ครม.ทุ่มงบหนุนภาคใต้ NGOห้ามเอื้อทุนผูกขาด

นายกฯ ร่อนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชาวบ้านต้อนรับมาให้กำลังใจลูกสาวทักษิณ บอกพร้อมทำงานไม่เลือกพื้นที่ ครม.เตรียมทุ่มงบฯ กว่า 700 ล้านฟื้นฟูน้ำท่วม-อนุรักษ์พันธุ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา “อิ๊งค์” เล็งเคลียร์พื้นที่เรดโซนดูดนักท่องเที่ยว ด้านเอ็นจีโอใต้รวมพลเปิดเวทีประเดิมคว่ำ SEC จ่อยื่นหนังสือเรียกร้องถึงมือนายกฯ ขีดเส้นแผ่นดินด้ามขวานต้องไม่มีกฎหมายพิเศษเอื้อทุนผูกขาด

เมื่อวันจันทร์ เวลา 09.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานตรัง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยเมื่อมาถึงเด็กนักเรียนโรงเรียนมิตรภาพที่ 31 (วัดทุ่งหวัง) มารอต้อนรับ พร้อมมอบไม้แกะสลักพะยูน สินค้าประจำจังหวัดตรังให้นายกฯ ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้เด็กๆ ด้วย

จากนั้นนายกฯ เดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปยัง จ.พัทลุง  เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สุราษฎร์ธานี และสงขลา) ณ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดแรกเวลา 13.00 น. ที่ จ.พัทลุง นายกรัฐมนตรีตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ณ บริเวณจุดชมวิวทะเลน้อย  อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นอกจากนี้ยังมี สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายถนอมพงศ์ หลีกภัย เขต 1 จ.ตรัง และนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร เขต 2 จ.พัทลุง รวมถึงนายชัชวาลล์ คงอุดม ที่ปรึกษาพรรค รทสช.ให้การต้อนรับ

เมื่อมาถึงตัวแทนชาวบ้านได้มอบหลวงปู่ทวดปลุกเสก 9 วัด และเอกสารสมาคมคลองไทยเพื่อศึกษาและพัฒนาพื้นที่ให้แก่นายกฯ พร้อมกล่าวให้กำลังใจว่า “มาให้กำลังใจลูกทักษิณให้อดทนอดกลั้นสู้ๆ”

ด้านกำนันในพื้นที่ระบุว่า คาดหวังว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ จะมีการพัฒนาเหมือนกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยลงพื้นที่เมื่อปี 2547 โดยนายกฯตอบกลับว่า “20 ปีมาแล้ว ต้องดูสภาพพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหน ถ้ามีความเหมาะสม ทำได้ก็ทำทุกที่ ไม่เลือกพื้นที่” โดยนายกฯ จะรับชมการแสดงนาฏยลักษณ์แห่งศรัทธา โนราตัวอ่อน จากเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดท่าแค จ.พัทลุง และรับฟังการบริหารจัดการน้ำทะเลสาบสงขลา (ทะเลน้อย)

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้กล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า "สวัสดีค่ะ แหลงใต้ไม่เป็น ยังรักอยู่ไหมเนี่ย" ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนมาพื้นที่ภาคใต้ ครม.ได้ทำการบ้านเกี่ยวกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ ที่พี่น้องพัทลุงเจออยู่ แต่คนในพื้นที่รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุด เพราะฉะนั้นวันนี้ทำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และอะไรสามารถเพิ่มรายได้ให้พี่น้องประชาชนบ้าง เพราะถ้าประชาชนรวยรัฐบาลก็แข็งแรงไปด้วย วันนี้ดีใจที่ได้มาฟังเองและต้องขอบคุณมากๆ ที่ยังนึกถึงนายทักษิณว่าเคยมาและสร้างประโยชน์

ต่อมาเวลา 14.05 น. ระหว่าง น.ส.แพทองธาร  เดินทางด้วยขบวนรถยนต์จาก จ.พัทลุงไปยัง จ.สงขลา นายกฯ ได้แวะบริเวณจุดพักรถสะพานเอกชัย หรือสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จ.พัทลุง เพื่อชมวิถีการเลี้ยงควายน้ำ จากนั้นเวลา 16.45 น. นายกฯ ไปเยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลา และชมวิวปากน้ำทะเลสาบสงขลา ทั้งนี้ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาได้เสนอรัฐบาลให้แก้ปัญหาเรื่องเรดโซน (พื้นที่สีแดง) เนื่องจากที่ผ่านมา จ.สงขลาเคยมีปัญหาเรื่องความไม่สงบ จนบริษัทประกันภัยไม่คุ้มครองนักท่องเที่ยวที่มาในพื้นที่ จ.สงขลา แต่ขณะนี้ ผวจ.สงขลาระบุว่า พื้นที่สงขลาปลอดภัยแล้ว จึงอยากให้ออกมาตรการเช่นพื้นที่เขตธุรกิจใหม่ ออกกฎหมายเพื่อให้มีมาตรฐานตามสากล  ยกเว้นเรื่องภาษีต่างๆ และจัดอีเวนต์ดึงดูดนักท่องเที่ยว

ด้านนายกฯ กล่าวว่า เห็นแล้วว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก และคุยกับรองนายกฯ ว่าการท่องเที่ยวแบบลักชัวรีและเรือครูซ แบบจังหวัดภูเก็ตที่รับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ให้แวะเวียนมารับและส่งนักท่องเที่ยวที่ จ.สงขลาด้วย

 “อีกอย่างถือเป็นประเด็นที่ต้องไปเคลียร์เรดโซน ถ้าเราไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องดูเรื่องของประกันให้ครอบคลุมไปด้วย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้วและได้ยินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีข้อมูลอะไรขอให้ส่งมา เราจะช่วยกัน ภาครัฐและภาคเอกชนถ้าร่วมมือกันคิดว่าสงขลาไปได้อีกไกลแน่นอน” นายกฯ ระบุ

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขออนุมัติงบประมาณในการประชุมครม.สัญจร จ.สงขลาว่า ในเรื่องของการอนุมัติงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดย จ.สงขลาจะมีงบประมาณฟื้นฟูสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกรณีน้ำท่วมเมื่อเดือน พ.ย. 67 วงเงิน 302 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ประมาณจังหวัดละ 100 ล้านบาท ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการคืนพื้นที่ถนนหนทาง สร้างเขื่อนริมคลองต่างๆ ที่ชำรุดเสียหาย

ทั้งนี้ ในส่วน จ.สงขลาจะมีการสนับสนุนการท่องเที่ยว  การอนุรักษ์ทางธรรมชาติ โดยจะพิจารณางบงบประมาณ 402 ล้านบาท เพื่อดูแลโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา  โดยเป็นแผนระยะ 5 ปี ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาอิรวดี นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.จะพิจารณาเรื่องการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่จบมัธยมปลายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

นายจิรายุกล่าวว่า ภายหลังการประชุม ครม.ในวันที่ 18 ก.พ. น.ส.แพทองธารจะติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของประเทศมาเลเซีย ที่ด่านศุลกากรสะเดา จ.สงขลา โดยด่านสะเดาแห่งใหม่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. กล่าวว่า ในฐานะ สส.คนใต้ตนขอฝากให้นายกฯ และ ครม.เดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) ครอบคลุม 4 จังหวัด นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร และระนองให้เกิดขึ้น ควบคู่กับการเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามันด้วย

วันเดียวกัน ที่หน้าตึกคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ จัดกิจกรรมวงถกแถลงต้อนรับ "ครม." สัญจร แผ่นดินใต้ต้องไม่มีกฎหมายพิเศษ SEC เอื้อทุนผูกขาด โดยทีมนักวิชาการในพื้นที่และภาคประชาชน อาทิ ผศ.สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ นายบรรจง นะแส ที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) ก่อนที่จะไปยื่นหนังสือต่อ น.ส.แพทองธารในช่วงเช้าวันที่ 18 ก.พ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง