“นายกฯ อิ๊งค์” ลั่น "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ไม่จบไม่เลิกต้องให้หมดไปจากประเทศไทย เผย 28 ก.พ.ลงพื้นที่สระแก้วด้วยตัวเอง “ภูมิธรรม” รายงานใน ครม.แย้มลงดาบ ขรก.เอี่ยวอีกระลอก รับกังวลผึ้งแตกรังทะลักเข้าไทย หลังกลุ่มกะเหรี่ยงเมียนมาบอกอาจดูแลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 7,000 คนไม่ไหว เร่งประสานสถานทูตส่งกลับ “โรม” จี้อัยการขอศาลออกหมายจับ "หม่อง ชิตตู" กับพวกขบวนการค้ามนุษย์
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 กุมภาพันธ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีการรายงานเรื่องการปิดพื้นที่ชายแดน 14 จังหวัด โดยมีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก ได้รับความร่วมมือจากจีนและเมียนมาเป็นอย่างดี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) รายงานการรื้อถอนเสาสัญญาณบริเวณชายแดน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจัดการอย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน เมียนมา กัมพูชา เราทำอย่างจริงจัง วันที่ 28 ก.พ.ตนจะลงพื้นที่ จ.สระแก้วไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง เร่งแก้ปัญหาให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว
"เราพูดกันว่าเรื่องนี้ไม่จบไม่เลิก ต้องทำอย่างจริงจัง ตอนนี้ต่างประเทศร่วมมืออย่างดี เราพูดได้อย่างเต็มปากว่าไทยจัดการอย่างจริงจังและอาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วย"
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าไม่จบไม่เลิก แต่เหมือนเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เครือข่ายเยอะไปทุกประเทศ เราแค่พูดฝั่งของเรา แต่ทุกประเทศทั่วโลกโดนเรื่องคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์เยอะมาก เราต้องให้ความสำคัญที่ประเทศเราและเพื่อนบ้านก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่ทราบว่าเริ่มจากตรงไหน ตอนนี้ได้ความร่วมมือจากประเทศที่ได้พูดคุยดีมากๆ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รายงานว่าชายแดนฝั่งตะวันตกที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ได้ดำเนินการในส่วนของข้าราชการที่เกี่ยวข้อง โดยได้ลงโทษด้วยการโยกย้าย และตั้งกรรมการสอบเพื่อเอาผิดไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนคณะทำงานได้ติดตามตรวจสอบขยายผลว่ามีข้าราชการคนใดไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีกบ้าง ซึ่งพบว่ายังมีอีกไม่น้อย ซึ่งกำลังรวบรวมเพื่อดำเนินการออกคำสั่งและลงโทษต่อไป ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ รายงานว่าได้ดำเนินการในส่วนของการตัดสัญญาณสื่อสารที่ผิดกฎหมายในทุกแนวชายแดนที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว และยังได้สั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งของรัฐและเอกชนร่วมกันตรวจสอบ พร้อมทั้งลดความสูงของเสาส่งสัญญาณลง และหันสายอากาศกลับเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนี้ยังจัดรถสายตรวจเพื่อสแกนความถี่โทรศัพท์มือถือที่ใช้ หากเป็นสัญญาณต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยก็จะบล็อกสัญญาณทันที
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวถึงกรณีการส่งตัวคนจีนจากเมืองเมียวดีประเทศเมียนมาล็อต 2 ว่า ขณะนี้ทุกอย่างกำลังทำหน้าที่กระบวนการทางฝ่ายเมียนมาน่าจะจบลงได้เร็ว เพราะกำลังจะมีการประชุมไตรภาคีเร็วๆ นี้ เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้หารือกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ว่าจะมีการประชุมในเร็วๆ นี้ กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีคนที่อยู่ในเมืองเมียวดีประเทศเมียนมาเพิ่มขึ้นมากจริง เราก็กำลังพิจารณาอยู่ เพราะสิ่งที่เราเป็นห่วงจำนวนคนที่ล้นอยู่ 7,000 คน ถ้าเกิดส่วนที่ดูแลเอาไว้ไม่อยู่เขาปล่อยทิ้ง มันจะเป็นปัญหาที่ยุ่งยากกับเรา อันนี้อาจจะต้องมีกระบวนการพิจารณาหาทางประสานกับหน่วยงานต่างๆ ให้เร็วขึ้น
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ได้หารือกับ รมว.การต่างประเทศ อยากให้ประสานประเทศต่างๆ มารับตัวไป ซึ่งทางจีนกำลังพิจารณาอยู่ ต้องมีการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ให้ชัดเจน และมีกระบวนการแยกคัดกรอง ถ้าเป็นไปได้ก็จะมีการประสานงาน และส่งกลับเพิ่มอีก ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเทศพร้อมแค่ไหนอย่างไร ขณะนี้ได้เตรียมการที่ จ.สระแก้ว เพื่อรับตัวคนไทยจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา ขณะนี้ยังไม่ถูกส่งตัวกลับมา เพราะอยู่ในขบวนการคัดกรอง
"เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลกัมพูชากับรัฐบาลไทยได้พูดคุยกันแล้ว คิดว่าน่าจะมีข่าวดีในการที่จะดำเนินการต่อ ซึ่งในวันศุกร์จะเดินทางไปในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูความพร้อมที่จะรองรับการแตกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะตอนนี้มีการกระจายตัวใช้เส้นทางธรรมชาติ ใช้ทั้งรถไฟ รถทัวร์ หนีออกไปในจุดต่างๆ ซึ่งเราได้มีการวางกำลังไว้ และจับกุมตัวได้บ้างแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่มีบทบาทในแก๊งคอลเซ็นเตอร์"
ส่วนกรณีที่ประเทศอินโดนีเซียได้ประสานจะเดินทางมารับตัวชาวอินโดนีเซีย 210 คนในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา นายภูมิธรรมระบุว่า เรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ประสานมาตั้งแต่ต้นว่าเราจะดำเนินการ แต่ยืนยันว่าจะไม่ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จนกว่าจะมีคนมารับ ส่วนกรณีที่ชาวเอธิโอเปียยังตกค้างอยู่ในประเทศไทย และยังอยู่ที่มณฑลทหารบก 310 หากเข้ามาประเทศไทย ก็ต้องถูกส่งตัวไปแล้ว ถ้ายังไม่เข้ามาก็ยังไม่มีใครมารับ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย-เมียนมา-จีนในต้นสัปดาห์หน้า ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานอยู่ มีหลายหน่วยงานที่ต้องมาตกลงกัน เพื่อจะไม่ได้เกิดบรรยากาศแบบว่าอันนี้ของใคร ใครมีอำนาจ ใครไม่มีอำนาจ โดยจะรีบทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ให้สถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ เร่งดำเนินการ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยได้มีการประสานขอความช่วยเหลือเรา
"ผมอยากให้จบภายในวันพรุ่งนี้มะรืนนี้ ก็กลัวเหมือนกันว่าหากปล่อยไม่รีบดำเนินการ มันจะมีปัญหาว่าเขารับไม่ไหว อาจมีการปล่อยเป็นผึ้งแตกรัง เราจะปวดหัว เพราะเส้นทางธรรมชาติมีจำนวนมาก มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาได้ ขณะนี้กำลังทำอย่างเต็มที่ ปัญหาตอนนี้คือการกระจายคนอื่นและคัดกรองคนที่เป็นคนผิดให้ได้ ทำให้เราสามารถขยายเครือข่ายได้ไปถึง ตอนนี้กำลังทำอยู่ ถือว่าได้ผลดีพอสมควร" นายภูมิธรรมกล่าว
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เข้ายื่นหนังสือกับนายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เพื่อขอติดตามความคืบหน้ากรณีที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ กองคดีค้ามนุษย์ และพนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ ร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานในการขอออกหมายจับ พ.อ.หม่อง ชิตตู, พ.ท.โมเต โธน และ พ.ต.ทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์คอลเซ็นเตอร์ชาวอินเดีย
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องการมาพูดคุยกับทางพนักงานอัยการเพื่อขอความชัดเจนในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ พ.อ.หม่อง ชิตตู กับพวก ตนมีข้อมูลที่จะบ่งชี้พฤติกรรมของ พ.อ.หม่อง ชิตตู หากอัยการบอกว่าไม่สามารถทำได้ ก็ต้องอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น หากขาดพยานหลักฐานตนจะช่วยหาพยานหลักฐานให้เพิ่ม แต่หากตนต้องเป็นผู้ไปแสวงหาพยานหลักฐานเองทั้งหมด ไม่รู้ว่าจะมีตำรวจ อัยการและดีเอสไอไปทำไม
"ก่อนหน้านี้้เคยถามไปยังดีเอสไอแล้ว โดยทางพนักงานสอบสวนยืนยันในพยานหลักฐานของเขา สิ่งที่อยากจะทราบคือมันติดปัญหาอะไร ทำไมการประชุมร่วมกันระหว่างดีเอสไอกับอัยการสูงสุดจึงล่ม เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ที่เมียวดี มีทั้งทุนไทยเทา จีนเทา และการที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งได้เยอะขนาดนี้ มันเชื่อมไปกับตำรวจ เชื่อมไปกับคนมีสีจำนวนมาก จึงอยากได้ความชัดเจนจากอัยการ" นายรังสิมันต์กล่าว
ด้านนายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฯ กล่าวว่า ขณะนี้การพิจารณาพยานหลักฐานของดีเอสไอและพนักงานอัยการกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งในการออกหมายจับต้องมีพยานหลักฐานให้รัดกุมเพียงพอ ยืนยันว่าทางอัยการยังคงดำเนินการอยู่ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

