ส่ง40‘อุยกูร์’กลับซินเจียง ไทยอ้างจีนดูแลปลอดภัย

นายกฯ ปัดแจงส่งอุยกูร์กลับจีน ย้ำยึดกฎหมาย-สิทธิมนุษยชน "สถานทูตจีน" โพสต์เองเปิดภาพ 40 ชาวอุยกูร์กลับถึงซินเจียง ยันปฏิบัติตาม กม.อย่างมีอารยะ "ผบ.ตร." แจงดำเนินการภายใต้ สมช. เผยจีนทำหนังสือทางการถึงไทย พร้อมรับปากเรื่องความปลอดภัย สภาปะทะวุ่น ปชน.ชงญัตติศึกษาผลกระทบ "โรม" จ่อนำหารือใน กมธ.ความมั่นคงฯ สัปดาห์หน้า ฝ่ายค้านซัดความร่วมมือที่น่าเกลียด บี้ไทยลาออกจากยูเอ็นเอชอาร์ซี กสม.ร่อนหนังสือด่วนให้ทบทวน ศาลยกคำร้องไต่สวนฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า มีการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจริงหรือไม่ ภายหลังปรากฏภาพรถบรรทุกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และมีเที่ยวบินออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง ได้รับทราบเรื่องหรือยังว่า ยัง ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด พูดจริงๆ ว่าเรื่องแบบนี้ ถ้าประเทศใดก็ตามในโลก จะทำอะไรต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดกระบวนการระหว่างประเทศ รวมถึงยึดเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน  อันนี้คือเรื่องใหญ่ ทุกประเทศต้องยึดเรื่องนี้เป็นหลัก

ทางด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ  และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า  ได้พยายามพูดคุยกับหลายคนที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองว่า ที่มีข่าวลือว่าจะขนชาวอุยกูร์ส่งกลับไปที่ประเทศจีนมีความชัดเจนอย่างไร โดยเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมต่างปฏิเสธ ซึ่งยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม มีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่ทำให้เกิดความน่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ หากมีการส่งชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีนจริงๆ จะเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ประเทศไทย จะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก และเกิดคำถามว่าการบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทยเป็นอย่างไร

"หากยังมีการจำกันได้ เราเคยมีการส่งชาวอุยกูร์ไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นคือมีระเบิดเกิดขึ้น ซึ่งผมก็ไม่ไปทำนายอะไร แต่มองด้วยความเป็นห่วงว่าหากมีการตัดสินใจของรัฐบาลในการที่จะส่งชาวอุยกูร์ไปให้จีน ก็อาจจะมีผลกระทบหลากหลายรูปแบบมากๆ หากคำนวณทุกอย่างแล้ว หากรัฐบาลสนใจที่จะส่งชาวอุยกูร์จริงๆ ผมก็ได้แค่ภาวนาว่าจะไม่ใช่เรื่องจริง" นายรังสิมันต์กล่าว และว่า หลังจากนี้เราจะได้มีการหารือกันในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สอบถามไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, สำนักงาน ตม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งระบุว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากฝ่ายรัฐบาล นอกจากนี้ ยังพบเที่ยวบินระยะสั้นที่เดินทางออกจากมณฑลซินเจียง เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 26 ก.พ. ถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 04.00 น. ซึ่งคืนวันที่ 26 ก.พ. ตนเองได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่อยู่ในไทย พวกเขาตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ทั้งนี้ หากเป็นการสมคบคิดระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ในขณะที่ไทยเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) ควรพิจารณาถอนตนเองออก หากมีการผลักดันชาวอุยกูร์กลับจีนจริง และถือเป็นความร่วมมือที่น่าเกลียดที่สุด

สภาชงศึกษาผลกระทบ

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานการประชุม นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณาข้อเท็จจริงและผลกระทบกรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับไปเผชิญการประหัตประหารในประเทศจีน  โดยภายหลังนายรอมฎอนกล่าวเปิดญัตติเสร็จ มีการถกเถียงกัน สุดท้ายขอให้ส่งญัตติไปที่รัฐบาลดำเนินการต่อ ก่อนจะเปิดสมาชิกอภิปราย ช่วงหนึ่งระหว่างที่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรค ปชน. กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอให้ประธานสภาฯ นับองค์ประชุมหรือมีการประชุมลับต่อไป

ทำให้นายรังสิมันต์ทักท้วง จนเกิดการโต้เถียงกัน ในที่สุดนายภราดรขอพักการประชุม 10 นาที ก่อนจะกลับมาเปิดประชุมอีกครั้งในเวลา 16.30 น.  นายภราดรกล่าวว่า อยากให้ผู้เสนอได้เปลี่ยนชื่อเพื่อได้เดินหน้าต่อไป และมีการประชุมต่อ แต่ยังติดญัตติของนายอดิศรที่ขอให้นับองค์ประชุม ซึ่งนายอดิศรยอมถอนญัตตินับองค์ประชุมออก

จากนั้นนายรอมฎอนเปลี่ยนชื่อญัตติเป็นขอให้สภาพิจารณาข้อเท็จจริงและผลกระทบกรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลพิจารณา ทำให้นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรค พท. ลุกขึ้นประท้วงว่า คำว่าชาวอุยกูร์ละเอียดอ่อนหรือไม่ ให้ใช้คำว่าเป็นผู้ลี้ภัยกลับประเทศจีน ก่อนที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม  สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ลุกประท้วงว่า ถ้ายุ่งยากมากก็นับองค์ประชุมดีกว่า ท่านเป็นตัวแทน สส.จีนหรือ สส.ไทย ทำให้นายไชยวัฒนาไม่พอใจและตอบโต้ว่าเป็นผู้แทนของคนไทย ก่อนที่นายภราดรจะไกล่เกลี่ยยุติการโต้เถียง และให้ น.ส.ชลธิชาอภิปรายต่อ

วันเดียวกัน น.ส.หรรษา หอมหวล เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ประธาน กสม.ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงนายกรัฐมนตรี แจ้งข้อห่วงกังวลต่อการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง โดยขอให้พิจารณาเรื่องนี้ ดังนี้ การส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทางจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของไทยในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศมุสลิมทั้งในอาเซียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง รวมถึงอาจกระทบต่อความสัมพันธ์กับองค์การความร่วมมืออิสลาม จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยกับประเทศตะวันตก ซึ่งให้ความสำคัญอย่างมากกับการเคารพสิทธิมนุษยชน นอกจากอาจมีผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่นักลงทุนต่างชาตินำมาประกอบการพิจารณานำเงินมาลงทุน จึงขอให้นายกฯ ทบทวนนโยบายการส่งกลับดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยสูญเสียการยอมรับที่พัฒนามายาวนานข้างต้น

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและนักสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นต่อศาลอาญาให้ไต่สวนฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกร้องที่ 2 กรณีละเมิดพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (พ.ร.บ.อุ้มหาย) จากกรณีที่มีการบังคับส่งชาวอุยกูร์จำนวน 48 คน กลับไปยังประเทศจีน ต่อมา น.ส.พรเพ็ญเปิดเผยว่า ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ร้องยังไม่ได้เป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการกระทำเเทนตามมาตรา 26 (6) ของ พ.ร.บ.อุ้มหาย โดยหลังจากนี้จะไปปรึกษากับทีมทนายความในเรื่องการจะยื่นอุทธรณ์คำสั่ง หรือยื่นคำร้องใหม่

เปิดภาพอุยกูร์กลับถึงจีน

จากนั้นเวลา 16.40 น. เพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ภาพชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับจีนจากประเทศไทย พร้อมข้อความว่า ชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 40 รายถูกส่งตัวกลับซินเจียงของประเทศจีนจากประเทศไทย โดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำของบริษัทการบินพลเรือนของจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมระหว่างจีนและไทย ที่ได้ร่วมมือจัดการกับอาชญากรรมการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของพลเมืองจีน ตามกฎหมายของสองประเทศและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ

ชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดหมายที่ถูกส่งกลับจีนในครั้งนี้ ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 10 กว่าปี เนื่องจากปัจจัยระหว่างประเทศที่ซับซ้อน หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศจีน ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อให้คนเหล่านี้กลับบ้านหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ได้มาตรฐาน ยุติธรรม และมีอารยะ และช่วยให้พวกเขากลับไปใช้ชีวิตปกติ

ต่อมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชี้แจงว่า เรื่องนี้ ตร.ดำเนินการภายใต้สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสืออย่างเป็นทางการจากประเทศจีนผ่านทางการทูตมาทางรัฐบาลไทย ซึ่งขั้นตอนนี้ในหนังสือได้แสดงความจริงใจและมีเจตจำนงที่จะดูแลคนจีนชาวอุยกูร์ โดยให้คำมั่น ความจริงใจ ยืนยันเป็นหนังสือว่าจะดูแลเรื่องความปลอดภัย เรื่องที่อยู่ที่พักอาศัย รวมถึงให้ญาติชาวอุยกูร์ที่อยู่ในประเทศไทยมานานได้ร่วมต้อนรับที่ประเทศของเขาด้วย

เมื่อรัฐบาลได้รับหนังสือ รัฐบาลได้พิจารณาโดยหลักทางมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชนและหนังสือที่ทางการจีนได้ทำถึงทางการไทย จากนั้นรัฐบาลได้มีการประชุมโดยใช้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาเรื่องนี้ จึงมีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งชาวอุยกูร์กลับ เมื่อเราได้รับมติว่าจะต้องส่งกลับ หลายท่านอาจไม่รู้ว่าชาวอุยกูร์อยู่กับเรามาเกือบ 10 ปี ซึ่งเราต้องมีภาระรับผิดชอบในเรื่องการดูแลมาตลอดเวลา เมื่อเราได้รับมติจาก สมช. ก็มีความจำเป็นต้องพิจารณาและวางแผนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เรียบร้อย รอบคอบและปลอดภัยกับทั้งตัวของชาวอุยกูร์และตัวเจ้าหน้าที่ เราอยู่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหลักสิทธิมนุษยชน ทั้ง พ.ร.บ.อุ้มหาย เราต้องการที่จะให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบหรือบานปลาย

"ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้อยู่แล้วว่าเมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ผมเองได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ รอง  ผบ.ตร. รับผิดชอบและดูแลกำกับเรื่องนี้ ได้มีการวางแผนกันมาตลอด ได้มีการเสนอรูปแบบการปฏิบัติให้ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้พิจารณา ซึ่งการพิจารณาก็ผ่านทาง สมช. ทุกอย่างเราจะไม่คิดเองแล้วทำเลย แต่ทุกอย่างใช้เวลามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว การนำตัวชาวอุยกูร์ออกจากสถานที่ต้องกักที่ สตม.สวนพลู ก็เป็นกระบวนการขั้นตอนที่เราทำให้เกิดการเข้าใจก่อน เมื่อเดินทางออกไปสังเกตได้ว่าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเลย และเราได้ส่งมอบให้ทางการจีนนำขึ้นเครื่องไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเทคนิคการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติ อย่าไปกังวลเรื่องนั้นเลย ผมอยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการที่ถูกกักขังมานานเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ความชอบธรรมต่างๆ ที่เราปฏิบัติภายใต้กฎหมายและหลักสากลต่างๆ อย่างครบถ้วนถูกต้อง" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุ

ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอเรียนเพิ่มเติมแบบนี้ว่า ทางรัฐบาลไทยได้มีการประชุมและตกลงกันว่าเราจะส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงไปอยู่ที่มณฑลซินเจียงประเทศจีน เพื่อคอยรอดูว่าเมื่อเครื่องลงแล้วรัฐบาลจีนได้ทำตามข้อตกลงการแสดงความจริงใจนั้นไหม ลงไปญาติมารับไหม และมีการตรวจสุขภาพไหม ผมได้รับการยืนยันว่าเมื่อชาวอุยกูร์เดินทางไปถึงสนามบิน ได้มีการตรวจสุขภาพ ญาติมารับ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ทางการจีนได้ทำหนังสือมาที่รัฐบาลไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตำรวจไทยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของวิธีการและกฎหมายทุกอย่างแล้ว

"จำได้ไหมว่าที่ทางท่านนายกฯ เดินทางไปประเทศจีน โดยประธานาธิบดีได้ให้การต้อนรับ และได้มีการให้คำมั่นสัญญาทั้งเป็นหนังสือและด้วยวาจาว่า เมื่อส่งกลับมาตามกระบวนการขั้นตอนทุกอย่างทางการจีนจะปฏิบัติตามหนังสือที่ส่งมา และวันนี้ทราบว่าเมื่อไปถึงแล้วได้มีการตรวจสุขภาพ ญาติมารับหมดแล้ว และทราบด้วยว่าทางการจีนได้มีการให้งบประมาณในการสร้างที่พักอาศัยให้ด้วย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี