"เสรีพิศุทธ์" ให้ข้อมูล ป.ป.ช.เพิ่ม ย้ำคำเดิม "ทักษิณ" ไม่ได้ป่วยวิกฤต หากวิกฤตต้องอยู่ห้องไอซียู ส่วนชั้น 14 รพ.ตร.คือผู้ป่วยที่ออกจากไอซียูและหายวิกฤตแล้ว พร้อมนัดลงพื้นที่ร่วม ป.ป.ช.บุกตรวจชั้น 14 แนะเจ้าหน้าที่เชิญ "นายกฯ" พร้อมครอบครัวเข้าให้ข้อมูลด้วย มั่นใจผู้เกี่ยวข้อง 12 คน รวมทั้งทักษิณ-รมต.ต้องติดคุก "ศาลฎีกาฯ" เลื่อนฟังคำสั่งคดีชั้น 14 ชี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ ด้านพ่อนายกฯ ควง “แพทองธาร-พานทองแท้” ร่วมทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่
เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า มาให้การเพิ่มเติมจากครั้งก่อนที่เคยให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากหลายแหล่ง รวมถึงความเห็นจากแพทยสภา เบื้องต้นนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช.จะมาสอบปากคำตนด้วยตัวเอง เนื่องจากครั้งที่แล้วไม่มีกรรมการมาสอบ คาดว่าคงจะดูประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สำหรับข้อมูลที่เตรียมนำมายื่นเพิ่มให้ ป.ป.ช.วันนี้คือเวชระเบียน เพื่อเป็นแนวทางในการสอบหาข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้ แต่อาจนำระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับเวชระเบียนผู้ป่วยใน-ผู้ป่วยนอก ซึ่งเป็นหลักการทั่วไปที่ใครก็สามารถตรวจดูได้ อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.มีกฎหมายว่าหากไม่ส่งเวชระเบียนจะมีความผิด แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะดำเนินการใดๆ กับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ส่วนตัวมองว่าควรต้องบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง
ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่า การที่ทักษิณจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งใบเสร็จสามารถใช้ยืนยันได้ว่าทักษิณรักษาอาการป่วยจริง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ใบเสร็จที่ไหนก็มี ประเด็นอยู่ที่ว่าป่วยวิกฤตหรือไม่ หากไม่ได้ป่วยวิกฤตจะส่งไปโรงพยาบาลตำรวจได้อย่างไร
ภายหลังเข้าให้ข้อมูล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เปิดเผยว่า มีการยืนยันคำให้การเดิม และเพิ่มเติมกรณีที่ขึ้นไปชั้น 14 รวมถึงเวชระเบียน เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว อย่างตนป่วยก็อธิบายการป่วยของตนว่า การป่วยวิกฤตมีหมอสมอง หมอหัวใจ หมอปอดจะเข้ามาตรวจหมด เพราะไม่รู้ว่าที่อาการวิกฤตนั้นมาจากอะไร ทำให้หมดด้านต่างๆ ต้องเข้ามาตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด จนกว่าจะรู้สาเหตุของอาการวิกฤต และจะบันทึกไว้ในเวชระเบียนทั้งหมด สมมติหากสาเหตุมาจากปอด หมอด้านอื่นๆ ก็ถือว่าพ้นหน้าที่ตรงนั้น แต่การเข้ามาตรวจสอบแล้วย่อมมีบันทึกไว้ในเวชระเบียน ส่วนการรักษาต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของหมอปอด และจะเข้ามารักษาพร้อมบันทึกอาการและให้การรักษาต่อไป จนกระทั่งหายป่วยออกจากโรงพยาบาลได้
"อาการของคนป่วยวิกฤต ผมยกตัวอย่างผมป่วยไปนอนโรงพยาบาลอยู่ 20 กว่าวัน มวลกล้ามเนื้อก็หมด คนเราถ้าไม่ได้เดินเหินไปนู่นมานี่สัก 7 วัน 10 วันกล้ามเนื้อก็แย่แล้ว หมอต้องพาผมเดิน เพื่อให้มวลกล้ามเนื้อกลับมา กลับบ้านแล้วก็ต้องออกกำลังกาย ส่วนการไปชั้น 14 ของคุณทักษิณที่อ้างว่าวิกฤต พอไปถึงโรงพยาบาลแล้วจะส่งขึ้นไปที่ชั้น 14 เลยไม่ได้หรอก ชั้น 14 นั่นคือผู้ป่วยที่ออกจากไอซียูแล้ว หายป่วยวิกฤตแล้วถึงจะไปพักชั้น 14 แต่ของคุณทักษิณบอกว่าป่วยวิกฤต แต่พอไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว หมอสมอง หมอหัวใจ หมอปอดต้องมาตรวจใหม่หมดให้รู้ว่าวิกฤตจากอะไร ต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องอยู่ที่ห้องไอซียู ไม่ใช่ส่งไปชั้น 14 แต่นี่มาถึงปุ๊บส่งขึ้นไปเลย ก็แสดงว่ามันไม่วิกฤต" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
ฟันธงติดคุกยกก๊วน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังได้ชวนตนให้ร่วมลงพื้นที่ไปดูชั้น 14 รพ.ตำรวจด้วย ซึ่งตนก็ตอบตกลงเพราะต้องการให้ความถูกต้องเกิดขึ้น อยู่ระหว่างรอนัดหมายว่าเป็นวันเวลาใด ตนยินดีที่พาไปจะไปชี้ห้องให้ ทั้งนี้แม้เวลาผ่านไปนานแล้ว ยืนยันว่าอะไรๆ ไม่เปลี่ยน ห้องไหนๆ ก็เหมือนกัน
"หมดเลย คือ 12 คนที่ถูกกล่าวหา รวมไปถึงรัฐมนตรีและนายทักษิณด้วย" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบคำถามที่ว่าคิดว่าจะเอาใครติดคุกได้บ้าง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวด้วยว่า ตนยังแนะนำไปว่าในช่วงที่นายทักษิณเข้าโรงพยาบาลใหม่ๆ กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ครอบครัว 10 คนเข้าเยี่ยมได้ จึงขอให้ ป.ป.ช. เชิญบุคคลในครอบครัวทั้ง 10 คน ตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พี่ น้อง ใครมีชื่อเยี่ยมให้เชิญมาสอบปากคำทั้งหมด ระหว่างที่นายทักษิณอยู่โรงพยาบาลนั้น มีการไปเยี่ยมอย่างไร อาการเป็นอย่างไร ดูว่าจะมีการโกหกหรือไม่ ทั้งนี้เพราะการรวบรวมพยายานหลักฐานก็เอาให้ได้ทุกทาง แต่ไม่ทราบว่าจะมีการเชิญคนเหล่านี้มาให้ข้อมูลหรือไม่
วันเดียวกัน สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งกรณีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ ดำเนินการไต่สวนและออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาขังไว้ตามหมายของศาลฯ เนื่องจากที่ผ่านมานายทักษิณไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา และถูกส่งตัวไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ
ด้านนายชาญชัย ในฐานะผู้ยื่นคำร้อง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า วันนี้ (27 ม.ค.) ศาลฯ นัดฟังคำสั่งคำร้องในคดีทักษิณนอนพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยศาลฯ อ่านคำสั่งว่าคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการ จึงให้เลื่อนฟังคำสั่ง และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติมแล้ว ศาลฯ จะแจ้งให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมในภายหลัง โดยไม่ได้ระบุว่าจะมีคำสั่งในวันใด และยังห้ามไม่ให้ผู้ร้องเผยแพร่หรือถ่ายภาพคำร้องใดๆ เพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
“ศาลฯ บอกว่าคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ให้เลื่อนฟังคำสั่งในวันนี้ (27 ม.ค.) และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติมที่จะแจ้งให้ทราบ ให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมทีหลัง โดยไม่ให้เผยแพร่คำร้อง เพราะว่ายังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี” นายชาญชัย กล่าว
พท.โยน รบ.ประยุทธ์ส่งไปชั้น 14
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานสส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการพักรักษาตัวนายทักษิณว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่มีนักร้องจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการพิสูจน์เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน การพักรักษาตัวของนายทักษิณที่ชั้น 14 ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่ไปในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกฯ และมีนายวิษณุ เครืองาม ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ทำหน้าที่ส่งไป และเป็นไปตามขั้นตอนไม่น่าหนักใจอะไร
“นายวิษณุ ฐานะมือกฎหมายคงจะพิจารณารายละเอียดเป็นอย่างดี การตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียนนั้นเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์ของกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้สบายใจได้ ไม่มีเขย่าขวัญรัฐบาล เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นนายกฯ” นายวิสุทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า แต่นายทักษิณรักษาตัวที่ชั้น 14 ในช่วงสมัยรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์กล่าวว่า “พอเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแล้วต้องเอาออกหรือ ซึ่งการรักษาตัวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามความเห็นของแพทย์ที่รักษา ดังนั้นเรื่องนี้ไม่น่าหนักใจอะไร ให้เป็นไปตามขั้นตอน”
วันเดียวกัน เวลา 07.30 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) ถ.วิภาวดีรังสิต ได้มีการจัดพิธีทำบุญเปิดที่ทำการพรรคอย่างเป็นทางการ โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาด้วยรถยนต์พอร์ช ทะเบียน จจ 267 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลืองและสูทสีกรมท่า โดยมีบรรดารัฐมนตรี สส.และสมาชิกพรรค ให้การต้อนรับ จากนั้นเวลา 07.50 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคด้วยชุดสูทสีแดง ก่อนเข้าไปสวมกอดพร้อมหอมแก้มนายทักษิณ
จากนั้นนายทักษิณพร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และนายปิฎก พร้อมด้วยรัฐมนตรีพรรค พท. รวมถึงกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกสมาชิกพรรค ร่วมทำพิธีไหว้ศาลพระภูมิชัยมงคลบริเวณด้านหน้าอาคารพรรค
จากนั้นนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้เข้ามาบริเวณด้านในอาคาร ที่จัดเตรียมไว้เป็นสถานที่ทำพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ โดยได้นิมนต์พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และพระสงฆ์จากวัดต่างๆ รวม 9 รูปมาทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากเสร็จสิ้นพิธี พระพรหมสิทธิได้มาเจิมป้ายพร้อมพรมน้ำมนต์ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนายทักษิณพร้อมด้วย น.ส.แพทองธารได้ขึ้นไปเยี่ยมชมบริเวณด้านบนที่ทำการพรรค และลงมาถ่ายภาพร่วมกันบริเวณด้านหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้เป็นตัวแทนพรรคเดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีด้วย
สำหรับกำหนดการของนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ.ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ. โดยในวันที่ 29 ม.ค.จะเดินทางไป จ.เชียงราย เพื่อช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงรายหาเสียงในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่หาเสียง และพักที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อจะเดินทางไป จ.ลำพูนในวันรุ่งขึ้น
ขณะที่วันที่ 30 ม.ค. นายทักษิณจะเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยที่สำนักงานอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน (ศูนย์ฝึกปิงปอง อนุสรณ์ลำพูน) เพื่อช่วยนายอนุสรณ์ และจะเดินทางกลับไปยังตลาดวโรรส อ.เมืองเชียงใหม่ โดยจะมีการเดินตลาดเพื่อช่วยนายพิชัยหาเสียง และปิดท้ายเวทีปราศรัยในเวลา 16.00-18.00 น. ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ ถือว่าจบภารกิจช่วยหาเสียงโค้งสุดท้ายของนายทักษิณ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


