แตะทักษิณเจอฟ้อง พท.อ้างคนนอกห้ามซักฟอก พันธุ์ใหม่ปลุกสภาสูงแก้รธน.

“ภูมิธรรม-ชูศักดิ์” ประสานเสียงขู่ บอกอภิปรายพาดพิงนายใหญ่เจอฟ้องแน่ เพราะเป็นคนนอกไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง “เสรีพิศุทธ์” เฉลยซองยื่นให้ฝ่ายค้านแค่กิมมิก ข้องใจนั่งที่ปรึกษานายกฯ มาเลย์เพราะทุ่มเงินให้พรรคอันวาร์หวังสร้างภาพ “รมต.ประจำสำนักนายกฯ”  เชื่อถกแก้รัฐธรรมนูญไปสักพักจะมีผู้วิตกกังวลชงญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ “สว.พันธุ์ใหม่” ปลุกสภาสูงโหวตแก้ รธน. พร้อมทวงท่าทีอุ๊งอิ๊ง

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า อยู่ที่ประเด็น หากคิดว่ารัฐบาลมีจุดบกพร่องตรงไหนก็ดูตามประเด็น หากไม่มีประเด็นอะไรจะใช้เวลาแค่วันเดียวคงพอ แต่หากมีประเด็นที่จะอภิปรายเราไม่มีปัญหา จะใช้เวลากี่วันก็ได้ ดูตามความจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายครั้งนี้ดูเหมือนมุ่งประเด็นไปที่คนนอก คือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจคือให้อภิปรายรัฐบาล มีข้อวิจารณ์หรือข้อแนะนำอะไรให้รัฐบาล ไม่ใช่อภิปรายใครก็ทำได้ เพราะมีกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับสภากำหนดอยู่ ขอให้ฝ่ายค้านตรวจสอบทบทวนให้ดี ถ้าไปอภิปรายคนนอก ข้อบังคับสภาและกฎหมายไม่ได้คุ้มครอง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอเวลาอภิปราย 5 วันว่า เท่าที่มีประสบการณ์มาไม่มีหรอก 5 วัน เต็มที่ไม่เกิน 2-3 วัน แต่สุดท้ายก็ขึ้นกับวิปจะตกลงกัน แต่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลาถึง 5 วัน

ถามถึงกรณีฝ่ายค้านจะอภิปรายพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้รับการคุ้มครองจากสภาอยู่แล้วเพราะเป็นคนนอก และข้อบังคับสภาก็ห้ามพูดถึงบุคคลภายนอก

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณถูกพาดพิงสามารถฟ้องร้องฝ่ายค้านได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ยอมรับว่า แน่นอนฟ้องได้ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เช่นนั้นนายทักษิณจะสามารถเข้าไปนั่งหลังบัลลังก์ประธานสภาได้หรือไม่ นายชูศักดิ์หัวเราะพร้อมระบุว่า ก็รู้อยู่แล้ว ท่านจะเข้าไปได้อย่างไร

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณกล่าวเหน็บแนมคนยื่นข้อมูลชั้น 14 ให้ฝ่ายค้านใช้ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คุณทักษิณเห็นตนถือซอง ในซองมีอะไรไหม คุณทักษิณเห็นหรือเปล่า ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผยหรือไม่เปิด ในเรื่องคดีความต่างๆ ควรเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวนของ ป.ป.ช.หรือแพทยสภา ไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก ร้องเพื่อทำกิมมิก ก็ทำไปแค่นั้นเอง

“คุณทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และก็ไม่ได้เป็นพลตำรวจหญิงหนิ เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับผม แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต ผมสู้เขาไม่ได้หรอก”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ย้ำว่า เรื่องที่ไม่ควรเปิดเผยก็ไม่ได้เปิด เปิดเผยกับผู้ที่รับผิดชอบเท่านั้น คุณลองไปถามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าของสถานที่ เช็กดูก็ได้ เพราะคุณสุดารัตน์ เตรียมซองให้ด้วยซ้ำไป ไม่ได้มีอะไรหรอก คุณทักษิณคิดด้วยอารมณ์ ทำไมไม่ตอบผู้สื่อข่าวเรื่องชั้น 14 เป็นอย่างไร มาอึกอักทำไม ก็ตอบความจริงไปสิ ป่วยไม่ป่วย

เสรีพิศุทธ์ข้องใจนั่งที่ปรึกษา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับนายทักษิณไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว ที่ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ มาเลเซีย จ้างเขาหรือเปล่าเนี่ย เอาเงินไปสนับสนุนพรรคอันวาร์หรือไม่ ขอเขาทำหนังสือมาหน่อย เป็นที่ปรึกษา ภาพจะได้ดูดี หลอกลวงชาวบ้านไปเรื่อย เรื่องโรงพยาบาลก็หลอก เรื่องนี้ก็หลอก

ส่วนเรื่องที่ไม่แมน อย่างที่ลูกพรรคบอกว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนสมรสเท่าเทียม แต่ยังมาบูลลีเรื่องเพศ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า มันเรื่องของเขา คงไม่มีทางออก อัดอั้นตันใจ ไม่รู้จะทำอะไรกับตน เพราะอยู่ในพรรคยิ่งใหญ่เหลือเกิน ไม่ใช่พรรคหรอก แต่เป็นบริษัทเพื่อไทย คุณจ้างคนมาทั้งนั้น กินเงินเดือนคุณทั้งนั้น สส.เพื่อไทยกินเงินเดือนทักษิณทั้งนั้น

สำหรับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีออกมามากในช่วงเวลานี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มาจากสื่อ ฟังครั้งแรกก็มาจากที่สื่อเสนอ ส่วนคนมีอำนาจปรับจริง คือนายกฯ และยังไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นสื่อควรเริ่มต้นจากฐานข้อมูลที่เป็นจริง หากวิเคราะห์ก็วิเคราะห์ไป แต่ถ้ามาถามพวกเรา บอกได้ว่าเราไม่มีปัญหาอะไร

นายชูศักดิ์กล่าวเช่นกันว่า ได้ยินเพียงจากสื่อ ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ส่วนเวลาการทำงาน 6 เดือนเพียงพอจะปรับ ครม.หรือไม่นั้น ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เป็นเรื่องดุลยพินิจของนายกฯ ได้ยินเพียงจากสื่อ และเข้าใจว่าสื่อวิเคราะห์กันไปเอง

เมื่อถามว่า หากพรรคกล้าธรรม (กธ.) เสนอ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษา เข้ามาเป็นรัฐมนตรี จะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ตัวบุคคลได้ และไม่อยากก้าวล่วง เพราะ 1.จะปรับ ครม.หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ส่วน 2.ตัวบุคคลเราไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะเราไม่ใช่คนที่มีอำนาจชี้ขาด

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากตั้ง ร.อ.ธรรมนัส จะซ้ำรอยการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายชูศักดิ์กล่าวว่า อยู่ที่คนตั้ง อยู่ที่คนพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะปรับ ครม.เลย ต้องปล่อยให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เขาตัดสินใจ

“ต้องทำรัฐธรรมนูญให้เคลียร์ ทุกอย่างจะจบเพราะมีมาตรฐาน อะไรคือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตราบใดที่ประเด็นนี้ไม่เคลียร์ก็เถียงกันได้ตลอด จึงอยากถามว่าหากยังไม่มีเกณฑ์มาตรฐาน ใครจะเป็นคนวัด” นายชูศักดิ์กล่าวตอบข้อถามที่่ว่า ในฐานะทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ต้องมีคำแนะนำเรื่องการพิจารณาคุณสมบัติของรัฐมนตรีหรือไม่

วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา กล่าวถึงข้อกังวลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจมีผู้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลยหรือไม่ หรือต้องทำประชามติก่อน ว่าเป็นเรื่องของความเห็น ไม่ทราบว่าจะส่งให้ศาลตีความในประเด็นใด มาจากกลุ่มไหน หากมาจากสมาชิกรัฐสภาต้องมีผู้เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 40 คน และประธานรัฐสภาต้องหารือในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ว่าจะมีผู้เห็นด้วยให้ประธานส่งไปให้ศาลตีความหรือไม่ หากเสียงข้างมากเห็นว่าควรส่ง ประธานก็ส่งไปยังศาล

'วันนอร์' ยันเดินหน้า

 “ควรบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระและพิจารณาในที่ประชุม เพราะก่อนหน้านี้ได้นำเอาญัตติทั้ง 2 ไปหารือในที่ประชุมของที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของประธานสภาแล้ว เสียงข้างมากเห็นว่าบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาได้” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ยืนยันว่า ได้ใช้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะส่งให้ศาล ศาลบอกว่าเรื่องยังไม่เกิด อำนาจการบรรจุญัตติเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา เรื่องยังไม่บรรจุจะไปถามศาลทำไม นอกจากนี้ยังถามศาลไปควรทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง ศาลบอกให้วินิจฉัยเอาเอง ดังนั้นจึงตีความว่า การที่จะให้รัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญก็ต้องถามมติจากรัฐสภา ดังนั้นต้องมีการประชุม ถ้าวาระแรกในชั้นรับหลักการต้องเสียงข้างมากเห็นชอบมากกว่า 1 ใน 3 แล้วฝ่ายวุฒิสภาก็ต้องมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเสียงก็ต้องเกิน 1 ใน 3 คือ 67คนขึ้นไป หากคนไม่เห็นด้วยเกินกว่า 1 ใน 3 ถือว่าญัตติก็ต้องตกไปในวาระแรก ก็ไม่ต้องไปถามประชามติจากประชาชนแล้ว แต่หากวาระแรกผ่าน แสดงว่าต้องการแล้ว ก็หยุดกระบวนการของรัฐสภา แล้วนำความต้องการไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทำประชามติต่อประชาชน ว่าจะเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ ในมาตรา 256 และหมวด15/1 ถ้าประชาชนเห็นด้วยก็เดินหน้าต่อ แต่หากไม่เห็นด้วยก็ยุติทั้งหมด จะได้ไม่ต้องเสียเงินทำประชามติหลายรอบ การทำประชามติครั้งหนึ่งใช้เงิน 3 พันล้านบาท หากเราถามประชาชนก่อน ประชาชนบอกเห็นด้วย แต่มาประชุมรัฐสภา รัฐสภาบอกไม่เอาด้วยก็เสียเงินไป 3 พันล้านเปล่าๆ ที่เอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ

ในขณะที่นายชูศักดิ์กล่าวว่า เชื่อว่าในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 13-14 ก.พ.จะมีการอภิปรายไปสักพักหนึ่ง และอาจมีผู้ลุกขึ้นมาโต้แย้ง ในประเด็นการบรรจุวาระนั้นถูกต้องหรือไม่ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมไปถึงสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งอาจมีการเสนอญัตติและทำคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 และตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 31 เพื่อเข้าชื่อจำนวน 40 คน เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติกี่ครั้ง

 “ยอมรับว่าหลายภาคส่วนมีความวิตกกังวล จึงอยากให้ดำเนินการในแนวทางนี้ ซึ่งมีทั้งวุฒิสภาและพรรคการเมือง โดยได้ยินมาจะเสนอญัตติในทำนองนี้ แทนที่นำไปสู่การโหวตเลย ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียก่อน เพราะโหวตเลยสมมติว่าอาจไม่ผ่านก็เสียของไปเลย แต่หากไปศาลก่อนก็เป็นการเคลียร์คัตกันเสียให้เรียบร้อยก่อน ว่ามีความแน่นอนเป็นอย่างไร จะต้องทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง” นายชูศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงกรณีนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่เสนอว่าหากมีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไป นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นความเห็นทางกฎหมาย แต่ความเห็นบางเรื่องมันเกินไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเสนอญัตติ ใช้อำนาจหน้าที่สมาชิกรัฐสภาในการพิจารณากฎหมาย และประธานก็เปิดโอกาสให้มีการบรรจุวาระและพิจารณากันไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีการผิดกฎหมายแต่อย่างใด

สว.พันธุ์ใหม่ปลุกโหวตแก้ รธน.

ด้านกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส กล่าวว่า เราเห็นด้วยกับการทำประชามติ 2 ครั้ง คือครั้งแรกภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยให้ประชาชนลงมติว่าเห็นด้วยกับวิธีการที่จะได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ และเมื่อ ส.ส.ร.ร่างเสร็จเรียบร้อย จึงจัดประชามติครั้งที่ 2 เพื่อถามประชาชนว่ารับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชน และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณจนเกินไป

กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ยังกล่าวถึงกรณีที่ สว.ตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะการแก้รัฐธรรมนูญได้นั้นต้องใช้เสียง สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ว่า อยากเชิญชวน สว.ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตยมาร่วมโหวต เพื่อผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วยกัน ให้เราได้กติกาตามประชาธิปไตย ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชนและเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้

ขณะเดียวกันที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) รับหนังสือจากกลุ่มคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ขอให้ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ เพื่อให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเข้ามาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

คณะรณรงค์ฯ เผยว่า ได้เปิดแคมเปญลงชื่อทางออนไลน์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภารับร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอเข้ามา จัดกิจกรรมของประชาชนบริเวณรัฐสภา วันที่ 13-14 ก.พ. จะมีการเดินขบวนมาที่รัฐสภาเพื่อติดตามการลงมติ มีเวทีพูดคุยสาธารณะ และปราศรัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี