“เผ่าภูมิ” แจงระยะสั้นตลาดหุ้นยังผันผวน ไม่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจ ยัน ศก.ไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น "กกร." เห็นต่างชี้สัญญาณอ่อนแรง คาดจีดีพีปีนี้โตแค่ 2.4-2.9% ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้า แนะรัฐเจรจาสหรัฐ ลดการพึ่งพาตลาดเดิม เร่งหาตลาดใหม่รับมือทรัมป์ขึ้นภาษี
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอน รวมถึงยังมีเรื่องของความเชื่อมั่นและการเก็งกำไรด้วย และยังมีปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะจากนโยบายของประเทศมหาอำนาจ ที่มีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ มองว่าปัจจุบันราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน และยอมรับว่าตลาดหุ้นในระยะสั้นมีปัจจัยเยอะ ส่งผลให้อาจจะคาดการณ์ยาก แต่ในระยะยาว เชื่อว่าราคาหุ้นจะต้องสะท้อนและเข้าสู่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
“พื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยแกร่ง อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ก็ไม่ได้ขึ้นแรงจนน่าพอใจ รัฐบาลจะต้องทำมากกว่านี้ ถามว่าดีกว่าปีที่แล้วหรือไม่ ต้องตอบว่าดีกว่ามาก ดังนั้นพื้นฐานเราดี แต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แต่คงพูดไม่ได้ว่าควรจะซื้อหุ้นหรือควรจะขายคืน แต่วันนี้เราเห็นข้อมูลทางเศรษฐกิจแบบนี้ เราเห็นมาตรการอะไรบ้างที่จะออกมา และเห็นว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง แต่ยังไม่เต็มศักยภาพ โดยเราต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจโตเต็มศักยภาพ” นายเผ่าภูมิระบุ
วันเดียวกัน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมยังมีความกังวลต่อการดำเนินนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทย โดยล่าสุดสหรัฐมีการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 10% เป็น 25% และยกเลิกข้อยกเว้นรายประเทศ ข้อตกลงตามโควตา รวมทั้งยกเลิกการยกเว้นภาษีแบบรายสินค้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2568 ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมไปยังสหรัฐ จะต้องแบกรับภาระภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น กกร.จึงเสนอขอให้ภาครัฐเร่งให้มีการบูรณาการข้อมูลการค้าในทุกมิติระหว่างไทยและสหรัฐ อาทิ ดุลการค้า, ดุลภาคบริการและดิจิทัล, ดุลภาคขนส่ง, ดุลภาคการศึกษา เป็นต้น เพื่อนำมาวิเคราะห์กำหนดท่าทีร่วมกับภาคเอกชน ในการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ในการรับมือนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ และผลกระทบจากสงครามการค้า เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ลดการพึ่งพาตลาดเดิม
“เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณอ่อนแรงลง สะท้อนผ่านจีดีพีไตรมาส 4/2567 ที่ขยายตัวเพียง 3.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ราว 4.0% ส่งผลให้ทั้งปี 2567 จีดีพีขยายตัวเพียง 2.5% ต่ำกว่าระดับศักยภาพ ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2568 เผชิญความเสี่ยงสูง สำนักวิจัยในต่างประเทศปรับลดประมาณการจีดีพีไทยลงเหลือ 2.6% จากเดิมอยู่ที่ 2.7% ขณะที่ กกร.คาดว่าจะอยู่ที่ 2.4-2.9% ส่งออกคาดอยู่ที่ 1.5-2.5% และเงินเฟ้อคาดอยู่ที่ 0.8-1.2% ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้า และแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่จะยังมีต่อเนื่อง ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศยังเปราะบาง สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่นำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” นายเกรียงไกรระบุ
นายเกรียงไกรกล่าวว่า โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เป็นการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อลดภาระการผ่อนอย่างมีนัยสำคัญให้กับลูกหนี้ เป็นมาตรการชั่วคราวที่ยาวถึง 3 ปี เพียงพอในการสนับสนุนและรองรับกับมาตรการระยะถัดไปของภาครัฐในการเข้ามาปฏิรูปเชิงโครงสร้างด้านต่างๆ ที่จะแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม มาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบและประคองการเติบโตทั้งในระยะสั้นและระยะยาวยังมีความจำเป็น โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าโลก การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การลดต้นทุนผู้ประกอบการ และการยกระดับภาคการผลิตให้แข่งขันได้ในระยะยาว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


