ยอม‘ทักษิณ’ชักใย ฝ่ายค้านตราหน้าซักฟอก‘อิ๊งค์’/พท.ปัดตีความเอื้อธรรมนัส

"อิ๊งค์" แจงยื่นศาล รธน.ตีความนิยามซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้ กม.ชัดเจน คนทำงานง่าย "ชูศักดิ์" เผยอยู่ระหว่างยกร่างเสนอ "สรวงศ์" ปัดปูทางปรับ ครม. เอื้อ “ชาดา-ธรรมนัส” นั่งเก้าอี้ "สำนักข่าวอิศรา" เปิดญัตติซักฟอก 10 รัฐมนตรี ล็อกเป้า "นายกฯ"  สมัครใจยินยอมให้ "ทักษิณ" ชี้นำชักใย แถมขาดความซื่อสัตย์สุจริต เอื้อประโยชน์ตนเอง-พวกพ้อง สะพัด! "ปชน." ฉุนข้อสอบรั่ว พรรคร่วมฝ่ายค้านเกลือเป็นหนอน เปลี่ยนชำแหละ "นายกฯ  อิ๊งค์" รายเดียว ดักทางหนีลอยตัวปล่อย "รมต." ตอบคำถามแทน "มนพร-อนุทิน" ประสานเสียงพรรครัฐบาลแน่นปึ้ก "วันนอร์" นัดประชุมร่วม​ 17  มี.ค. ถกส่งศาลตีความ​การแก้ไขรัฐธรรมนูญ​

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ ขอความชัดเจนเรื่องกรอบจริยธรรมและนิยามคำว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ว่า เรื่องจริยธรรมใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่สร้างความชัดเจนเท่านั้นเอง เพราะของเดิมไม่ทราบว่าขอบเขตเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วกฎหมายทุกเรื่อง อย่างเช่นวันนี้ตนจะคุยเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า  รวมถึงเรื่องอะไรก็ตามต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน  เพื่อให้คนปฏิบัติจะได้ปฏิบัติได้อย่างชัดเจน เช่น ตำรวจจะได้รักษากฎหมายได้อย่างชัดเจน

ถามว่า เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับ ครม.ด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องจริยธรรมในการตั้งใครเข้ามา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อันนี้ไม่เกี่ยว ตอนที่ตนรับตำแหน่งนายกฯ การตั้งบุคคลต้องตรวจสอบประวัติเยอะมาก บางทีไม่ทราบด้วยว่าเคสนี้ควรจะได้หรือไม่ได้ มีความสับสนเยอะในการนำคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน เรื่องนี้ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เพราะไม่อยากจะโดนเรื่องจริยธรรม 

ซักว่าเกี่ยวข้องกับคนที่มีประวัติสุ่มเสี่ยงและทำให้ไม่กล้าตั้งก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่ นายกฯ  กล่าวว่า ไม่เกี่ยวค่ะๆ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธารเตรียมออกรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร”  ประจำเดือน มี.ค.2568 ในวันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค.นี้ เวลา 08.00-08.30 น. ทาง NBT 2HD และ TV5 และวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ โดยจะอัปเดตประเด็นภาพรวมเศรษฐกิจไทย อนาคตภาคการเกษตรและภาคการลงทุนจากต่างประเทศ

ส่วนนายชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องการขอให้ศาลระบุคำนิยามไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ยังเป็นเรื่องลับมากอยู่ ตนเข้าใจว่าคงจะทำให้เกิดความชัดเจนในการตีความเรื่องคุณสมบัติ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการตีความ ซึ่งทุกคนทราบกันดีอยู่ เขาก็ต้องการให้เกิดความชัดเจน แต่รายละเอียดยังตอบไม่ได้ เพราะสำนักเลขาธิการ ครม.ตีเป็นชั้นความลับอยู่

"ตอนนี้เขากำลังยกร่างอยู่ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่ยังไม่รู้ แต่จะยื่นไปก่อน เขาไม่อยากให้คุณไปตีความถึงขนาดทำนู่นทำนี่ เพียงแต่ว่าเขาต้องการให้เกิดความชัดเจนเท่านั้นเอง คุณสมบัติข้อนี้ๆ เป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราก็ทราบดีว่าไม่มีความชัดเจน” นายชูศักดิ์กล่าว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)   ปฏิเสธการส่งเรื่องสอบถามนิยามคำว่าซื่อสัตย์สุจริต ว่าไม่ได้เกี่ยวกับการปรับ ครม. แค่ต้องการความชัดเจน

ปัดถามศาลปูทาง 'ชาดา-ผู้กอง'

ถามว่า มีการเชื่อมโยงว่าจะมีการแต่งตั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม เข้ามาเป็นรัฐมนตรี จึงต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวเลย เพราะในพรรคร่วมรัฐบาลเองไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย และอย่างที่บอก ที่เราต้องการให้เกิดความชัดเจน เพราะการปฏิบัติหน้าที่จะได้ไม่เป็นการติดขัด

ที่รัฐสภา นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม  ในฐานะตัวแทนรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 ก.พ.ว่า ได้หารือกันระหว่างวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีกี่คน โดยได้กำหนดกรอบเวลาคร่าวๆ ว่าจะใช้เวลาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มี.ค. ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค. และหลังจากนี้จะประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาและกำหนดวันที่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาเท่าใด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ถูกยื่นอภิปรายและประเด็น

ถามว่า ฝ่ายค้านขอเวลาอภิปราย 5 วัน นางมนพรกล่าวว่า คงไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่เคยขอวันอภิปรายถึง 5 วัน แต่ทั้งหมดก็ต้องหารือกัน เพราะต้องดูจำนวนผู้ที่ถูกอภิปรายก่อน

"ยืนยันรัฐมนตรีทุกคนมีความพร้อมที่จะตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน ซึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลมีการปรึกษาหารือกันตลอด ขอเน้นย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการตกลงกันแล้วว่าต้องเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะนำไปสู่การโหวตลงมติ ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นปึ้ก" นางมนพรกล่าว

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการจับมือกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ว่าการจับมือกันมิตรภาพมันไม่เสื่อมคลายไปตรงไหนในการทำงานร่วมรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องทำเพื่อประชาชน เรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัวไป

"ขณะนี้ยังไม่มีการสลับขยับตำแหน่ง รัฐมนตรี โดยในวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็มีการรับปากว่าเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะต้องช่วยกัน ให้ข้อมูลให้กำลังใจและสนับสนุน ให้ทุกคนเกิดความสบายใจในการชี้แจง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายกฯ ได้สรุปให้กับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่เข้าร่วมในวงดินเนอร์เมื่อวานนี้ได้ฟัง ซึ่งเรารับปาก" นายอนุทินกล่าว

มีรายงานว่า สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่เอกสารร่างญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่จะทำถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเนื้อหาระบุว่า ขอเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 2.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม 3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม 4.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย 5.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน 6.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ 7.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ 8.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม 9.นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ 10.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ โดยพวกข้าพเจ้าเห็นว่ารัฐมนตรีทั้งสิบเป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป จำแนกเป็นรายบุคคลได้ ดังนี้ 

ซักฟอก 'อิ๊งค์' ยอมให้พ่อชักใย

น.ส.แพทองธาร ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ และขาดความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน จนไม่สามารถส่งมอบนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ด้วยการแต่งตั้งบุคคลที่ขาดความซื่อสัตย์สุจริต ขาดความรู้ความสามารถให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล เพียงเพื่อให้มาเป็นนั่งร้านช่วยแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนและกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย นำผลประโยชน์ของชาติไปแลกเปลี่ยนกับประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว ดำเนินนโยบายประชานิยมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่สนใจผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ  ส่งผลให้เศรษฐกิจโตรั้งท้ายในภูมิภาค ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ตามที่ให้คำมั่นไว้ต่อสภาและพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังขาดคุณธรรมและจริยธรรมอย่างร้ายแรง กระทำการทุจริตเชิงนโยบาย มีเหตุให้เชื่อได้ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการขนาดใหญ่

นายภูมิธรรม ขาดภาวะผู้นำในการบังคับบัญชากองทัพ ไร้เจตจำนงในการปฏิรูปกองทัพ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตน โดยปล่อยปละละเลยให้กองทัพใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายจนกลายเป็นกองทัพที่มีอำนาจเหนือพลเรือน การทุจริตภายในกองทัพเพื่อนำผลประโยชน์มาแบ่งปันกันในหมู่นายทหาร ทำให้การปฏิรูปกองทัพ ถอยหลังลงคลอง

นายสุริยะ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จงใจไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนที่เป็นพวกพ้องของตนเองจนทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียประโยชน์อย่างร้ายแรง

นายอนุทิน ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จงใจใช้อำนาจรัฐและกลไกของหน่วยงานกระทรวงมหาดไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ เพื่อให้ตนเองและพวกพ้องได้รับประโยชน์ที่มิควรได้

นายพีระพันธุ์ ไม่แก้ไขปัญหาราคาไฟฟ้าและน้ำมันแพงตามที่ได้สัญญาไว้ต่อประชาชน แต่ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเพียงเพื่อเอื้อผลประโยชน์ของชาติให้กับกลุ่มทุนพลังงานซึ่งให้การสนับสนุนตนเองและพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัด

นายมาริษ ดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาดต่อสถานการณ์ในเมียนมาล้มเหลว ตั้งแต่การสร้างสันติภาพในเมียนมา มาจนถึงปัญหาผู้ลี้ภัย การปราบปรามอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ และการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ไร้ความสามารถในการบริหารการศึกษา ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ใช้อำนาจและหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยทุจริต ปล่อยปละละเลยและมีส่วนร่วมในการทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ เอื้อประโยชน์ให้เอกชนแสวงหาประโยชน์จากรัฐจนทำให้หน่วยงานของรัฐได้รับความเสียหายทั้งในอดีตและปัจจุบัน

นายเอกนัฏ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยอมให้กลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรของชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปล่อยให้เอกชนประกอบกิจการผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยจะปฏิบัติหน้าที่ติดตามตรวจสอบและริเริ่มแก้ไขปัญหาเฉพาะเมื่อเรื่องผิดกฎหมายที่ซุกซ่อนไว้ถูกเปิดโปงจนเป็นที่สนใจของสาธารณชนเท่านั้น

นายทวี มีพฤติการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สมัครใจใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกให้ไม่ต้องถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาล อีกทั้งยังปล่อยปละละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเอื้อผลประโยชน์ให้เอกชนบางรายเป็นการเฉพาะ แม้จะทราบพฤติการณ์ที่ผิดกฎหมายนั้นแล้ว แต่ก็มิได้ระงับยับยั้งหรือใช้อำนาจของตนเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง

นายสุชาติ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวงมาเป็นเวลาช้านาน กระทำการอันเป็นการขัดกันของประโยชน์ โดยอาศัยความเป็นรัฐมนตรีของตน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว และพวกพ้อง จนทำให้หน่วยงานของรัฐเสียหายอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลยให้บริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ไม่ได้มีความสามารถเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากการออกใบอนุญาตของรัฐ มีพฤติกรรมตั้งตนเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อให้พวกพ้องและคนต่างด้าวในเครือข่ายของตนประกอบธุรกิจผิดหมายที่บ่อนทำลายความผาสุกของประชาชน

ท้ายหนังสือระบุว่า ผลจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ขาดความรู้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ของ น.ส.แพทองธาร และรัฐมนตรีอื่นรวม 10 คน ดังที่พวกข้าพเจ้าได้กล่าวมาข้างต้น ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง หากปล่อยให้บุคคลทั้งสิบยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ยากจะแก้ไขเยียวยาได้ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุผลและรายละเอียดต่างๆ จะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

หึ่ง! ปชน.ปรับเป้าแค่ 'นายกฯ'

มีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน พรรค พปชร.ได้รับจัดสรรเวลา 2 ชม. โดยมี 4 เรื่องหลักที่จะอภิปราย คือ เรื่องที่ดินอัลไพน์, เรื่องการพักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจของนายทักษิณ, เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเด็นกาสิโน และเรื่องเอ็มโอยู 2544

ช่วงค่ำ มีรายงานจากพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ภายหลังมีการเผยแพร่ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล น.ส.แพทองธาร และ 10 รัฐมนตรีนั้น ล่าสุดทีมยุทธศาสตร์พรรค ปชน.สับขาหลอก เปลี่ยนแผน โดยแผนใหม่จะล็อกเป้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร เพียงผู้เดียวเท่านั้น

"เหตุผลของการสับขาหลอก เนื่องจากเกิดกรณีข้อสอบรั่ว เกลือเป็นหนอนภายในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งทางทีมยุทธศาสตร์ไม่แน่ใจว่าเป็นพรรคใดที่แอบส่งการบ้านรายชื่อรัฐมนตรี 10 คน รวมถึงพฤติการณ์ต่างๆ ของรัฐมนตรีที่ถูกจับขึ้นเขียงไปให้สื่อนำไปเผยแพร่ เสมือนเป็นการปล่อยข่าวส่งซิกไปให้รัฐบาลล่วงหน้า" แหล่งข่าวจากพรรค ปชน.ระบุ

 มีรายงานด้วยว่า ทีมยุทธศาสตร์ ปชน.ยังมองว่าการหว่านแหอภิปรายรัฐมนตรีบวกนายกฯ  รวม 10 คนนั้น อาจจะสูญเปล่า อภิปรายไม่เข้าเป้า อีกทั้งยังอาจจะเปิดช่องให้นายกฯ ลอยตัวเหนือปัญหาให้คนอื่นมาตอบแทน เลยเปลี่ยนแผนให้โฟกัสไปที่ตัวนายกฯ คนเดียวไปเลย รวมทั้งต้องการสั่งสอนรัฐบาลกรณีที่ฝ่ายค้านส่งสัญญาณขอเวลาในการอภิปรายไป 5 วัน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเต็มที่ แต่ทางรัฐบาลไม่สนใจ ส่งสัญญาณตัดเวลาให้อภิปรายเพียง 2 วัน

"แม้จะล็อกเป้าอภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว แต่จะมีการอภิปรายสาวไส้ขยายผลแต่ละกระทรวงด้วย ดังนั้นในส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่า กระทรวงใดมีความผิดที่ชัดเจน จะมีการโรยเกลือ ยื่นร้อง ป.ป.ช.หลังจากศึกซักฟอกต่อไป ไม่มีละเว้น

วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา​ ประธานรัฐสภา​ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ระหว่างตัวแทนคณะรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร​ พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร​ พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ก่อนแถลงผลประชุมว่า​ ที่ประชุมได้ตกลงกันจะมีการประชุมร่วมกัน​ของรัฐสภา วาระพิเศษ ในวันที่ 5 มี.ค.2568​ เวลา 09.30 น. และจะมีการประชุมร่วมครั้ง​ในวันที่ 17 มี.ค.2568 เพื่อพิจารณาญัตติขอให้รัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ ซึ่งเป็นญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ​ สว. และนายวิสุทธิ์​ ไชยณรุณ​ สส.พรรคเพื่อไทย ​เพื่อหาข้อยุติว่า​ ที่ประชุมเห็นด้วยที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากเห็นด้วย​ ก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติหรือไม่​ และทำกี่ครั้ง

ส่วนคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมวาระการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนที่ดินของรัฐ กรณีศึกษาพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้เชิญนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ.การปกครอง  แถลงว่า นายธนดลได้เปิดเผยกับที่ประชุมว่าเร็วๆ นี้จะมีข่าวใหญ่ เป็นการบังคับใช้กฎหมายยึดทรัพย์เพิกถอนสิทธิการใช้ที่ดินผิดประเภท แต่นายธนดลไม่ได้บอกรายละเอียด ขอให้รอติดตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี