรการสินเชื่อแฮปปี้โฮมและแฮปปี้ไลฟ์ของ ธอส. ที่ประชาชนให้ผลตอบรับดีและเพิ่งหมดไป

นายเผ่าภูมิกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย สินเชื่อซื้อ-สร้าง  ดอกเบี้ยพิเศษ 5 ปี วงเงินสินเชื่อรวม 50,000 ล้านบาท กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 3% เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือคอนโดมิเนียม ปลูกสร้างบ้าน หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อใช้ในการอยู่อาศัย ขณะที่สินเชื่อซ่อม-แต่ง ดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปี วงเงินสินเชื่อรวม 5,000 ล้านบาท กู้ไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นสินเชื่อเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย.